บ้านหนองใหญ่โมเดล


การสร้างเงื่อนไขทางบวก เป็นเรื่องที่ครูควรใช้ให้มากๆ

กลับจากไปเยี่ยมชมโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองใหญ่  ด้วยความชื่นมื่น  มาประชุมต่อที่โรงเรียนของตนเองตอนบ่ายวันเดียวกัน  ก็เลยนำเอาเรื่องที่เพิ่งไปเยี่ยมชม  มาเล่าให้คุณครูที่โรงเรียนฟังอย่างตรงไปตรงมาว่า  ไปดูโรงเรียนเทศบาลมาเก้าโรงเรียน  มีทั้งขาดๆเกินๆ  ไม่ค่อยจะพอดีสักโรง ดังที่ได้บันทึกไว้แล้วทุกโรง  แต่มาที่โรงเรียนเทศบาลบ้านหนองใหญ่  แล้วชื่นใจจริงๆที่ได้เห็นการจัดการศึกษาที่สมบูรณ์แบบ มีการนำรูปแบบของลำปลายมาศที่เป็นโรงเรียนพี่เลี้ยง  มาผสมผสานกับโรงเรียนในบริบทของตนเองได้อย่างเหมาะเจาะพอดิบพอดี จนสามารถมีโมเดลของตนเองได้เลย  แม่ใหญ่จึงขึ้นหัวเรื่องไว้ว่า   "บ้านหนองใหญ่โมเดล"  ตามคำที่เขากำลังฮิตๆกันอยู่

รายละเอียดการเรียนการสอน  คงจะไม่เขียนให้ยืดยาว  เพราะบรรยายประกอบรูปภาพไว้หมดแล้วทั้ง 32 ภาพ https://www.facebook.com/#!/media/set/?set=a.2325643297784.136059.1150695493&type=1

 แต่อยากจะชี้จุดที่ชื่นชมสองสามเรื่องที่ได้สะท้อนกลับไปให้คณะผู้บริหารและคุณครูฟังแล้ว

เรื่องแรกที่สังเกตเห็นจากห้องเรียนทั้งสี่ห้องคือ  

  •  มีแนวคิดเดียวกัน  คือให้เด็กได้เรียนรู้อย่างมีสมาธิ  แต่มีรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ได้ ก๊อบปี้เหมือนกันทุกๆห้อง
  • ครูใช้เงื่อนไขทางบวก ซึ่งสังเกตเห็นได้ชัดเวลาพูดกับเด็ก เช่น "ขอบคุณคนเก่งที่เงยหน้าขึ้นมาฟังครู" ผลก็คือเด็กที่ยังเล่นอยู่ก็หยุดมาฟังครูด้วย (ศิลปเรื่องนี้  เป็นเรื่องยากมากทีเดียวสำหรับครูทั่วไป) ไม่เห็นอาการ "เก็บเด็ก"จากที่นี่เลย
  • หัวหน้าสายบอก เราไปดูลำปลายมาศมา  เขาเน้นสี่กิจกรรมหลัก  แต่ของเราไม่ทิ้งหกกิจกรรมหลักที่เราทำอยู่แล้ว(นี่สิที่บอกว่านำของเขามาผสมผสานกับของเรา)
  • เด็กเรียบร้อย   ช่วยตัวเองได้  แม้จะเพิ่งย้ายมาจากอาคารเดิมที่กำลังทุบสร้างใหม่ ได้เพียงสามอาทิตย์  แต่ก็ปรับตัวได้เป็นอย่างดี เดินหิ้วรองเท้าลงบันไดไปเข้าห้องน้ำที่ไกลออกไปจากห้องเรียนเอง อย่างเป็นระเบียบ  ผ่านผู้ใหญ่ น้อมตัวลงต่ำอย่างมีสัมมาคารวะทุกคน และในขณะที่มีระเบียบเรียบร้อย เด็กก็ดูสดใสมีความสุข  กล้าพูดกล้าแสดงออก  ไม่ใช่แถวตรงแบบทหารเกณฑ์
  • เด็กอนุบาลสองและอนุบาลสาม สามารถเขียนหนังสือได้เป็นคำโดยวิธีธรรมชาติ โดยดูจากครูเขียนบนกระดาน  แต่คำๆนั้นมีความหมายสำหรับตัวเขาเอง มิใช่ลอกลงเฉยๆ  เมื่อถามก็ตอบได้ว่าเขียนอะไร
  • ข้อสุดท้ายเป็นข้อเหลือเชื่อแต่เป็นไปได้   ที่แม่ใหญ่ ขอกล่าวอย่างชื่นชมมากๆคือ  เด็ก 34 คน ต่อครูเพียงคนเดียว  ครูมีการบริหารจัดการเรียนการสอนได้อย่างดี เด็กสนใจเรียนรู้  ไม่ป่วนห้อง ไม่วุ่นวาย (ข้อนี้ต้องบอกว่าครูเก่งมากจริงๆ)

ต้องขอชมผู้บริหาร ทั้ง ผ.อ. และรอง ผ.อ.  ที่มาอยู่กับพวกเราโดยตลอด   ทั้งสองคนมีบุคลิกของผู้นำที่จะสามารถนำพาครูของโรงเรียนไปสู่จุดมุ่งหมายได้ด้วยความมุ่งมั่น แต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นกัลยาณมิตร ผลงานจากการพาครูไปลำปลายมาศมาสามสี่ครั้ง โดยไปฝังตัวเรียนรู้ สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทั้งเด็ก ครูและผู้บริหารเอง   ขอให้สิ่งดีดีนี้จงอยู่กับโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองใหญ่ตลอดไป  ว่างๆจะพาครูพัฒนาเด็กไปเยี่ยมชมบ้างนะคะ ท่านผ.อ.

หมายเลขบันทึก: 458958เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2011 16:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 14:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

แม่ใหญ่คะ

หนูชอบศิลปะในการสอนในข้อนี้มากเลยค่ะ

เด็กอนุบาลสองและอนุบาลสาม สามารถเขียนหนังสือได้เป็นคำโดยวิธีธรรมชาติ โดยดูจากครูเขียนบนกระดาน แต่คำๆนั้นมีความหมายสำหรับตัวเขาเอง มิใช่ลอกลงเฉยๆ เมื่อถามก็ตอบได้ว่าเขียนอะไร

ขอบคุณคะ  ชอบคำนี้จัง

 "ขอบคุณคนเก่งที่เงยหน้าขึ้นมาฟังครู" 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท