เตาเผาศพไร้ควันและประหยัดพลังงาน
ชีวิตคือการเดินทางจากเปลนอนสู่เชิงตะกอน (เลียนแบบมาจากภาษิตฝรั่ง ที่ว่า from womb to tomb)
เชิงตะกอนที่ผ่านมาค่อนข้างเปลืองพลังงาน และยังส่งควัน กลิ่น ออกไปได้มาก โดยเฉพาะวัดที่อยู่ในเขตเมือง มีบ้านเรือนอยู่หนาแน่นรอบเมรุเผาศพ ควันที่พุ่งออกนั้นมีผลกระทบกับจิตวิทยามาก โดยเฉพาะตอนเย็นๆ กำลังกินข้าว ทำให้นึกถึงศพที่เน่าเหม็นที่กำลังถูกเผา ก็อาจทำให้กินข้าวไม่อร่อยเท่าที่ควร (กินอร่อย คอยวันตาย)
อีกทั้งควันก็ถือว่าเป็นมลพิษต่อบรรยากาศ ตายทั้งทีควรทิ้งมลพิษไว้ให้น้อยที่สุด วิญญาณจะได้ไปสู่สรวงสวรรค์
ดังนั้น ผมจึงได้คิดค้นเตาเผาศพไร้ควันพร้อมประหยัดพลังงานไว้ดังนี้
- จากการคิดค้นเตาปิ้งไก่ไร้ควันมานาน จนพบว่าควันไฟที่ปิ้งไก่เกิดมาจากน้ำมันไก่ที่หยดลงบนเปลวไฟ ทำให้คิดได้ต่อไปว่า ปิ้งคนก็เช่นเดียวกัน ควันเผามาจากน้ำมัน (และน้ำเหลือง น้ำหนองด้วย) ที่หยดลงบนเปลวไฟ
- ดังนั้นถ้าจะไม่ให้เกิดควัน ควรต้องเผาในแนวตั้งแทนที่จะเป็นแนวนอน กล่าวคือ เผาในท่ายืน แทนท่านอน
- ..การยกโลงให้ตั้งแบบนี้ คงยากพอควร ต้องมีระบบการยกด้วยรอกทุ่นแรง รวมทั้งเหล็กโครงกันล้มด้วย..เอาโลงตั้งไว้บนตะแกรงเหล็กทนไฟ มีโครงเหล็กแนวตั้งประคองกันล้ม
- ไฟเผาใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง (ถูก สะอาด สะดวก) หัวเผาทำเป็นหลอดสี่เหลี่ยม ใหญ่กว่าโลงศพเล็กน้อย ดังนั้นไขมัน น้ำเหลือง น้ำหนอง จะไหลลงตรงกลางสี่เหลี่ยมโดยไม่ไหม้ไฟให้เกิดควัน ทั้งนี้ต้องเจาะฝาโลงด้านล่างด้วยสว่านให้มีรูกลมขนาด 1 นิ้วสัก 4 รู (เพื่อให้น้ำเหลืองไหลออก )
- มีกรวยต่อท่อจากรูตรงกลาง รับเอาของเหลวจากร่างกายไปลงบ่อเกรอะใต้ดิน โดยบ่อเกรอะมีท่อหายใจต่อออกไปสู่ปล่องเตาเผา เพื่อใช้ประโยชน์แบบป้อนกลับ ส่วนบ่อเกรอะมีจุลินทรีย์ย่อยสลายสารอินทรีย์ใส่ลงไปด้วย)
- เมื่อพร้อมแล้ว ก็จุดไฟ เผา เป็นอันเสร็จพิธี
คำอธิบายเพิ่มเติม
การเผาในท่ายืนจะประหยัดพลังงานกว่าท่านอน ประมาณ 3 เท่า เพราะ เตาเล็กกว่า 3 เท่า และความร้อนจากการเผาไหม้ถูกใช้ไปอย่างมีปสภ.กว่า เพราะลามจากล่างสู่บน ในแนวยาว ส่วนการเผานอน ไฟลามแผล็บเดียวในช่วงสั้นๆ ก็ปล่อยทิ้งออกปล่องแล้ว ทั้งที่ยังมีความร้อนใช้ประโยชน์ได้อีกนาน
ไขมัน น้ำเหลือง ออกมาก็หยดลงท่อ ลงบ่อเกรอะ ไม่หยดลงบนเปลวไฟ ที่อยู่รอบนอก ก็ไม่เกิดควัน และ กลิ่นเหม็นให้คนเป็นเขาสาปแช่ง
..ไม่สงวนสิทธิ์ ลอกเลียนเอาไปใช้ได้ ยกเว้นถ้าทำเพื่อการค้า ขอให้บริจาคกำไร 20% เอาไปบำรุงพระศาสนาตามรสนิยม ไม่เช่นนั้นขอแช่งให้ถูกเผาทั้งเป็นและตายไวๆ แถมส่งกลิ่นเหม็นเน่าให้คนเขาสาปแช่ง
...คนถางทาง (๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๔)
ถูกใจครับ ดี ปยพลง แถมมี ปสภ.อีกต่างหาก
ปยพลง ...โอยคิดอยู่นานนะพี่ท่าน ดีนะว่าคิดออกก่อนตาย ไม่งั้นตอนถูกไฟเผา คงต้องคิดถึงคำย่อนี้ จนไม่มีสมาธิอยู่กับความร้อนจากเปลวไคว หิหิ
ครับผม ร่วมแลกเปลี่ยนอักษรย่อที่นี้ครับท่าน
http://www.gotoknow.org/blog/bangheem/214061
ด้วยคารวะท่าน
อ่านตอนต้นๆ แล้วคิดถึง ขุนรองปลัดชู จังครับ
สวัสดีค่ะ คนถางทาง
ชอบชื่อนี้จังค่ะ
ได้อ่านเนื้อหาในบล็อก ยิ่งชอบ
มองเห็นภาพเลยค่ะ
นำไปใช้จริงแล้วใช่มั๊ยคะ?
ท่าน krupadee ครับ
นำไปใช้จริงแล้วครับ แต่กับไก่นะครับ ได้ผลดีมาก
ไก่ไร้ควัน และสุกเร็ว ประหยัดถ่านได้ 3 เท่า เวลาได้ 2 เท่า
ส่วนเผาคนนั้น เพื่อนเขามาขอให้ผมช่วยคิด
ก็คิดให้และบอกเพื่อนไปแล้ว
แต่ไม่ทราบเพื่อนได้เอาไปลองทำหรือยังครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านและให้กำลังใจครับ
e-ดอกไม้น้อยๆ มันน่ารักมาก
คนคิดค้นสิ่งนี้ถ้าไม่ได้ลอกใครมาต้องขอยกโป้งให้ (หัวแม่โป้ง กะ หนึ่งดอกไม้ อิอิ)