วันหยุดสุดสัปดาห์ก่อน "เก๋าสยาม" มีโอกาสได้กลับบ้านไปหาแม่..ตื่นเช้าขึ้นมาแม่เลยวานให้ขับรถมาส่งที่วัด พิกุลทอง แม่กับป้าของผมแกทำอาหารไปถวาย "พระนิสิต" ที่มาเรียนพระปริยัติธรรมน่ะครับ หลายๆท่าน คงจะคุ้นๆ กันบ้างนะครับสำหรับ "วัดพิกุลทอง" วัดพิกุลทองมีอดีตเจ้าอาวาสผู้เป็นพระเถระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และ ขึ้นชื่อเลื่องลือเรื่องความเป็นเกจิผู้เข้มขลังอีกรูปหนึ่งในลุ่มแม่น้ำ เจ้าพระยา ท่านผู้นี้คือ "หลวงพ่อแพ แห่ง วัดพิกุลทอง" ครับ แต่ตอนนี้ท่านมรณะภาพไปนานแล้วล่ะครับ
ภาพบรรยากาศวัดพิกุลทองครับ
หลวงพ่อแพ แห่ง วัดพิกุลทอง
หลวงพ่อแพ ท่านเป็นที่เคารพนับถือของ คนสิงห์บุรี มากเลยนะครับ วัตถุมงคลของท่านที่ทำโปรดญาติโยมก็มีหลายรุ่น หลายแบบ เรียกได้ว่ามากพอๆ กับ วัตถุมงคลของ "หลวงพ่อคูณ" ก็ว่าได้ครับ
หลวงพ่อแพท่านเคารพศรัทธาใน "สมเด็จโต" แห่งวัดระฆังมากครับ ถึงขนาดสร้างรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของ "สมเด็จโต" มาประดิษฐานไว้ในวิหารวัดพิกุลทอง เป็นรูปหล่อคราวเดียวกับองค์ที่อยู่ในวัดระฆังนั่นแหละครับ สังเกตุได้จากวัตถุมงคลขอลหลวงพ่อแพท่านได้สร้างพระพิมพ์ "สมเด็จ" ไว้หลายรุ่นเช่นกัน ส่วนเงินที่ได้มาท่านนำไปบริจาคสร้างโรงพยาบาลสิงห์บุรี จัดซื้อเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ และ บริจาคให้กิจการสาธารณกุลศลอีกมากมาย นับเป็นปฏิปทาที่น่าเลื่อมใสศรัทธาจริง ๆครับ
ในระหว่างที่แม่ กับ ป้า ของผมกำลังสาละวนอยู่กับการจัดอาหารถวายพระ และ ตักแจกจ่ายให้กับคนที่มาวัด วันนี้เขามีเทศน์มหาชาติด้วยครับคนเลยเยอะเป็นพิเศษ ผมเดินเรื่อยเปื่อยมาทางท่าน้ำท้ายวัด ( ไม่ได้อู้นะครับ..แม่บอกว่าอยู่ก็เกะกะน่ะ) ได้ไปเจอแผงพระเครื่องของนักเลงพระเมืองสิงห์เข้าให้ มีหรือที่ "เก๋าสยาม" จะไม่สนใจแวะเวียนไปชม พระเครื่องส่วนใหญ่ก็เป็นพระของหลวงพ่อแพนั่นแหละครับ เก่า ใหม่ ปะปนกันไป แต่มาสะดุดตาสะดุดใจกับ "พระ" องค์นี้น่ะสิครับ
โอ้...โฮ!...นั่น พระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพล นี่นา (มาได้ยังไงวะเนี่ย) ผมนึกในใจ พยายามเก็บอาการอยากได้ไว้ แล้วรวบรวมสติถามเจ้าของพระไปว่า
"พระอะไรครับพี่ ได้มายังไงละเนี่ย"
"พระกรุเพดานโบสถ์พระแก้วละมั๊ง มีคนนำมาถวายหลวงพ่อแพซักปี 38 เห็นจะได้เอามาตั้งหลายองค์ หลายพิมพ์ ตอนนั้นหลวงพ่อแกก็ทำพระของแกออกมาเหมือนกันใครทำบุญสร้างโรงพยาบาล 100-200 บาท แกก็ให้พระของแก แต่ถ้าทำบุญ 1,000 บาท ขึ้นไปแกจะแจกพระชุดนี้ ให้แค่คนละองค์เท่านั้น พี่ก็ได้มาตอนนั้นนั่นแหละ" เจ้าของพระตอบเสียยืดยาว
"เอ่อ..พี่ครับผมชอบ ผมขอแบ่งไปบูชาได้หรือเปล่าครับ" ผมถามแบบดื้อๆ ยืนลุ้นรอคำตอบอยู่ด้วยใจจดจ่อ
"เอ้า..ถ้าชอบก็แบ่งไป" เป็นอันว่าเรียบร้อยโรงเรียน "เก๋าสยาม"
เก๋าสยาม เดินหาที่นั่งหลังวัดหยิบกล้องคู่ใจส่องลงไปในเนื้อพระ เห็นว่า พิมพ์ทรงองค์พระก็ดู คม ชัด ลึด สภาพธรรมชาติของความเก่าไม่ว่าจะเป็น รอย ยุบ ย่น ปริ แยก หลุม บ่อ ก็มีให้เห็น ส่วนมวลสารอื่นที่เป็นองค์ประกอบแห่ง "พระสมเด็จ" ก็แทรกตัวปรากฎอยู่ในองค์พระ แถมปิดท้ายความเก่าด้วยการลงรัก ปิดทองล่องชาด อันเป็นงานที่บ่งบอกถึงเชิงช่างหลวง เก๋าสยาม จึงสรุปได้ว่าพระองค์นี้เก่าจริง ยิ่งมี หลวงพ่อแพ การันตี อย่างนี้ดีหายห่วง
นี่ถ้าแม่..ไม่ได้ลากมาทำบุญทำกุศลคงมิได้พานพบเจอะเจอของดีเช่นนี้ งานนี้เห็นจะพูดได้อย่างเดียวล่ะครับว่า
"ขอบคุณครับแม่...ผมรักแม่จังเลย"
ของคุณปลอมน่ะครับ ที่เห็นในเน็ตและประกาศขายตอนนี้ก็ปลอมทั้งหมด อย่าได้หลงเชื่อเช่าซื้อเด็ดขาด ของแท้ให้ดูที่รูปปฏิทินต้นฉบับนั่นล่ะ จึงจะแท้ ทั้งหน้าหลังขององค์พระ มีรักแดงปกคลุมทั้งหมด ด้านหน้ามีรอยแตกงา ด้านหลังไม่มีรอยแตกงา พิมพ์ทรงมีมิติสวยงาม เนื้อออกสีฟันเหลืองคน ด้วยความหวังดี
ของแท้ไหม
พระแบบนี้พณฯจอมพล สฤษฎ์ฯ ท่านนำมาแจกลูกน้องท่าน เนื้อผงปิดทองร่องชาด ครับ
พระแท้จะไม่มีสีอื่นแล้ววที่เห็นสีแดงมั้งอะไรมั่งของปลอมทั้งนั้น
อยากเห็นภาพชัด๐ของสมเด็จฐานสิงห์สามชั้น หรือสมเด็จจอมพลครับ เพราะไม่มีปฏิทินสามทหาร
หรือท่านใดมีปฏิทินสามทหารช่วยกรุณาถ่ายภาพหน้าที่มีพระสมเด็จฐานสิงห์สามชั้นได้ก็จะได้ประโยชน์โดยกว้างขวาง
คนที่ว่าพระองค์นี้ปลอมคงเกิดทันตอนสมเด็จโตท่านสร้างเป็นแน่ ถึงกล้ามาชี้ องค์นี้ปลอม องค์นู้นแท้ ช่างกล้าไม่กลัวบาปกรรม
ถ้าเป็นผมๆจะไม่ถามเลยครับว่าได้มายังไง เพราะคำพูดของคนขายพระไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็พูดคล้ายๆกันหมด และอีกอย่างพระจะแท้ไม่แท้ต้องอยู่ที่สายตาเราเอง ไช่อยู่ที่คนอื่นมาพูดบอกแท้ไม่แท้ครับจงใช้ตาเล่นพระครับอย่าใช้หู
เนื้อหาของส่วนเนื้อถ้าภาพชัดกว่านี้ จะดีครับ เพราะส่วนผสมมองยาก แต่ผมว่าแท้ครับ ใครว่าไม่แท้ อ่านหนังสือและค้นคว้าน้อยมาก
องค์นี้แท้ครับพิมพ์ฐานสิงห์สามชั้น หรือพิมพ์จอมพลครับลงชาดแดง ปิดทอง เรียกปิดทองล่่องชาด หลุดลอกตามกาลเวลา เนื้อหาด้านหลังสมบูรณ์
พิมพ์ได้ เนื้อหาได้ครับ เหลือการตรวจพุทธคุณถามครูบาอาจารย์ที่เคารพเอาครับ เซียนพระส่วนมากตรวจพุทธคุณไม่เป็นครับ แต่ขายพระเก่ง
สะสมพระอันตรายอย่างหนึ่งคือ การ”เข้าข้างตัวเอง คิดไปเองต้องแบบนั้นแบบนี้ เชื่อเพราะฟังเขามา วงการเขาบอกว่า เอาหู ดูพระ ไม่ใช้ตาดูพระ ย่อมเสร็จทุกราย