การจูงใจเริ่มที่ตัวคุณ


คนเราจะเริ่มจูงใจคนอื่นได้อย่างไร? ทำได้โดยจูงใจตัวเองก่อน ถ้าคุณเองไม่มีแรงจูงใจคุณจะไปจูงใจคนอื่นไม่ได้ คนเขาจะไม่เชื่อคนที่ไม่เชื่อตัวเอง ไม่มีใครสร้างแรงบันดาลใจให้ใครได้ถ้าตัวเองไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่มีใครจะเดินตามคนที่ไม่เดิน

ถ้าคุณมีปัญหาในการจูงใจตัวเอง คำแนะนำต่อไปนี้ช่วยคุณได้

1.    ให้รางวัลการเริ่มต้น และเพิ่มค่าปรับเมื่อไม่ลงมือ
    บางครั้งเมื่อเราไม่ยอมลงมือเสียที ต้องเตือนตัวเองถึงประโยชน์ของการเริ่มต้น หรือไม่ก็อาจจะต้องคิดถึงผลเสียของการไม่ลงมือ เหมือนกับการที่เราจะต้องลดความอ้วน มันเริ่มต้นยากเย็น ฉะนั้นเราต้องเตือนตัวเองว่า ถ้าเราลดน้ำหนักได้รูปร่างเราจะดีขึ้น  และสุขภาพเราจะดีขึ้น และถ้าเราไม่เริ่มต้นจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพของเรา ผลเสียนี้จะมากขึ้นถ้าเรายิ่งปล่อยเวลาให้เนิ่นนานออกไป โดยการทบทวนถึงผลดีที่จะได้จากการเริ่มลงมือ กับผลเสียที่เกิดจากการไม่ลงมือ ควรทำให้เราเริ่มลงมือได้

2.    สร้างความรู้สึกรีบเร่ง
    หลังจากที่คุณจูงใจตัวเองได้แล้วว่าคุณควรจะเริ่มเสียที อุปสรรคขั้นต่อไปคือการเริ่มลงมือจริงๆ คุณจะต้องสร้างความรู้สึกรีบเร่งขึ้นภายในตัวคุณเอง  แทนที่จะเลือกลงมือในโอกาสสุดท้าย คุณควรจะเริ่มในทิศทางตรงกันข้าม ถามตัวเองว่า “ฉันจะเริ่มเร็วที่สุดได้เมื่อไร” เพราะคุณไม่มีทางที่จะมีอายุน้อยลงได้เลย อีกประการหนึ่งคุณอาจเพิ่มแรงกระตุ้นให้เริ่มต้นด้วยการประกาศเป้าหมายของ คุณให่คนอื่นรู้

3.    สร้างตารางเวลาการทำงาน
    การวางแผนปฏิบัติการตามตารางเวลาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้คุณลงมือทำ บางครั้งเพียงเขียนลงไปก็สามารถจูงใจคุณได้แล้ว นอกจากนั้นการแตกเป้าหมายหรือโครงการใหญ่ให้เล็กลงและสำเร็จได้ง่ายก็จะ เป็นการจูงใจให้ทำ

4.    อย่าคอยให้รู้สึกว่าอยากลงมือทำ
    สิ่งผิดพลาดที่พบบ่อยคือ คนเรามักคอยให้รู้สึกอยากเสียก่อนจึงค่อยทำ อย่าตกหลุมพรางนั้น บางทีคุณอาจจะไม่รู้สึกอยากทำเลยจนกระทั่งคุณได้ทำไปแล้ว เริ่มเสียแต่บัดนี้เถิดเพราะคุณรู้อยู่แล้วว่าเป็นสิ่งถูกต้อง แล้วความรู้สึกจะตามการกระทำของคุณเอง

5.    อย่าคอยให้เห็นทางแก้ปัญหาทุกอย่างเสียก่อนแล้วค่อยลงมือ
    ถ้าจะต้องขจัดอุปสรรคให้หมดก่อน ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย การจูงใจตนเองให้ทำทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้น ให้เกิดการกระทำและสร้างแรงเหวี่ยงซึ่งมีค่ามากเมื่อประสบผลสำเร็จ คุณเคยคิดบ้างไหมว่าการที่จะป้องกันรถไฟซึ่งจอดอยู่เฉยๆไม่ให้เคลื่อนที่ นั้นง่ายมาก คุณเพียงแต่เอาท่อนไม้เล็กๆขนาดหนึ่งนิ้วไปวางขวางล้อแต่ละล่อไว้ มันก็เคลื่อนที่ไม่ได้ แต่ถ้ารถไฟนั้นกำลังวิ่งด้วยความเร็ว 60 ไมล์ต่อชั่วโมง มันสามารถวิ่งฝ่ากำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กหนา 5 ฟุตได้
คนที่มีแรงเหวี่ยงจาการจูงใจก็เช่นเดียวกัน เมื่อเขาเริ่มมุ่งไปข้างหน้า อุปสรรคใดก็ขวางกั้นเขาไม่ได้

หลักการจูงใจผู้อื่น
ข้อคิดต่อไปนี้จะช่วยจูงใจคนรอบข้างของคุณ

1.    สื่อความหมายให้ชัดเจน

ขณะที่กำลังจูงใจผู้อื่นเราจะปล่อยให้ถูกเข้าใจผิดไม่ได้ การจูงใจผู้อื่นจะต้องเริ่มต้นด้วยการสื่อความหมายที่กระจ่างชัด เนื่องจากคนไม่สามารถทำในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ ก่อนจะจูงใจให้คนอื่นลงมือทำ คุณต้องรู้ให้แน่ก่อนว่าคุณจะให้เขาทำอะไร จากนั้นพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะสื่อความกับเขาให้ง่ายและชัดเจนที่ สุดเท่าที่คุณจะทำได้

2.    จงแน่วแน่ในปณิธาน
    คนที่เกลี้ยกล่อมและจูงใจเก่งที่สุดในโลกคือคนที่มีความเชื่อและมั่นใจใน ข้อคิดเห็น ผลิตภัณฑ์ หรือบริการอย่างเต็มเปี่ยม คุณสมบัติข้อหนึ่งของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายในประวัติศาสตร์คือ ความเชื่อในสิ่งที่เขาทำ เขาอุทิศตนและแน่วแน่อยู่กับวิสัยทัศน์และปณิธานของตนเอง

3.    ให้การยอมรับผู้อื่น
    มีไม่กี่อย่างที่จะจูงใจคนได้ดีกว่าคำสรรเสริญ ผู้คนจะตอบสนองตามสัดส่วนที่เราคาดหวังในตัวเขา เมื่อเราบอกว่าเขาทำได้ดีเยี่ยม เขาก็อาจจะทำมากขึ้นเพื่อรักษาระดับของเขา
ถ้าการสรรเสริญกระทำในที่สาธารณะ ประโยชน์ที่ได้ยิ่งเป็นทวีคูณ เพราะไม่เพียงแต่ผู้ได้รับคำสรรเสริญจะทำงานหนักขึ้นเท่านั้น แต่จะทำให้เขาได้รับชื่อเสียงในทางดีด้วย เป็นการเพิ่มคุณค่าของเขาในสายตาของคนอื่น และยังจูงใจคนอื่นให้พยายามทำอย่างเขา

4.    ให้มีการแข่งขันกันอย่างมิตรภาพ
    โดยธรรมชาติแล้วคนมีจิตวิญญาณของการแข่งขันอยู่ในตัว และจากจิตวิญญาณนี้สามารถสร้างแรงจูงใจในทางบวกขึ้นได้
วิธีที่จะทำให้ได้งานคือ ต้องกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน ข้าพเจ้าไม่ได้หมายความถึงการแข่งขันกันหาเงินอย่างสกปรก แต่หมายถึงความปรารถนาที่เป็นเลิศ

5.    ให้เขาทีละน้อย
    ถ้าคุณกำลังพยายามฝึกคนหรือพยายามจูงใจคนไม่ควรให้ข้อมูลมากและเร็วเกินไป คนส่วนมากมักจะอัดข้อมูลให้กับคนที่เราต้องการจูงใจเสียจนล้นตั้งแต่แรก แต่พอเขาเริ่มทำงานแล้วกลับให้เขาน้อยกว่าที่เขาควรจะได้ เมื่อคนได้ข้อมูลมากกวาที่เขาจะรับได้ แรงจูงใจจกลับลดลง พอถึงเวลาที่จะต้องใช้ข้อมูลจริงๆ เขาก็ลืมไปเกือบหมดแล้ว ทำให้เขาสับสนและมักจะไม่กล้าถามคำถามอีก กลายเป็นประสบการณ์ในทางลบไปหมด
วิธีที่ดีคือให้ข้อมูลเพียงให้เขาอยากรู้ สร้างความต้องการให้เขา อยากลองและออกไปทำ เขาจะจำสิ่งที่เราบอกได้ และมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ทีละน้อย ความสำเร็จนั้นจะจูงใจให้เขาอยากรู้มากขึ้น เขาจะกลับมาด้วยความกระหายที่จะเรียนรู้และอยากเอาความรู้นั้นออกไปทำ เขาจะจำสิ่งที่เรียนรู้นั้นได้เพราะสิ่งที่คนเราได้ยินได้เห็นและได้กระทำ จะติดอยู่กับตัวเรา

6.    กระชับความสัมพันธ์ส่วนตัว
    ถ้าคุณต้องการจูงใจคนที่อยู่รอบข้างคุณและเขามีความสำคัญต่อคุณ จงพยายามกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขา ให้เขารู้จักคุณให้มากขึ้น คุณเรียนรู้เกี่ยวกับเขาให้มากขึ้น มันไม่เพียงแต่จะสร้างความสนใจร่วมกันให้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานที่แข็งแรงขึ้นต่อการสื่อความหมายด้วย

7.    ให้เขาได้เห็นผลงานและรางวัล
    ถ้าคุณต้องการจูงใจคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำงานในส่วนเล็กๆของงานใหญ่ จงให้รางวัลเขาด้วยผลงาน แสดงผลงานที่สำเร็จแล้วให้เขาได้เห็น ให้เขารู้ว่าเขามีส่วนในงานใหญ่อย่างไร ให้เขารู้ว่าเขาคือผู้ที่ทำให้เกิดความแตกต่างจะทำให้เขามีแรงบันดาลใจ

8.    เชื่อในตัวเขา
    เรามองเขาอย่างไรเป็นตัวกำหนดว่าเขาจะมีผลต่อเราอย่างไร มันจะกำหนดระดับของแรงจูงใจ ถ้าเรามองว่าเขาคือตัวปัญหาเขาก็จะเป็นเช่นนั้น ถ้าเราบอกว่าเขาสำเร็จเขาก็จะสำเร็จ

วิธีจูงใจ

วิธีการจูงใจ 9 ประการต่อไปนี้เป็นการเย้ายวนเพื่อจูงใจคนซึ่งสามารถเลือกใช้กับใครก็ได้

1. เย้ายวนให้เห็นประโยชน์
    สิ่งที่ใช้กันมากที่สุดใงายขายคือการเย้ายวนให้เห็นประโยชน์ซึ่งอาจจะเป็น ประโยชน์ต่อผู้ซื้อเอง หรือต่อผู้อื่นก็ได้ สำหรับประโยชน์นั้นอาจเป็นอะไรก็ได้ เช่น ทางด้านอารมณ์ การเงิน สติปัญญา ร่างกาย ฯลฯ คุณอาจจูงใจคนให้ออกกำลังกายเพื่อประโยชน์ทางด้านร่างกาย โดยพื้นฐาน การเย้ายวนให้เห็นประโยชน์อาจใช้จูงใจใครให้ทำอะไรด้วยเหตุผลอะไรก็ได้ ตราบใดทีให้ประโยชน์
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ประการหนึ่ง คือ จงอย่าเย้ายวนใครให้เขาเห็นประโยชน์ที่คุณจะได้รับเพียงฝ่ายเดียวใจเขาจะปิดทันที

2. เย้ายวนอารมณ์
    การเย้ายวนอารมณ์สามารถสร้างพลังได้มาก ครึ่งหนึ่งของผลงานของเขาสำเร็จลงได้จากพลังคำพูด

3. เย้ายวนความต้องการ
    คนจะทุ่มเทความพยายามทำงานเพื่อสนองความต้องการของตนเอง  การเย้ายวนความต้องการอาจทำได้ 5 ทางด้วยกัน ได้แก่ ความต้องการความมั่นคง ความต้องการความรัก ความต้องการแดงความสร้างสรร ความต้องการการยอมรับ และความต้องการประสบการณ์ใหม่ๆ

4. เย้ายวนความสามารถ
    ทุกคนรักที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ เมื่อคุณเย้ายวนใครให้เขาแสดงความสามารถเท่ากับเป็นการทำให้เขารู้สึกมีคุณค่า

5. เย้ายวนให้เห็นโอกาส
    บางครั้งสถานการณ์แวดล้อมทำให้เกิดโอกาสที่เราจะจูงใจผู้อื่น ตัวโอกาสเองมักจะไม่มีความสำคัญ สิ่งสำคัญอยู่ที่คุณมองโลกและใช้โอกาสนั้นอย่างไรเพื่อให้เป็นสิ่งจูงใจ

6. เย้ายวนความจงรักภักดี
    เพราะคนมีความปรารถนาที่จะช่วยเหลือ ปรับปรุง หรือปกป้องบุคคลหรือสิ่งที่เขาจงรักภักดีเสมอ ยิ่งความภักดีมีมากเท่าไร ศักยภาพในการจูงใจยิ่งมีมากเท่านั้น

7. เย้ายวนความเชื่อ
    ความเย้ายวนที่ให้ผลยาวนานทีสุดคือ การพูดถึงสิ่งที่มีคุณค่าอันยั่งยืนของคน นั่นคือความเชื่อ เราจะถูกจูงใจให้ทำและแรงจูงใจจะคงมีอยู่ ตราบใดที่เราเชื่อว่าเราต้องยึดมั่นหรือกระทำสิ่งที่เราเห็นว่าถูกต้อง

กิจกรรมเพื่อความสำเร็จ

    1. เลือกเรื่องใดเรื่องหนึ่งในชีวิตคุณที่คุณอาจจะสร้างแรงจูงใจตัวเอง ควรจะเป็นเรื่องที่คุณเชื่อว่าคุณควรจะทำแต่ทำไม่ได้ เพราะยังบังคับตัวเองให้ทำไม่ได้ ดำเนินการตามขั้นตอนในบทนี้

ก. ให้รางวัลการเริ่มต้น และเพิ่มค่าปรับเมื่อไม่ลงมือ เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้เห็นได้ง่าย อย่าเพียงแต่คิดเพราะจะไม่มีน้ำหนักเพียงพอ

ข. สร้างความรู้สึกรีบเร่ง กำหนดวันเริ่มต้นให้เร็วที่สุด จดไว้ในปฏิทินแล้วบอกให้คนใกล้ชิดของคุณรู้ว่าคุณตั้งใจจะทำอะไร ขอร้องให้เขาถามคุณสองสามวันหลังวันกำหนดเริ่มต้นของคุณเพื่อให้แน่ใจว่า คุณทำอย่างที่พูดหรือเปล่า

ค. สร้างตารางเวลาทำงาน แบ่งเรื่องที่คุณต้องการทำออกเป็นขั้นตอนหรือภารกิจเล็กๆ บรรจุแต่ละขั้นตอนหรือกิจกรรมลงในปฏิทิน ควรจะรวมทั้งกำหนดเวลาแล้วเสร็จด้วย (ถ้าไม่ใช่กิจกรรมที่ต้องทำต่อเนื่อง เช่น การออกกำลังกาย)

ง. อย่าคอยให้รู้สึกว่าอยากลงมือทำ ตัดสินใจลงมือในวันที่กำหนด เตือนตัวเองว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรก็ไม่มีผลต่อการลงมือทำ การเริ่มต้นในวันแรกมักจะเป็นวันที่คุณรู้สึกแย่มาก จงพร้อมที่จะอดทน

จ. อย่าคอยให้เห็นทางแก้ปัญหาทุกอย่างเสียก่อนแล้วค่อยลงมือ อย่ายอมให้ตัวเองเอาปัญหามาเป็นข้ออ้าง เมื่อมีปัญหาก็แก้ไขเสีย

    2. ให้การยอมรับผู้อื่นให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ให้การยอมรับว่าเขาเป็นผู้ทำให้ทีมสำเร็จ มองหาข้อดีในการกระทำทุกอย่างของผู้อื่น แล้วบอกเล่าให้คนอื่นๆรู้ ยกย่องเขาในที่สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าครอบครัวและเพื่อนของเขา แม้จะเป็นเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์แต่คุณจะเห็นผลในทางบวก

    3. เมื่อคุณจะต้องสอนหรือฝึกคนในคราวต่อไป จงใช้เทคนิคการให้ทีละน้อย ให้เขาเห็นภาพรวมของภารกิจหรืองานอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เขารู้ว่าจะไปทางไหน จากนั้นให้ข้อมูลเพียงเท่าที่เขาจะเริ่มต้นได้ ช่วยให้เขานำสิ่งที่เรียนรู้นั้นไปใช้ทันที เพื่อให้ประสบผลสำเร็จบางอย่างในเวลาสั้นๆ จากนั้นให้ข้อมูลเพิ่มเติมในขั้นต่อไป และช่วยให้เขานำไปใช้อีก ทำอย่างนี้ซ้ำไปเรื่อยๆตามความต้องการ

    4. เลือกใครสักคนที่คุณอยากจะจูงใจเขาให้มากกว่าที่เป็นอยู่ อาจจะเป็นผู้ร่วมงาน ลูกจ้าง คนรู้จัก หรือคนในครอบครัวก็ได้ สร้างความสัมพันธ์กับเขาให้ใกล้ชิดมากขึ้น ไปงานสังคมด้วยกัน รับประทานอาหารเย็นด้วยกัน ร่วมกิจกรรมที่สนุกสนานที่เขาชอบด้วยกัน นั่งคุยกันนานๆ พูดง่ายๆ ก็คือรู้จักเขาให้มากขึ้นและสร้างความสัมพันธ์อันดีขึ้น

    5. ครั้งต่อไปเมื่อคุณจะจูงใจใคร ก่อนจะเริ่มต้นให้คิดก่อนว่าอะไรที่มีความสำคัญสำหรับเขา นั่นคือความปรารถนาหรือความต้องการของเขา จากนั้นหาสิ่งเย้ายวนที่ตรงกับความปรารถนาของเขา ใช้สิ่งเย้ายวนนั้นจูงใจเขา อย่าใช้เขาเป็นเครื่องมือ

หมายเลขบันทึก: 45585เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2006 11:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม 2012 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ได้ข้อคิด และวิธีคิดหลายอย่างที่จะต้องลงมือทำซักที ขอบคุณนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท