การกำหนดทางเลือกและการตัดสินใจเลือกนโยบาย


การกำหนดทางเลือกและการตัดสินใจเลือกนโยบาย

 

          Anderson (1994, pp. 33-34) ได้อธิบายว่า การกำหนดทางเลือกและการตัดสินใจ เลือกนโยบาย (public policy decision making and determination) เป็นกระบวนการ ที่พัฒนามาจากการก่อรูปนโยบาย โดยมีปัญหาสาธารณะ (public problems) เป็นโครงสร้างพื้นฐานของกระบวนการในกระบวนการก่อรูปนโยบาย การกำหนดทางเลือกนโยบายและการตัดสินใจนโยบาย สิ่งที่นักวิเคราะห์จะต้องคำนึงถึงตลอดเวลา คือ ความเป็นไปได้ใน การนำนโยบายไปปฏิบัติให้บรรลุเป้าประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล การกำหนดทางเลือกและการตัดสินใจเลือกนโยบายที่มิได้คำนึงถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ มีโอกาสที่จะประสบความลัมเหลวได้มาก เมื่อต้องนำไปปฏิบัติให้ปรากฎเป็นจริง และจะส่งผลกระทบทางลบต่ออนาคตทางการเมืองของผู้ตัดสินใจเลือกนโยบายดังกล่าวอย่างรุนแรง

          การกำหนดทางเลือกนโยบาย จะต้องคำนึงถึงคุณลักษณะที่สำคัญ 3 ประการ คือ    

                   (1) การจินตนาการ (imagination)

                   (2) การสร้างสรรค์(creativity)

                   (3) นวัตกรรม (innovation) ทางเลือกนโยบายที่ดีควรจะเริ่มจากการมีจินตนาการในการแก้ไขปัญหาสาธารณะ เพื่อให้เกิดสังคมที่ดี และนำไปสู่การสร้างสรรค์ โดยการคิดค้นทางเลือกใหม่ๆ ให้ปรากฏเป็นจริง แล้วนำทางเลือกที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ไปใช้ประโยชน์ โดยทำให้การแก้ไขปัญหาประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้จะต้องคำนึงอยู่เสมอว่าทางเลือกนโยบายที่มีลักษณะสร้างสรรค์ดังกล่าว จะต้องมีความเป็นไปได้ทั้งทางการเมืองและการนำไปปฏิบัติให้ ปรากฏเป็นจริง

        Mohr (1969, p. 112) ได้จำแนกให้เห็นความแตกต่างของ การสร้างสรรค์ว่าหมายถึง การนำสิ่งใหม่ไปกระทำ ให้ปรากฏเป็นจริง (bringing something new into being) ส่วนนวัตกรรม หมายถึง การนำ สิ่งใหม่ไปสู่การใช้ประโยชน์ (bringing something new into use) อาทิเช่น การประดิษฐ์ ดาวเทียมเป็นการสร้างสรรค์และการใช้ดาวเทียมเพื่อประโยชน์ในการสื่อสารโทรคมนาคม เป็นนวัตกรรม หรือการประดิษฐ์คอมพิวเตอร์(computer) เป็นการสร้างสรรค์และ การใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ในการผลิตและการจัดการเป็นนวัตกรรม เป็นต้น

        จากความเห็นของ (Lasswell 1959, p. 203) กล่าวว่า การสร้างสรรค์คือ การจัดการขั้นสุดท้ายที่นักวิเคราะห์นโยบายจะต้องพยายามกระทำให้ได้ เพราะการสร้างสรรค์ที่อยู่ ในบริบทของนโยบาย คือ การรับรู้คุณค่าของนวัตกรรมที่จะมีผลต่อการแก้ไขปัญหาสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

บรรณานุกรม

อาณัฐชัย รัตตกุล. (2551). นโยบายการขนส่งมวลชนของประเทศไทย: กรณีศึกษาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสาธารณะ. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์), มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

Anderson, J. E. (1994). Public policy-making: An introduction (2nd ed.).New York: Houghton.

Mohr, L. B. (1969). Determinants of innovation in organizations.AmericanPolitical Science Review, 63(3), 111-126.

Lasswell, H. D. (1959). The social setting of creativity. In H. H. Anderson(Ed.), Creativity and Its Cultivation (2nd ed., pp. 203-204). New York: Harper & Row.

ทิพย์รัตน์:
Brever and Deleon   

        Brever and Deleon (1983, p. 62) ได้ให้ความเห็นว่า การสร้างสรรค์ คือ สมรรถนะในการพิจารณาปัญหาและข้อเสนอทางเลือกนโยบายภายใต้ทัศนียภาพ (perspectives) และระเบียบวิธีการวิเคราะห์ที่มีเอกภาพ และแตกต่างไปจากความพยายาม ที่เคยกระทำมาก่อนในการแก้ไขปัญหาสาธารณะทำนองเดียวกัน

บรรณานุกรม

อาณัฐชัย รัตตกุล. (2551). นโยบายการขนส่งมวลชนของประเทศไทย: กรณีศึกษาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสาธารณะ. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์), มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

Brever, G. D., & Deleon, P. (1983). The foundation of policy analysis. Homewoods, IL: Dorsey.

26 มกราคม 2554

ทิพย์รัตน์:
Barron (1965)  

           Barron (1965, p. 7) ได้ให้ความเห็นว่า การสร้างสรรค์จะมีจุดมุ่งหมายเกี่ยวกับ การกำหนดทางเลือกนโยบายใดก็ตามที่มีลักษณะใหม่น่าสนใจ (fresh) แปลกใหม่ (novel) ไม่ปกติธรรมดา (unusual) สะท้อนถึงความฉลาด (clever) มีความเหมาะสม (pats) สะท้อนความแตกต่างจากของเดิม (divergence) และสะท้อนถึงปฏิภาณในการคิดค้นใหม่ (ingenious)  การตัดสินใจเลือกนโยบาย (policy decision-making) เกี่ยวข้องกับการกระทำของ ข้าราชการหรือองค์การที่มีอำนาจในการให้ความเห็นชอบ (adopt) ดัดแปลง (modify) หรือ ปฏิเสธ (reject) ทางเลือกนโยบายที่นำเสนอเพื่อการพิจารณา กระบวนการดังกล่าวส่วนใหญ่จะกระทำโดยฝ่ายนิติบัญญัติในรูปของการประกาศใช้เป็นกฎหมาย หรือกระทำโดย ฝ่ายบริหารในรูปของมติคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม การศึกษาจะต้องตระหนักให้ชัดเจน ถึงความแตกต่างระหว่างการตัดสินใจนโยบายที่มีผลกระทบอย่างสำคัญต่อเนื้อหาของนโยบาย และการตัดสินใจในงานกิจวัตร (routine decisions) ซึ่งการตัดสินใจนโยบาย คือ การตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการพิจารณาเลือกทางเลือกนโยบายที่ได้ผ่านกระบวนการ กำหนดนโยบายมาแล้ว

           ในขั้นตอนของการรับหรือการให้ความเห็นชอบนโยบายนั้น มิใช่กระบวนการที่จะเลือกทางเลือกนโยบายที่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์ที่สุด (full-blown policy alternatives) แต่เป็นกระบวนการที่จะพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อทางเลือกนโยบาย ที่มีโอกาสชนะมากกว่า ถึงแม้ว่าทางเลือกนั้นจะมิใช่ทางเลือกที่ถูกใจมากที่สุดก็ตาม และในการพิจารณาตัดสินใจเลือกนโยบายบางนโยบายอาจจะถูกปฏิเสธ บางนโยบาย อาจได้รับความเห็นชอบหรือบางนโยบายอาจถูกดัดแปลงแก้ไข โดยความเป็นจริงแล้ว กระบวนการตัดสินใจนโยบายเป็นเพียงรูปแบบของความเป็นทางการในการพิจารณาทางเลือกนโยบายเท่านั้น เพราะการตัดสินใจที่แท้จริงว่าจะรับหรือไม่รับทางเลือกนโยบาย ได้กระทำสิ้นสุดก่อนหน้านี้แล้วโดยกลุ่มทางการเมืองที่เกี่ยวข้อง เพราะการตัดสินใจเลือกนโยบาย คือ การแสดงออกขั้นสูงสุดของการใช้อำนาจทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ความแน่นอนของการตัดสินใจนโยบายจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อได้มีการประกาศใช้นโยบายอย่างเป็นทางการเท่านั้น

           การตัดสินใจนโยบายที่กระทำโดยฝ่ายนิติบัญญัตินั้น เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า เป็นสิ่งที่ชอบธรรม (legitimacy) เพราะกระทำภายใต้กระบวนการที่มีข้อกำหนดชัดเจน ดังนั้น โดยทั่วไปแล้วการตัดสินใจนโยบายที่กระทำโดยทางการ จึงได้รับการพิจารณาว่า เป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าผู้ตัดสินใจนโยบายเป็นผู้มีอำนาจตามกฎหมาย (legal authority) ที่จะทำการตัดสินใจนโยบาย

           แนวความคิดเกี่ยวกับความชอบธรรมเป็นสิ่งยากที่จะนิยามให้ชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากความถูกต้องตามกฎหมาย (legality) ถึงแม้ว่าความถูกต้องตามกฎหมาย คือ สิ่งที่เชื่อได้ว่าเป็นสิ่งชอบธรรม ซึ่งมุ่งเน้นที่ความรู้สึกของประชาชนเกี่ยวกับความถูกต้อง (lightness) และความเหมาะสม (appropriateness) ต่อการกระทำของรัฐบาล สำหรับการกำหนดนโยบาย ความชอบธรรมตามกฎหมายพิจารณาได้จากการที่ปัญหาสาธารณะ ได้รับการแก้ไขอย่างไร และมีปัญหาอะไรบ้างที่รัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ไข การกระทำ ของรัฐบาลในบางกรณี แม้ว่าจะมีความถูกต้องตามกฎหมายและถูกต้องตามอำนาจที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญแต่ถือได้ว่าไม่มีความชอบธรรมเพราะว่าไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน เช่น กรณีที่ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่ยอมรับความชอบธรรมของสงครามเวียดนาม (Anderson, 1994, p. 120) และโครงการรถไฟฟ้า BTS โดยเฉพาะในระยะก่อสร้างโครงการ ที่เกิดมีการต่อต้านอย่างมากจากประชาชนหลายกลุ่ม เป็นต้น

บรรณานุกรม

อาณัฐชัย รัตตกุล. (2551). นโยบายการขนส่งมวลชนของประเทศไทย: กรณีศึกษาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสาธารณะ. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์), มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

Anderson, J. E. (1994). Public policy-making: An introduction (2nd ed.).New York: Houghton.

Barron, F. (1965). The psychology of creativity, In T. Newcomb (Ed.). New directions in psychology II (pp. 3-134) New York: Holt Rinehart & Winston.


ทิพย์รัตน์:
สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ (2544)
          สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ (2544, หน้า 385) ได้ให้ทัศนะว่า ความเป็นจริงครึ่งหนึ่งที่ได้จากการสังเกตการตัดสินใจของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา โดยพบว่า ประธานาธิบดี พยายามที่จะชักจูงรัฐมนตรี สมาชิกสภาคองเกส หรือสมาชิกวุฒิสภาให้คล้อยตามข้อเสนอของประธานาธิบดี เพื่อให้การตัดสินใจของประธานาธิบดีได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นความพยายามโน้มน้าว (persuasion) ที่จะทำให้กลุ่มการเมืองอื่นเชื่อมั่นในความถูกต้องต่อข้อเสนอนโยบายของตน หรือเชื่อมั่นในฐานะตำแหน่งของตนที่จะเป็นเสมือนหลักประกันต่อผู้สนับสนุน และทำให้ผู้สนับสนุนยอมรับข้อเสนอด้วยความเต็มใจ

          นอกจากนี้รูปแบบของการตัดสินใจนโยบาย อาจพิจารณาได้จากลักษณะของ การต่อรอง (bargaining) และการใช้คำสั่ง (command) โดยมีรายละเอียด คือในกระบวนการตัดสินใจการต่อรอง เป็นกระบวนการทางการเมืองที่สำคัญ ซึ่งบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ต่างอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจทำการเจรจาเพื่อปรับเป้าหมายที่ไม่สอดคล้องกันให้เป็นที่ยอมรับกัน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการยอมรับในการนำนโยบายไปปฏิบัติ ประกอบไปด้วย การเจรจาต่อรอง (negotiation) เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น (flexible) การให้และการรับ (give and take) และการประนีประนอม (compromise) ซึ่งลักษณะการต่อรองดังกล่าว สามารถกระทำได้ทั้งชนิดอย่างเปิดเผยและชนิดในทางลับ ส่วนการใช้คำสั่งจะเป็นความเกี่ยวข้องของความสัมพันธ์ตามลำดับชั้น ระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา โดยผู้บังคับบัญชามักจะมีการใช้อิทธิพลในลักษณะการใช้อำนาจ เพื่อครอบงำความคิด และการตัดสินใจอิสระของผู้ใต้บังคับบัญชาในการบริหารการทำงานอย่างอิสระ เพราะผู้บังคับบัญชาเป็นบุคคลที่สามารถให้คุณและให้โทษได้การใช้อิทธิพลดังกล่าวถือเป็น เครื่องมือเพื่อให้ผู้รับคำสั่งตัดสินใจตามที่ตนเองต้องการได้ เช่น การออกคำสั่งของนายกรัฐมนตรีเพื่อให้รัฐมนตรีดำเนินโครงการหรือนโยบายของนายกรัฐมนตรีโดยตรง และหากผู้รับผิดชอบไม่ดำเนินการตามความต้องการของนายกรัฐมนตรีแล้ว นายกรัฐมนตรีก็จะดำเนินการลงโทษในเชิงการโยกย้ายหน้าที่ และตำแหน่งของรัฐมนตรีได้ หรือแม้กระทั่งถูกปลดออกจากตำแหน่งได้ (สมบัติธำรงธัญวงศ์,2544,หน้า385)

          สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ (2544,หน้า 386)ได้ให้ความเห็นว่าในเชิงปฏิบัติตามรูปแบบ ของการตัดสินใจเลือกนโยบายนั้นพบว่า ส่วนใหญ่ในการตัดสินใจเลือกนโยบายนั้น มักจะใช้รูปแบบทั้งการต่อรอง การโน้มน้าว และการใช้คำสั่งปะปนกันไปโดยมีการปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายบางส่วนเพื่อความยืดหยุ่นในนโยบาย และสามารถนำไป ดำเนินการได้โดยได้รับการสนับสนนจากหลายฝ่ายหรือเพิ่มมากขึ้น และเกิดการมีส่วนร่วมในนโยบายมากขึ้น

บรรณานุกรม

อาณัฐชัย รัตตกุล. (2551). นโยบายการขนส่งมวลชนของประเทศไทย: กรณีศึกษาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสาธารณะ. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์), มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

สมบัติ ธำรงธัญวงศ์. (2544). นโยบายสาธารณะ: แนวคิดการวิเคราะห์และกระบวนการ. กรุงเทพมหานคร: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.

26 มกราคม 2554

ทิพย์รัตน์:
Nimmo and Ungs (1969) 
             
        Nimmo and Ungs (1969, p. 367) ให้ทัศนะว่า โดยทั่วไปแล้วลักษณะการตัดสินใจเลือกนโยบายนั้นจะเป็นรูปแบบการต่อรอง ส่วนการโน้มน้าวกับการใช้คำสั่งนั้นจะเป็น เพียงส่วนประกอบเท่านั้น เพราะการต่อรองเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับแนวความคิดที่ว่า เพื่อสิ่งที่เหมาะสมกว่า สำหรับสังคมการตัดสินใจเลือกนโยบายควรจะสอดคล้องกับค่านิยมของคนส่วนใหญ่ ที่เป็นระบบที่สะท้อนให้เห็นถึงบูรณาการของการใช้อำนาจในการสร้างความเป็นเอกภาพของสังคมนับเป็นแนวทฤษฎีที่สอดคล้องกับความเป็นจริงมาก

บรรณานุกรม

อาณัฐชัย รัตตกุล. (2551). นโยบายการขนส่งมวลชนของประเทศไทย: กรณีศึกษาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสาธารณะ. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์), มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

Nimmo, D., & Ungs, T. D. (1969). American political patterns (2nd ed.).Boston: Little Brown.

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/new

หมายเลขบันทึก: 454179เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2011 14:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 23:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท