1 ไร่ 100,000 และพลังง้วนดิน ก้อนสรรพสิ่ง : อะตอมนามิโน”
เมื่อวันจันทร์ ที่ 15 สิงหาคม 2554 ได้พานิสิตคณะครุศาสตร์ ปี 3 -4 ไปศึกษาดูงานนวัตกรรมการเกษตร 1 ไร่ 100,000 บาท ที่สำนักงานเทศบาลตำบลวังผาง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน ได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งจากคณะผู้บริหารและบุคลากรของเทศบาลฯ โดยเฉพาะท่านนายกสืบศักดิ์ สุภิมาส ท่านปลัด และลุงดาบตำรวจ ที่กรุณาอนุเคราะห์เล่าถึงสภาพชุมชน นโยบาย แผนงานการบริหาร กิจกรรมเด่น ทั้งยังนำพาไปศึกษาดูนวัตกรรม 1 ไร่ 100,000 และ”พลังง้วนดิน : อะตอมนามิโน”
ท่านนายกสืบศักดิ์ ได้เล่าถึงความพยายามในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนตำบลวังผาง โดยคำนึงถึงมิติการเกื้อกูลเรื่องสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมชุมชน รูปธรรมหนึ่งของการขับเคลื่อนงานคือ โครงการ 1 ไร่ 100,000 และ”พลังง้วนดิน : อะตอมนามิโน” พวกเราจึงมีโอกาสได้เห็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีการจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรตามแนวคิด 1 ไร่ 100,000 บาท ซึ่งพบว่า เป็นการผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ การเลี้ยงปลาในนาข้าว การเกษตรแบบชีววิถีภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีวิธีการคือ การขุดปรับที่ดินโดยรอบที่นาให้มีขนากว้างลึกประมาณ 1*1 เมตร นำดินที่ขุดได้มาทำเป็นคันนาด้านนอกขนาดกว้างประมาณ 1 - 1.5 เมตร เพื่อใช้สำหรับการเพาะปลูกพืชหมุนเวียนต่าง ๆ และด้านในคูรอบที่นา ทั้งนี้ให้เว้นบริเวณด้านหนึ่งของที่นาเป็นทางสำหรับรถไถเข้าออกที่นา
การทำเกษตรลักษณะนี้ เริ่มจากการปรับที่ดินในข้างต้น วางระบบน้ำเพื่อเข้าสู่ที่นา และไถคราดเพื่อการดำนา ระหว่างนั้นให้นำพ่อแม่พันธุ์ปลานิลปล่อยในร่องน้ำ เพื่อให้วางไข่ ปลานิลหนึ่งตัวจะวางไข่ประมาณ 2000 ฟอง พื้นที่หนึ่งควรปล่อยพ่อแม่พันธ์ประมาณ 3 คู่ และในหนึ่งปีปลานิลจะวางไข่ 2- 3 ครั้ง ก่อนปล่อยปลาวางสู่ร่องน้ำให้เตรียมอาหารธรรมชาติคือใช้ก้อนพลังง้วนดิน : อะตอมนามิโน ใส่ลงไปเพื่อสร้างแพลงค์ตอนพืช หลังจากปล่อยปลานิลประมาณ 2เดือน ก็ปล่อยปลากินเนื้อ เช่น ปลาดุกในร่องและนาข้าว รวมทั้งบางไร่อาจปล่อยกบนาเลี้ยงไปพร้อมกัน
ข้าวพันธุ์ที่เลือกปลูกคือ ข้าวหอมมะลิ ซึ่งมีคุณค่าอาหารสูงและเป็นที่นิยม การบำรุงต้นข้าวและดิน ก็เน้นชีววิถีคือ ใส่ก้อนพลังง้วนดิน หรือก้อนสรรพสิ่ง หรือ อะตอมนามิโน
ส่วนบริเวณคันนาก็เลือกปลูกผักหมุนเวียนเพื่อการบริโภคในครัวเรือน และเหลือจำหน่าย โดยเน้นการปลูกผักตามฤดูกาล การไม่ใช้สารเคมี การบำรุงดินก็ใช้ใส่ก้อนพลังง้วนดิน หรือก้อนสรรพสิ่ง หรือ อะตอมนามิโน หากเกิดปัญหาศัตรูพืชก็ใช้สารสมุนไพรฉีดพ่นเป็นระยะและป้องกันโดยการปลูกพืชคละชนิดเพื่อการควบคุมแมลง
ผลผลิตที่ได้จากการเก็บเกี่ยว นอกจากบริโภคในครัวเรือนก็จะจัดจำหน่ายทั้งภายในและนอกชุมชนโดยการรวมกลุ่มจำหน่ายและแปรรูป เช่น ข้าวก็จะมีโรงสีข้าวปลอดสารพิษ บรรจุถุงจำหน่ายภายใต้ชื่อ ข้าวกล้องบุญ และมีความพยายามคิดค้นแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวอินทรีย์ร่วมกับสำนักงาน สวทช.ภาคเหนือ ซึ่งข้าวกล้องของวังผางนี้ มีกลิ่นหอมเนื้อหนุ่มมาก หุงง่ายเพิ่มเติมน้ำ 1.75 – 2 เท่า ก็หุงได้เลยโดยไม่ต้องแช่(ทดลองซื้อมาหุงแล้วคะราคากิโลละ 50 บาท)
นอกจากนี้ ที่วังผาง ยังมีผลิตภัณฑ์ลำไยทั้งสดและแปรรูปจำหน่าย ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มะม่วงแปรรูปจำหน่าย ทำเป็นลักษณะแผ่นม้วนเหมือนขนมทองม้วน รสชาติอร่อยมาก ไม่ติดฟัน กรรมวิธีผลิตก็สะอาด ทำจากมะม่วงมหาชนก ซึ่งสาเหตุที่นำมาแปรรูปเพราะปีนี้ราคามะม่วงมหาชนกต่ำและผลผลิตล้วนตลาด ราคากล่องละ 35 บาทคะ
สำหรับโครงการ 1 ไร่ 100000 นี้ ทางเทศบาลวังผางได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยหอการค้า และทางเทศบาลได้จัดสรรพื้นที่ทำนาให้แก่เกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ฯ ซึ่งมีเกษตรกรตัวจริงและเกษตรกรหน้าใหม่สนใจเข้าร่วม เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจในตำบล และเจ้าหน้าที่เทศบาลวังผาง ทั้งนี้นายกสืบศักดิ์ พูดน่าสนใจว่า อยากให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเป็นตัวอย่างแก่ชาวบ้านได้ รู้จริงจากการปฏิบัติ เพื่อสามารถบอกชาวบ้านได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ไม่ใช่ว่า บอกชาวบ้านทำแต่ตนเองไม่เคยทำ หรือหากเจ้าหน้าที่ยังทำไม่สำเร็จจะไปส่งเสริมให้ชาวบ้านทำได้อย่างไร ดังนั้นเจ้าหน้าที่เทศบาลนอกจากทำงานในหน้าที่ประจำ ยังรับผิดชอบโครงการและทำงานวิจัยร่วมกับหน่วยงานภายนอกเช่น สวทช.ภาคเหนือ ,สกว. ,สสส.และหน่วยงานต่าง ๆ
การศึกษาดูงานครั้งนี้ ได้รับความรู้มากมาย ที่สนใจมากคือ องค์ความรู้เรื่องอะตอมมิคนาโน จากท้องทุ่ง หรือ สรรพสิ่งหรือง้วนดิน ซึ่งได้พยายามไปหาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าคือ
1. จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (Photo synthetic bacteria; PSB) พบทั่วไปในธรรมชาติ เป็นแบคที่เรียที่สามารถใช้แสงเป็นแหล่งพลังงาน และออกซิไดซ์ สารประกอบอินทรีย์โดยเฉพาะกรดอินทรีย์หลายชนิดในสภาพที่ไม่มีออกซิเจนแต่มีแสงได้ จึงมีคุณประโยชน์ในการเกษตร และ ปศุสัตว์ รวมถึง อุตสาหกรรมทางเคมี และปิโตเลียม เป็นต้น
2. พลังง้วนดินธรรมชาติ (แบคทีเรียสังเคราะห์แสง) สามารถนำมาพัฒนาและประยุกต์ใช้โดยการแบ่งอนุภาคอะตอมเดียว แบคทีเรียสังเคราะห์แสงบรรจุไว้ใน “อะตอมมิก”ซึ่งเป็นซากสัตว์สองเซลล์ที่มีรูพรุน มีขนาดโมเลกุลขนาดเล็ก ด้วยสารเคมีสูตรเข้มข้นโดยวิธีการหมัก สังเคราะห์ จะทำให้มีกลิ่นหอม สร้างกรดอะมีโน วิตามิน และน้ำตาลมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์
3. พลังแอนตี้ออกซิแดนท์ เกิดจากการที่แรงแม่เหล็กไฟฟ้าเกิดสนามคลื่นสั่นสะเทือนเท่ากัน ก่อให้เกิดความสมดุล คามกลมกลืน ผลผลิต พืชและสัตว์โตสม่ำเสมอ
4. จุลินทรีย์ที่เกิดจากพลังงานง้วนดิน(อะตอมมิกนาโม) เป็นแบคทีเรีย ประเภทที่ตรึงไนโตรเจนอิสระประเภทต้องการออกซิเจน (O2) น้อยอยู่ในตระกูลเอ็นเทอโรแบคทีเรียซีอี (Enterobacter) รวมกันอยู่ทั้ง 2 สกุล และเป็นชนิด เคล็บซิล่าวาริอิโคลา (Klebsilla cariicola) อยู่รวมกับเอ็นเทอโรแบคเตอร์โควานิอิ (Enterobacter) เป็นสายพันธุ์แบคที่เรียที่ตรึงไนโตรเจนที่พบใหม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในไร่นาเพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้
5. วิธีเพาะเลี้ยง เลี้ยงด้วยอาหารโปรตีนเข้มข้น โดยใช้ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 นำเชื้อแบคทีเรียที่ได้จากธรรมชาติเรียกว่า “ง้วนดิน” มาเลี้ยงด้วยอาหารที่มีกรดโปรตีนเข้มข้น เช่นน้ำนม น้ำมะพร้าวอ่อน สาหร่าย และเกลือสตุ แล้วบรรจุเชื้อแบคทีเรียไว้ในอะตอมสัตว์สองเซลล์เรียกว่า “อะตอมนามิกโน”
ขั้นที่ 2 นำอะตอมมิกนาโนชนิดผงและชนิดน้ำมาขยายผลต่อในกองจุลินทรีย์วัตถุที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่น มูลสัตว์ รำอ่อน เศษวัสดุ พืชผักต่างๆ ฟางข้าวและหญ้า เป็นต้น หรือนำมาหมักด้วยผลไม้อย่างน้อย 5 ชนิด เพื่อทำเป็นฮอร์โมนสกัด มาเป็นสารเร่งเจริญเติบโตของพืชและสัตว์ ซึ่งเป็นสารต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant)
ขั้นที่ 3 เมื่อนำเอาน้ำหมักที่ได้จากขั้นที่ 2 มากลั่นเป็นฮอร์โมนชนิดเข้มข้นผสมเจือจางกับน้ำธรรมชาติในอัตราส่วน 1: 500 และ 1: 1000 ใช้เป็นอาหารเสริมทางใบและเป็นอาหารเสริมสำหรับสัตว์
ขอขอบคุณคณะผู้บริหารและบุคลากรเทศบาลตำบลวังผาง ที่ให้การอนุเคราะห์คณะเรา ดูแลพวกเราอย่างดี พวกเราไปดูงานทั้งหมด 27 รูป/ คน ทีมงานเทศบาลมาต้อนรับเรา 15 คน ทั้งบรรยายในกลุ่มใหญ่ พาดูงานในแปลงนา ตั้งแต่เวลา 13.30 – 17.00 น. เราจึงเดินทางกลับ และยังกรุณาบอกว่า ยินดีต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากที่ต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ อันจะนำสู่การสานพลังข่ายการพัฒนาที่ยั่งยืน
สนใจในความรู้ด้านนี้ แต่คงเอาไปทำไม่ได้หรอก เพราะมีการให้องค์ความรู้ไม่ครอบคลุม มีการเก็บไว้บางส่วนเพื่อใช้ในการอบรม ทำให้ผู้อ่านนำไปปฏิบัติด้วยตนเองไม่ได้ เช่น สรรพสิ่งน้ำคืออะไร สรรพสิ่งผงคืออะไร ฯลฯ มีวิธีการทำอย่างไร? ไม่มีการให้รายละเอียด
เข้าใจถูกต้องครับ เพราะเรื่องจุลินทรีย์ ที่ใช้สำหรับทำสรรพสิ่งนั้นผู้คิดค้นขอเก็บเป็นความลับ ด้วยเกรงว่าหากบริษัทเอกชน หรือบริษัทต่างชาติ รับรู้ก็จะนำไปแสวงหาประโยชน์ครับ
แล้วจะหาซื้อได้ืั่ที่ไหนได้บ้างครับ...