มีผู้เปรียบ สมอง ก็เหมือนกับอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย
มีสองซีก ข้างไหนใช้มากก็แข็งแรงกว่าอีกข้างหนึ่ง
ถึงมันมีขนาดไม่เท่ากัน
แต่เราต้องประสานสองข้างอย่างสมดุลเพื่อดำรงชีวิต
23% ของคนทั่วไป มีขาข้างหนึ่งยาวกว่าอีกข้าง 1 cm หรือมากกว่า ที่มา
แต่เราก็ต้องเดินด้วยขาทั้งสองข้าง
คนปกติย่อมเดินแบบ "ซ้าย ขวา ซ้าย" หรือ "ขวา ซ้าย ขวา"
ไม่ใช่เดินแบบ "ซ้าย ซ้าย ซ้าย" หรือ "ขวา ขวา ขวา"
สมองก็เช่นกัน
Left Big "L" (mindsight, Siegel)
Late develope : เมื่อเด็กเริ่มถาม "Why?"
Linear thought : Y = BX + C
List : ประการที่ 1 , 2, 3..
Lingusitic language : "ขาว" (ไม่ใช่เขียวนะ)
Logical operation : ตัดสินแบบ "on/off" เช่น "0/1" "ขาว/ดำ" "ถูก/ผิด"
แต่ไม่ว่าเราจะเป็น Right thinker หรือ Left thinker
ชีวิตที่สมดุล ต้องการสมองซึกซ้ายและขวา ประสานกันอย่างสมดุล
ไม่มีซึกไหน สำคัญไปกว่าซีกไหน
น่าคิดว่า..
การศึกษา แบบ
สอนสูตร "linear" แล้วสอบแบบ "linear"
สอนเป็น "list" แล้วสอบแบบ "list"
สอนเป็น "lingustic" แล้วสอบแบบ "lingustic"
สอนแบบใดก็ตาม แต่สุดท้าย "จงเลือกเพียงหนึ่งข้อ.."
คือการใช้สมองแบบเอียงซ้าย หรือไม่
การใช้ "จิตสัมผัส" ถึงความรู้สึก นึกคิด "ภายใน"
แล้วเขียนบรรยายด้วยตัวอักษร
ในการเขียนต้องเรียบเรียงประติดประต่อ
คือ การใช้สมอง แบบ "ขวา ซ้าย ขวา"
วิเคราะห์จากบทเรียนคนอื่นในอดีต
ผนวกกับบทเรียนของตนเอง
เปรียบเทียบ ความเหมือนความต่าง
แล้วนำมาสังเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ใหม่
คือ การใช้สมอง แบบ "ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา"
Research question มองภาพรวม ทำไปทำไม ทำไปเพื่อใคร
Data collection วางแผนเก็บข้อมูล
Analysis วิเคราะห์ข้อมูล
Conclusion สรุปเพื่อการนำไปใช้
คือ การใช้สมอง แบบ "ขวา ซ้าย ซ้าย ขวา" -> ข้าพเจ้าจึงเดินสะดุดหัวคะมำอยู่เรื่อย
****
ข้าพเจ้า สังเกตตัวเองเร็วๆ นี้
ว่าอ่านหนังสือแบบซึมซับอรรถรส ไม่ค่อยประสบควาามสำเร็จ
เพราะจะคอยเปิด หน้าแรก - กลาง - หลัง ให้รู้ว่าโครงสร้างคืออะไร
ติดกับ "list" เสียแล้ว...
ข้อ ง. ข้อ ก, ข และ ค ถูก
ข้อ จ. ถูกทุกข้อ
...................................
เขียนดีอีกตามเคยครับ คุณหมอ
NO COMMENT ดีกว่า ;)...
ข้อ ฮ.นกฮูก ทำไมอาจารย์นอนดึกจังคะ..
List ตัวอย่างของการบรรลุกระบวนการเรียนรู้กลุ่มหนึ่งที่เขาเรียก Transfer of Learning
เรียนอาจารย์วิรัตน์..ด้วยใจจริงคะ ว่าทุก comment ของอาจารย์นั้นมีความลึกซึ้ง
และทำให้ได้เรียนรู้ ศาสตร์ของการศึกษา ทีละนิดทีละนิด..
ตอนเขียนบทความนี้ ก็เกรงอยู่ลึกๆ ว่า จะปล่อยไก่คะ เนื่องจากไม่ได้เป็นนักการศึกษา เพียงมีความสนใจ เพราะสงสัยจาก "ประสบการณ์" ตนเองตอนเป็นนักศึกษา อาจเรียนไม่เป็น เลยรู้สึกเรียนแบบเหนื่อยๆ..
การใช้ "จิตสัมผัส" ถึงความรู้สึก นึกคิด "ภายใน"
แล้วเขียนบรรยายด้วยตัวอักษร
ในการเขียนต้องเรียบเรียงประติดประต่อ
คือ การใช้สมอง แบบ "ขวา ซ้าย ขวา"
..
ขอบคุณสำหรับสาระแห่งการคิดในครั้งนี้ครับ
ÄÄÄÄ...มีการใช้..สมอง..แบบ..กลางๆ..(บ้างไหมเจ้าคะ..เพื่อ..กัน..สะดุด..เจ้าค่ะ...ยายธี)....
เป็นเกียรติคะ ที่ idol blogger มาเยี่ยมเยียน
เชื่อว่า การเขียนสะท้อนความรู้สึก เขียนไดอารี่ พัฒนาสมองและจิตวิญญาณ ได้คะ
นั่นสิคะ ทำไมธรรมชาติไม่ออกแบบมาให้มีสมองส่วนกลาง (mid brain)
ใช้คิดได้ด้วย
เดินสะดุด ไม่เป็นไรคะ มีเพื่อนๆ คอยประคองซะอย่าง