29 สค.54 21.40 น.
สืบเนื่องจากบันทึกก่อยหน้าหนี้พูดถึงมหกรรมวิชาการรพ.ยะลา....ท่านอาจารย์แพทย์
หญิงคุณหญิงพรทิพย์ท่านใปนวิทยกรบรรยายเรื่องการพิสูนจ์หลักฐานทางวิทยา
ศาสตร์คดี 3 จังหวัดชายแดนใต้...คุณหมอย้ำตลอดเวลาว่าท่านให้ความยุฒิธรรม
โดยย้ำว่าผู้ต้องหา(กรณีมีหลักฐานที่เกิดเหตุมัดตัวชัดเจน)ผู้ต้องสงสัย(กรณีไม่มี
หลักฐานต้องสืบพยานต่อ).....คนเหล่าท่านว่าเขาเป็น.." เหยื่อ " คนหนึ่งคนที่
สามารถเอาปืนจ้อยิงผู้หญิงท้องแก่...และชีวิตคนอื่นยิงแล้วเผาซ้ำ...หรือตัดคอซ้ำ
การกระทำเหล่สมาจากใจสั่งสมองดำเนินการสั่งตามใจคิดเป็นขั้นเป็นตอน......
โดยไม่มีผู้ใดบังคับขู่เข็นสำหรับความคิดของครูซ่อมคน(ห้ามลอกเลียนแบบ)
ถ้าเขาโดนเอาปืนจ้อหัวบังคับให้ทำคำว่า" เหยื่อ"คงพอจะใช้ได้......ในทางกลับกัน
ผู้ที่โดนเหยื่อที่คุณหมอท่านเรียกกระทำตั้งแต่ปี2547 จนปัจุบันตายมากกว่าสงคราม
อิรักอิหร่าน.....จะเรียกพวกเขาเหล่านั้นว่าอย่างไร.......
พอมีความรู้งูๆปลาๆลงนิติศาสตร์มสธ.แค่2ภาคเรียนผ่านอาญา1 แพ่ง1อาญา2
(กำลังศึกษาอยู่)....ไม่เข้าใจว่ากฎหมายไทยใช้ฉบับเดียวกันทั้วประเทศเปล่า
ผู้ต้องหาข้อหาฆ่าคน3จังหวัดชายแดนใต้มอบตัวถือเป็นผู้กลับใจเข้าครอส์อบรม
ฝึกวิชาชีพโครงการสารพัด......หรือแม้นแต่เมื่อจับได้โยหลักฐานพยานมัดชัดเจน
ก็มีท่านนายอำเภอท่านผู้ว่าราชการออกมาใช่ตำแหน่งหน้าที่ประกันตัว........
สาหัสเกิดบรรดาลโทสะฆ่าคนตายจะมีท่านนายอำเภอท่านผูว่าคนไหนท่านจะ
อนุเคราะห์ใข้ตำแหน่งหน้าที่ประกันตัวผู้หญิงคนนั้นมั้ย......5555....
.......ข้อเท็จจริงอีกมากมายคุณหญิงทราบ..นายทหาร..นายตำรวจ...เลขาศอบต.
โดยเฉาพะนักการเมืองทราบดีเสียด้วย....เค็กก้อนใหญ่ที่จัดสัดปั่นส่วนอีกกี่สิบกี่ร้อยศพที่จะนอนบนถนนมีผ้าหรือหนังสือพิมพ์ปิด......
......ครูซ่อมคนในฐานะปัจจุบันมีชื่อทะเบียนบ้านในจังหวัดปัตตานี....ข้อสนับ
สนุนให้เป็นรัฐปัตตานีเร็วๆ.....จะได้ไม่ต้องมีใครตายเพื่อสังเวยเค๊กก้อนโตนั้นอีก
กลัวแต่ว่าประชาชนในพื้นที่ที่ไม่ย่อมหรือใครที่ไม่ย่อมให้เกิดกันแน่......
......แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดกรรมะคือการกระทำไม่ว่าชาติใดศาสนาใดก็ตาม...
ทำอะไรไว้วันหนึ่งกรรมนั้นย้อนกลับมาหาตัวแน่นอนไม่ว่าช้าเร็ววันนี้ฆ่าเขาวันหน้าก็
ต้องถูกเขาฆ่า......ใยต้องเบียดกันดหล่าพี่น้องชาวไทย......
ไม่มีความเห็น