3 สไตล์ ชมรมผู้สูงอายุส่งเสริมสุขภาพช่องปาก กำแพงเพชร ... ชมรมผู้สูงอายุบ้านโนนสมบูรณ์


 

ที่นี่ รพ.สต.บ้านโนนสมบูรณ์ จับมือกับ รพ.สต.ลานดอกไม้ ซึ่งมีทันตาภิบาลประจำอยู่ คนเดียวของทั้งอำเภอโกสัมพี เพื่อทำกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพช่องปากให้กับชมรมผู้สูงอายุบ้านโนนสมบูรณ์

ซึ่งที่ชมรมผู้สูงอายุบ้านโนนสมบูรณ์ มีวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งชมรมผู้สูงอายุ เพื่อส่งเสริมความสามัคคีระหว่างสมาชิก และบุคคลทั่วไป ให้การอุปการะช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่สมาชิก ส่งเสริมการกุศลสาธารณะประโยชน์ และบำรุงและส่งเสริมสุขภาพอนามัยให้กับผู้สูงอายุ มีสมาชิกทั้งสิ้น 277 คน ชาย 127 คน หญิง 150 คน โดยมีผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จำนวน 123 คน และผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี จำนวน 154 คน และถ้าจำแนกเป็นการช่วยเหลือตนเองด้านร่างกาย สุขภาพของสมาชิก จะพบว่า มีผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้ จำนวน 115 คน ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองได้บ้าง จำนวน 9 คน ไม่มีผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้เลย

ที่โนนสมบูรณ์มีลักษณะพิเศษคือ ประชาชนเป็นกลุ่มคนอีสาน ที่มีการมารวมตัวช่วยเหลือกัน เริ่มจากการเก็บฌาปนกิจ เพื่อการออมเงินสำหรับใช้ร่วมกันในงานบุญ งานบวช มีผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวตั้งต้นดำเนินการมาประมาณ 10 ปีแล้ว ที่นี่มีการปลูกข้าวกิน มี 2 หมู่บ้าน อยู่ไกลมาก เพราะฉะนั้น เวลามีคนเข้าไปทำกิจกรรม เขาจะมีความต้องการทุกอย่าง เขามีความต้องการ และจะสนุกสนานไปกับกิจกรรม

กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพที่ทำกันประจำ ได้แก่

    • การออกกำลังกายทุกวัน เวลา 17.00 น. ที่ลานกีฬาของหมู่บ้าน
    • การตรวจสุขภาพปีละ 2 ครั้ง หรืออาจมากกว่านั้น
    • เยี่ยมเยียนสมาชิกที่เจ็บป่วย พิการ ทุพพลภาพ ที่นี่มีคุณยายจันดี อายุ 99 ปีแล้ว
    • กิจกรรมตามประเพณีวัฒนธรรม – ทำบุญข้าวจี่ และประเพณีบุญบั้งไฟ
    • ชาวบ้านทำปลาร้ากินเอง ปลูกข้าวกินเอง
    • การช่วยเหลือสงเคราะห์ด้านการเงิน และสิ่งของแก่เพื่อนสมาชิก – มอบสิ่งของ และเงินจำนวนหนึ่งให้ผู้สูงอายุในวันสงกรานต์
    • ชมรมเป็นแหล่งศึกษาดูงานถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้กับหน่วยงานอื่น เช่น ผู้สูงอายุแสดงการออกกำลังกายแบบยางยืด

 

กิจกรรมอื่นๆ ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา

  • ผู้สูงอายุร่วมปลูกต้นไม้เทิดพระเกียรติ
  • ผู้สูงอายุประกวดร้องเพลงทำนองสรภัญญะ
  • ผู้สูงอายุเข้าร่วมกิจกรรมรดน้ำดำหัวที่บ่อน้ำพุร้อน เป็นสถานทีท่องเที่ยวของกำแพงเพชร

จุดเริ่มต้นของการจัดกิจกรรมส่งเสริมทันตสุขภาพ 

รพ.สต.โนนสมบูรณ์ ได้ดำเนินการตรวจฟัน และตรวจพบว่า ผู้สูงอายุมีฟันฟันผุ แต่ยังไม่มีทันตบุคลากรไปให้ความรู้

ในปี 2554 ได้มีการประชุมชมรมผู้สูงอายุที่ทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปากระดับจังหวัด ทำให้ รพ.สต.โนนสมบูรณ์คิดทำกิจกรรมร่วมกับชมรมผู้สูงอายุ โดย เชิญทันาตาภิบาลจาก รพ.สต.ลานดอกไม้ไปให้ความรู้เรื่องสุขภาพช่องปาก และร่วมจัดกิจกรรมแปรงสีฟันเก่าแลกแปรงสีฟันใหม่ การสอนการแปรงฟัน และการทำเม็ดสีย้อมฟัน เพื่อให้มีเม็ดสีย้อมฟันใช้กันเองได้ในชมรมผู้สูงอายุ

เม็ดสีย้อมฟัน สูตร “โนนสมบูรณ์” ประกอบด้วย แป้งข้าวเจ้า สีผสมอาหาร และน้ำร้อน วิธีการทำ ก็คือ นำแป้งมานวดกับน้ำร้อนจนเข้ากัน แล้วใส่สีผสมอาหารให้เข้ากันแล้ว ปั้นเป็นก้อนเล็กๆ แล้วนำไปตากแดด 2 วัน เม็ดสีย้อมฟันนี้ ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการแลกเปลี่ยนกิจกรรมส่งเสริมทันตฯ สู่บ้าน ชุมชน โรงเรียนด้วย โดยมีวัตถุประสงค์ทำเพื่อให้ทุกคนในครอบครัวมีการดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตนเอง โดย เริ่มต้นจากเด็กเล็ก จึงได้จัดกิจกรรมเล่านิทานเรื่อง “น้องนิดไม่อยากแปรงฟัน” และเพื่อให้ผู้สูงอายุที่ไปร่วมกิจกรรมไม่ได้ ได้รับการเยี่ยมบ้าน และดูแลเรื่องทันตสุขภาพ

มีเทคนิคของการทำเม็ดสีย้อมฟันมาฝาก ...

แรกๆ ที่นำแนวคิดการทำเม็ดสีย้อมฟันเข้า เจ้าหน้าที่ก็มีความคิดเพียงว่า ทำอย่างไรให้เกิดเป็นเม็ดสีที่ติดฟันได้ แต่ก็ยังไม่รู้จะเอาอะไรมาทำดี จึงเชิญผู้สูงอายุมาคุย บอกว่า “... โนนสมบูรณ์ ปีที่แล้วประกวดชมรมฯ ได้อันดับที่สอง ที่แพ้เพราะ เราไม่มีเรื่องเกี่ยวกับทันตกรรม เราจะทำกันอย่างไรให้ได้อันดับที่สูงขึ้น จึงเสนอการทำเม็ดสีย้อมฟันกันเอง ใช้กันเอง จะได้ไม่ต้องไปเอาในเมืองซึ่งไกล แต่จะทำอย่างไรกันดี

บอกว่า ... หมอไม่รู้หรอกว่า มันจะทำจากอะไร แต่แนวคิดคือ ปั้นให้เม็ดกลมๆ และทำแล้ว ติดสีฟันได้ ผู้สูงอายุที่เป็นแม่บ้านบอกว่า “... เอาอย่างนี้ เอาแป้งข้าวเจ้าที่ผสมน้ำร้อน นำมาผสมสีผสมอาหารได้ไหมหมอ ...” เราก็เลยลองกัน ตอนแรกตากแดดไม่ดี เพราะว่าเราปั้น และตากแดดประมาณครึ่งชั่วโมง เข้าใจว่า น่าจะอยู่ได้ ก็เลยลองเอามาเก็บไว้ ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้น พบว่า เม็ดสีขึ้นรา บูด ... + ปัญหาว่า เราใส่สีผสมอาหารน้อย เวลาเราเคี้ยวเลยไม่ค่อยติด ดูไม่ค่อยชัด

ก็เลยปรับสูตรใหม่ ... ทำใหม่อีกรอบ ใส่สีผสมอาหารมากขึ้น ตอนแรกใส่สีส้ม เพราะคิดว่า เขามีสีอะไรก็เอาอย่างนั้น แต่ส้มพอผสมขี้ฟันก็จะเหมือนกัน ... ก็เลยไปซื้อสีจากในตลาด สีชมพู ติดดีขึ้น กับแก้ปัญหาที่เม็ดสีบูด

ได้ข้อสรุปว่า ต้องตากแดดประมาณ 2 วัน และมาเก็บในภาชนะปิดสนิทในตู้เย็น ก็จะอยู่ได้นาน + ใช้สีชมพู ความคิดสีก็จะมากขึ้น และเห็นชัดขึ้นด้วย

การใช้เม็ดสีย้อมฟันตรงนี้ เป็นกุศโลบายที่ทำให้ผู้สูงอายุแปรงฟันสะอาดขึ้น นานขึ้น มีความสนใจที่จะดูช่องปากตัวเอง หลังการทำความสะอาดฟันด้วย

เมื่อทำในชมรมผู้สูงอายุได้แล้ว ก็มีการเผยแพร่เข้าไปในโรงเรียน เริ่มแรกโดยให้ผู้สูงอายุเล่านิทาน เรื่อง หนูนิดไม่อยากแปรงฟัน สอนในโรงเรียนในวันลูกเสือ เนตรนารี เด็กจะได้รู้ว่าปวดฟันเป็นอย่างไร พอเข้าใจ ก็ให้เคี้ยวเม็ดสีย้อมฟัน และแปรงฟันกัน

สื่อประกอบการเล่านิทานนี้ ผู้สูงอายุจะทำตุ๊กตาเป็นหนูนิด คุณแม่ คุณครู เล่ากันเป็นทีม และมีคุณลุงสอนแปรงฟันที่ถูกวิธี 1 คน เด็กก็จะมาเรียนรู้กันอย่างสนุกสนาน

ผลที่เกิดขึ้น ภายหลังจากการทำกิจกรรม ก็คือ

  • ผู้สูงอายุ และเด็กเกิดความตื่นตัว เห็นความสำคัญเรื่องการแปรงฟันที่ถูกวิธี และการดูแลสุขภาพช่องปาก
  • เกิดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพเกี่ยวกับช่องปาก และฟันในกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กอนุบาล
  • ผู้สูงอายุได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

และยังมีแนวคิดในการพัฒนาการทำเม็ดสีย้อมฟันต่อไป โดย อาจใช้ผลไม้แก้วมังกรที่มีผลสีแดง นำไปผสมกับเม็ดแป้งแทนการใช้สีผสมอาหาร และพัฒนาการทำเม็ดสีย้อมฟัน โดยใช้น้ำ และใบของใบเตยมาปั่นให้ละเอียด แล้วนำมาผสมกับแป้ง เพื่อช่วยในเรื่องของกลิ่น

และกิจกรรมที่จะทำต่อไปของโนนสมบูรณ์ ก็คือ เยี่ยมบ้านผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้

 

หมายเลขบันทึก: 454175เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2011 14:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 15:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ทำไมต้องนำแป้งข้าวเจ้ามาเป็นส่วนผสมในการทำเม็ดสีย้อมฟันค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท