สุภาษิตพระร่วงสู่รัตนโกสินทร์ศตวรรษที่ 21


สุภาษิตพระร่วงทันสมัยอยู่เสมอ

ให้นักเรียนเขียนแสดงความคิดเห็นว่า ควรนำสุภาษิต   พระร่วงบทใดไปใช้กับกลุ่มบุคคลต่อไปนี้ พร้อมแสดงความคิดเห็นไม่ต่ำกว่าข้อละ  5 บรรทัด

 

1.  ผู้นำประเทศ

2.  ประชาชนทั่วไป

3.  นักการเมือง

 

กำหนดส่ง  ก่อนวันจันทร์ ที่ 15 สิงหาคม เวลา  24.00 น.

หมายเลขบันทึก: 453373เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2011 13:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 11:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)
กิตติธัช สังข์จุ้ย

1.ผู้นำประเทศ

ระบือระบินอย่าฟังคำ

แปลว่า อย่าเชื่อข่าวลือง่ายๆ เพราะผู้นำประเทศไม่ควรเชื่อคนง่าย และไม่ควรเชื่อข่าวลือ เพราะข่าวลืออาจจะผิด ตัวอย่างเช่น นาย กอ บอกว่า นาย คอ ไปเอาเงินของรัฐมาใช้ ผู้นำก็เชื่อเลยประหารชีวิตนาย คอ ทั้งๆที่นาย คอ ไม่ได้ทำ ทำให้บ้านเมืองวอดวายเพราะมีผู้นำหูเบา

2.ประชาชน

เป็นคนอย่าทำใหญ่

แปลว่าอย่าอวดเบ่งคุยโตหรือมีอิทธิพลเหนือใครต่อใครเพราะเป็นประชาชนธรรมดาไม่ควรอวดเพราะอาจจะทำให้ตนเองเจ็บตัวได้และไม่ควรไปอวดกับพระกับเจ้าอาจจะมีความผิด

ถึงขั้นประหารชีวิต

3 นักการเมือง

อย่าขัดแข็งผู้ใหญ่

แปลว่าไม่ควรขัดแย้งหรืองัดข้อหรือแสดงอำนาจกับผู้ใหญ่หรือผู้ที่ มีอำนาจมากกว่าเพราะอาจจะมีภัยเพราะสมัยนี้มีนักการเมืองหลายคนทีไปขัดคำพูดของผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจ

และนักการเมืองเหล่านั้นก็ได้รับโทษมากมาย

สิรรัฐ ชัยสัมฤทธิ์โชค

1.ผู้นำประเทศ

สู้เสียสินอย่าเสียศักดิ์ แปลว่าเสียทรัพย์สินดีกว่าเสียศักดิ์ศรี

เพราะว่า ในสมัยนี้มีคนโกงกินกันเยอะแยะไม่ว่าจะเป็นตำรวจก็ตามหรือก็ไม่เว้นแต่ผู้นำประเทศการที่ผู้นำจะโกงเงินของประเทศไปแล้วพูดอย่างจะนำไปพัฒนาแต่ดันนำไปใช้จ่ายในทางอื่น ในบางครั้งผู้นำก็ชอบพูดอย่างทำอีกอย่าง การที่อยากได้เงินมากกว่าที่จะพัฒนาประเทศนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่มีโกงกินในสังคมไทยไปแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปสังคมไทยต้องมีสภาพแย่มากๆ คนไทยจึงควรเลือกคนดีมาเป็นผู้นำประเทศ ที่ไม่เห็นเงินเป็นใหญ่

เพราะฉะนั้นผู้นำประเทศจึงเหมาะแก่สุภาษิตนี้

2.ประชาชนทั่วไป

หน้าศึกอย่านอนใจ แปลว่า มีสงครามอย่างประมาท

เพราะว่า ในสมัยนี้ทุกคนล้วนต่างใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ใช้ชีวิตแบบไร้สาระไปวันๆ

ไม่เคยคิดอะไรล่วงหน้านัก เพราะมักจะชอบคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา แต่ ‘ทุกอย่างเป็นไปได้’

เป็นฉะนั้นไม่มีใครจะรู้ว่าวันพรุ่งนี้หรือไม่อีกกี่ชั่วโมง จะเกิดอะไรขึ้น การที่คนเราประมาท ทักจะคิดว่า หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นก็จะมีคนมาช่วย หรือ บางคนก็ไม่ได้คิดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเลย พระพุทธเจ้าได้สอนไว้เป็นคำสอนสุดท้ายว่า ‘จงอย่าประมาท’

3.นักการเมือง

ได้ส่วนอย่ามักมาก แปลว่า อย่าโลภมาก

เพราะนักการเมืองต้องการไปอยู่ในตำแหน่งสูงๆ นักการเมืองต้องรู้จักพอตัวบ้าง การที่นักการเมืองทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนหรือพวกพ้องตนได้เป็นใหญ่ ส่วนใหญ่เป้าหมายน่าจะอยู่ที่เงินหรือไม่ก็อำนาจ บางครั้งคนบางคนก็มาสมัครเป็นนักการเมืองเพราะอยากให้ตนเองนั้นโด่งดัง นักการเมืองบางพวกเป็นพวกได้คืบจะเอาศอก นักการเมืองได้อาชีพที่ค่อนข้างมีการโกงกินเยอะ เนื่องจากตำแหน่งนั้นสู.สุด คือ เป็นถึงนายกรัฐมนตรี หรือผู้นำประเทศ เพราะฉะนั้นนักการเมืองจึงเหมาะแก่สุภาษิตนี้

1.ผู้นำประเทศ

อย่ามีปากว่าคน

แปลว่า “อย่าว่าคนอื่น” เพราะ นักการเมืองสมัยนี้ในการหาเสียงส่วนใหญ่จะมีการพาดพิงถึงผู้อื่น และบางทีอาจเผลอปากไปว่าคนอื่นหรือไม่ใช่เฉพาะตอนหาเสียงยกตัวอย่างเช่นในการประชุมในสภาก็ยังมีการว่าคนอื่นหรือนินทาคนอื่น และบางทีผู้นำประเทศว่าไปถึงผู้นำประทศอื่นและอาจทำให้เกิดเรื่องต่อประเทศได้ เพราะฉะนั้นผมจึงคิดว่าผู้นำประเทศเหมาะกับสุภาษิตพระร่วงในบทที่กล่าวว่า “อย่ามีปากว่าคนอื่น”

2.ประชาชนทั่วไป

ได้ส่วนอย่ามักมาก

แปลว่า “ควรพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่” เพราะ คนในสมัยนี้ส่วนใหญ่มักมากเอาตัวเองเป็นหลัก จึงทำให้เกิดเหตุขโมยของ หรือปล้น ทำให้มีผลกระทบต่อชื่อเสียงบ้านเมือง เช่นเหตุการณ์โกง Jet Ski ฝรั่งในพัทยาทำให้มีข่าวถึงต่างประเทศ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าประชาชนทั่วไปในสมัยนี้เหมาะกับสุภาสิตพระร่วงในบทที่กล่าวว่า “ได้ส่วนอย่ามักมาก”

.3.นักการเมือง

อย่าแผ่เผื่อความผิด

แปลว่า “อย่าใส่ร้ายผู้อื่น” เพราะ นักการเมืองในสมัยนี้อิจฉาผู้ที่มีตำแหน่งสูงๆ จึงทำให้มีการแบ่งแยกพวกและทำให้เกิดการชุมนุมจึงทำให้มีผลกระทบต่อชาวต่างชาติเพราะทำให้ชาวต่างชาติกลับไปประเทศที่อยู่ได้ และนักการเมืองชอบโยนความผิดโยนความผิดไปมาจึงทำให้ศาลมีคดีเยอะและทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา ผมจึงคิดว่านักการเมืองเหมาะกับสุภาษิตพระร่วงที่กล่าวว่า “อย่าแผ่เผื่อความผิด”

ครูดีใจที่ กิตติธัช สิรรัฐแล้วก็กษิดิษ (พี่ JET) เข้ามาเขียนเป็นคนแรกๆ นะครับ ครูขอชมว่าพวกคุณเป็นคนที่มีความรับผิดชอบดีมาก ถ้าจะตรงกับสุภาษิตพระร่วงก็คือขณะนี้พวกคุณอยู่ในภาวะ "เมื่อน้อยให้เรียนวิชา" การที่คุณได้แสดงความคิดเห็นด้วยความเป็นห่วงสังคมไทย ทำให้ครูมีความหวังว่า บ้านเมืองของเรายังมีอนาคต เด็กของเรายังเป็นที่พึ่งได้ งานเขียนของคุณทั้งสามคนจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนๆ ขอให้คนอื่นได้พิจารณาและแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ วรรณคดีเรื่องสุภาษิตพระร่างจะกลับฟื้นคืนมาสู่ศตวรรษที่ 21 อีกครั้ง เพราะลึกๆ แล้ว มนุษย์ไม่ว่ายุคใดก็ยังประพฤติและแสดงพฤติกรรมเช่นเดิม ดังนั้นสังคมที่ประกอบด้วยผู้ปกครอง ผู้ใต้ปกครองก็จะต้องเรียนรู้ที่จะประพฤติตนอย่างถูกต้อง

อีกครั้งนะครับ ขอบคุณที่ตั้งใจทำงานชิ้นนี้ และขอบคุณที่เห็นว่างานนี้มีคุณค่าพอที่จะลงมือทำ

ครู

สิทธิพัทธ์ เกรียงศักดาชัย

1.ผู้นำประเทศ อย่าริร่านแก่ความซึ่งแปลว่าอย่าหาเรื่องใส่ตนเพราะถ้าหากผู้นำประเทศหาเรื่องใส่ตนแล้วละก็ประจะได้รับความเสียหายจากการกระทำของผู้นำประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม ตัวอย่างเช่น มีผู้นำประเทศคนหนึ่งไปโกงทรัพย์จากประเทศ ประเทศนั้นก็จะไม่มองว่าผู้นำประเทศเป็นคนโกงแต่จะมองว่าประเทศนั้นๆเป็นคนโกง

2.ประชาชนทั่วไป คนขำอย่าร่วมรักซึ่งแปลว่าอย่าไปเป็นเพื่อนหรือผูกมิตรกับคนพูกปดเพราะการที่ประชาชนไปเชื่อใจผู้นำประเทศจนทำให้หลงผิดจะทำให้ประเทศล่มจมได้

3.นักการเมือง ของแพงอย่ามักกินซึ่งแปลว่าอย่าใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายเพราะการทำงานในเรื่องต่างๆก็ควรจะรู้จักประหยัดไว้บ้างจะไดมีเงินเก็บเอาไว้ให้ลูกหลานของพวกเรา

ภวัต อมรพิทักษ์พันธ์

1.ผู้นำประเทศ

คนทรยศอย่าเชื่อ แปลว่าอย่าเชื่อคนทรยศ เพราะคนที่ทรยศต่อประเทศชาติบ้านเมืองจะทำให้ประเทศล่มจม แล้วถ้าไปเชื่อคนทรยศให้ประเทศของเรานั้นย่อมแย่ลงไปทุกที จากที่แย่อยู่แล้ว

2.ประชาชนทั่วไป

เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า หน้าศึกอย่านอนใจ แปลว่าไปที่ที่มีสถานการณ์อันตรายต่างๆ ควรระมัดระวังตัวด้วย และยามมีศึกสงครามอย่านิ่งนอนใจไปเพราะอันตรายสามารถเกิดกับเราได้เสมอ เพราะปัจจุบันคนเราใช้ชีวิตอย่าสุขสบายจนไม่ระวังภัยที่จะมาได้

เช่น เราจะไปอยุธยาฯ เราก็ต้องระวัง เพราะที่นั่นมีพวกปาหินใส่รถบ่อยๆ

3.นักการเมือง

ของแพงอย่ามักกิน แปลว่าอย่าใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย เพราะนักการเมืองมักจะรวยเป็นส่วนใหญ่ ถ้าใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยจะก็จะเป็นหนี้สิน และถ้าไม่ายคืนให้หมดจะโดนยิงเอาได้

1.ผู้นำประเทศ

หว่านพืชจักเอาผล เลี้ยงคนจักกินแรง เเปลว่า ทำอะไรไม่ควรหวังผลประโยชน์

เพราะผู้นำประเทศควรจะทำเพื่อปรระโยชน์ของประเทศชาติโดยไม่หวังสิ่งตอบเเทน

2.ประชาชนทั่วไป

อย่ากริ้วโกรธเนืองนิตย์ เเปลว่า อย่าเป็นคนโมโหอยู่ตลอดเวลา

เพราะคนเราไม่ควรโกรธคนง่ายเพราะจะทำให้ไม่มีใครคบด้วย

3.นักการเมือง

อย่าขุดคนด้วยปาก เเปลว่า ไม่ควรพูดค่อนขอดหรือกล่าวหาว่าร้ายใคร

เพราะนักการเมืองควรตั้งใจทำงานไม่ไปกล่าวหาใครเพื่อผลประโยชน์

ด.ญ. ยุรดา บูรณสัจจะ

1.สุภาษิตพระร่วงที่เหมาะสมกับผู้นำประเทศ

อย่าเอาแต่ชอบเสียผิด อย่าประกอบกิจเป็นพาล

สำหรับผู้นำประเทศ เท่ากับเป็นผู้นำของฝ่ายบริหารเป็นผู้นำประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ความสุขสงบ และเป็นผู้ที่ยอมสละตนเองเพื่อทำประโยชน์ให้แก่ประชาชน บ้านเมือง และประเทศชาติ ดังนั้นการที่จะคิดทำอะไรก็ตามที่ได้รับหน้าที่ด้วยความสุจริต ไม่คำนึงถึงตนเองหรือพวกพ้อง และไม่ทุจริต ไม่คอรัปชั่น

2.สุภาษิตพระร่วงที่เหมาะสมกับประชาชนทั่วไป

อย่าได้รับของเข็ญ เห็นงามตาอย่าปอง ของฝากท่านอย่ารับ

ประเทศไทยอยู่ในระบอบประชาธิปไตย เรามีการเลือกตั้งเลือกผู้ทำหน้าที่บริหารประเทศแทนเรา ดังนั้นพวกเราประชาชนทุกคนต้องเลือกคนดี คนทำงานได้ โดยไม่รับเงิน รับของหรือมองคนอย่างผิวเผิน หรือดูคนแค่ภายนอก ว่าพูดไพเพราะสุภาพตอนมาหาเสียง

3.สุภาษิตพระร่วงที่เหมาะสมกับนักการเมือง

โทษตนพึงรู้

การเป็นนักการเมือง หมายถึงผู้นั้นยอมสละตนเองมาช่วยบริหารประเทศ เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนดูแลผลประโยชน์ให้ประชาชน การทำงานในตำแหน่งหน้าที่ต่างๆที่ได้รับก็ต้องรับผิดชอบหน้าที่นั้นๆให้ดีที่สุด เพราะประชาชนได้เลือกท่านแล้ว จะผิดหรือจะถูกประการใดท่านก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำนั้นๆ

ณัฐภูมิ นิยมเสถียร

1.ผู้นำประเทศ

อย่าใช้คนบังบด เพราะหากพระมหากษักให้คนไม่ดีมาบริหารประเทศ ประเทศชาติก็อาจจะล่มจมได้

2.ประชาชนทั่วไป

คนทรยศอย่าเชื่อ แปลอย่าไปเชื่อคำพูดของ”คนหรือกลุ่มคนที่ทรยศต่อประเทศชาติบ้านเมือง” เพราะหากเราไปเชื่อเขาแล้ว ภัยอันตรายที่อาจจะร้ายแรงกว่าเดิมก็ได้ ตัวอย่างเช่น (สมมุติ) “นักการเมืองบางคน”ที่ตนได้ทรยศต่อประเทศชาติบ้านเมือง แต่เราก็ยังไปเชื่อใจ”กลุ่มคนของเขา”ให้มาทำลายชาติบ้านเมืองของเราอีก และ”คนที่ทรยศ”เราก็อาจจะบงการ”กลุ่มคนของเขาอยู่เบื้องหลังนี้ก็ได้ ที่กล่าวมานี้เป็นแค่การยกตัวอย่างเท่านั้น ดังนั้นผมจึงคิดว่าสุภาษิต “คนทรยศอย่าเชื่อ” น่าจะเหมาะสำหรับประชาชนทั่วไปครับ

2.นักการเมือง

ผิดอย่าเอาเอาแต่ชอบ แปลว่าอย่าทำความผิด ให้ทำแต่ความดี เพราะว่ามีนักการเมืองหลายคนมีการคอรัปชั่น จึงอยากให้ทำความดี ยกตัวอย่างเช่น “นักการเมืองบางคน”ที่ได้โกงประเทศ ขายชาติ แทนที่จะรับความผิด แต่”เขา”กลับไม่ยอมรับความผิด ไม่ยอมมารับโทษจากความผิดที่ตนได้ก่อไว้ ซึ่งตัวอย่างนี้เป็นเพียงแค่การสมมติเท่านั้น จากที่กล่าวมานี้ สุภาษิต”ผิดอย่าเอาเอาแต่ชอบ”น่าเหมาะสำหรับนักการเมืองที่จะมาช่วยบริหารประเทศของเราครับ

1.ผู้นำประเทศ

อย่าโดยคำคนพลอด เข็นเรือทอดทางถนน หมายถึง อย่าเชื่อคำพูดของคนโกหก แล้วไปทำตามในสิ่งที่ผิด

เพราะ การเป็นผู้นำประเทศ แล้วเชื่อคำแนะนำของคนโดยไม่คิดทบทวนให้รอบคอบ อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองและประชาชนได้

2.ประชาขนทั่วไป

ที่มีภัยพึงหลีก ปลีกตนไปโดยด่วน หมายถึง ที่ที่มีอัตรายควรหลีกเลี่ยง

เพราะ การที่เราเข้าไปในที่ที่เสี่ยงหรืออันตรายก็อาจจะทำให้เราได้รับบาดเจ็บได้โดยที่เราไม่รู้เรื่องหรือไม่ทันระวังตัว เช่น ในร้านเกมส์ที่เป็นแหล่งมั่วสุ่มของเด็กที่มีทั้งดีและไม่ดี บางครั้งถ้าเราเข้าไปเจอเด็กที่ไม่ดีก็อาจจะโดนทำร้ายหรือแย่งชิงทรัพย์สินได้ หรืออาจจะทะเลาะกันแล้วเราโดนลูกหลงด้วยก็ได้

3.นักการเมือง

อย่าได้รับของเข็น เห็นงามตาอย่าปอง ของฝากท่านอย่ารับ หมายถึง อย่ารับสิ่งของจากคนแปลกหน้า อย่าอยากได้ของคนอื่น

เพราะ การเป็นนักการเมือง อาจจะมีคนนำสิ่งของมาให้เพื่อหวังได้ผลประโยชน์อย่างอื่นตอบแทนจากเรา เมื่อรับของเขามาแล้วก็ไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่เขาขอมา และจำเป็นต้องให้ประโยชน์ตอบแทนคืนไป ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

1.ผู้นำประเทศ

ภักดีอย่าด่วนเคียด

คนที่เป็นผู้นำประเทศควรมีความซื้อสัตย์สุจริตไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และก่อนตัดสินใจทำอะไรควรคิดให้รอบคอบและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพราะการตัดสินใจนั้นเป็นการตัดสินใจเพื่อให้ประเทศชาติให้ก้าวหน้าต่อไปอย่างมีคุณภาพ

2.ประชาชนทั่วไป

เป็นคนเรียนความรู้

เกิดเป็นคนต้องศึกษาหาความรู้ไว้อยู่กับตัวเสมอ เพราะความรู้ ช่วยเราได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าในยามปกติหรือคับขันและความรู้เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีงานทำ มีเงินใช้ และดำรงชีวิตอยู่ได้ในทุกวัน

3.นักการเมือง

ผิดอย่าเอาเอาแต่ชอบ

นักการเมืองมีหน้าที่ทำให้ประเทศพัฒนา ไม่ควรโกงประเทศหรือหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ให้ทำแต่ความดีทำงานตามหน้าที่เพื่อให้ประเทศชาติได้พัฒนาต่อไป

สลิล เกิดโรจน์วงศ์กุล

1.ผู้นำประเทศ

ประพฤติตามบูรพระบอบ หมายถึง ประพฤติตนตามขนบธรรมเนียมระเบียบประเพณีที่กำหนด คือ ในการจะคิดหรือทำอะไรให้กับประชาชนให้เรานั้นนึกถึงขนบธรรมเนียมและประเพณีด้วยไม่ใช่ถือแต่ว่าเป็นความถูกต้องอย่างเดียว และถ้าผู้นำประเทศปฏิบัติตนตามขนบธรรมเนียมประเพณีก็จะทำให้เป็นแบบอย่างี่ดีให้กับประชาชนและจะทำให้ประชาชนยอมรับในการเป็นผู้นำประเทศที่ดีของประเทศชาติ

2.ประชาชนทั่วไป

อย่ามีปากว่าคน หมายถึง ไม่ควรนินทาหรือว่าคนอื่นทำให้ผู้ที่เรานินทานั้นได้รับความเสียหาย และสิ่งสำคัญคือ การนินทาผู้อื่นนั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว และยังทำให้ผู้ที่เรานินทานั้นยังได้รับความเสียหายจากการนินทาของเราอีกการกระทำนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีงามอย่างมากและไม่ควรกระทำไม่ว่าเราจะเป็นเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ วัยชรา ถึงแม้เราต้องการจะปลดปล่อยความโกรธ โมโหของเราที่มีต่อผู้ที่เรานินทาแต่ขอให้เราเก็บความโกรธไว้แล้วสักวันผู้ที่ทำไม่ดีต่อเราจะได้รับบทเรียนด้วยตัวของเขาเอง

3.นักการเมือง

อย่าขุดคนด้วยปาก หมายถึง ไม่ควรพูดค่อนขอดหรือกล่าวหาว่าร้ายใคร เพราะ นักการเมืองในการที่จะได้รับตำแหน่งการเมืองนั้นต้องมีการแข่งขันกันในด้าน ความรู้ ความสามารถ ผลงาน หรือต่างๆอีกมากมาย แต่อาจจะมีนักการเมืองบางกลุ่มที่คอยจะขัดขวางหรือใส่ร้ายนักการเมืองท่านอื่นๆให้ได้รับความเสียหายและจะไม่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองซึ่งเรื่องบางเรื่องนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริงหรืออาจจะเพิ่มความไม่ดีลงไปแต่ถ้าประชาชนมีวิจารณญานที่ดีการที่ถูกใส่ร้ายก็จะไม่มีผลเปรียบเหมือนพายุที่พัดผ่านไป

ด.ช.เสฏฐิภาคย์ สุทธิธนาคม

1.ผู้นำประเทศ : คนทรยศอย่าเชื่อ แปลว่า อย่าเชื่อคนทรยศ

เพราะ ผู้นำประเทศมีอำนาจในการตัดสินใจสิ่งต่างๆและ ถ้าผู้นำประเทศเชื่อคำพูด

คนทรยศคนทรยศก็จะหลอกผู้นำประเทศและทรยศต่อผู้นำประเทศและทรยศ

ประเทศชาติได้ และคนทรยศ ก็เป็นคนไม่ดีและจะไม่มีใครเชื่อคำพูดของเขา

เพราะ เขาสามารถหักหลังเราได้ทุกเมื่อ และ จะไม่มีใครยอมรับคนทรยศ

เราจึงไม่ควรเชื่อคนทรยศ

2.ประชาชนทั่วไป : ผึงผันเผื่อต่อญาติ แปลว่า ให้ช่วยเหลือญาติ

เพราะ คนส่วนใหญ่พอญาติแก่เฒ่าลงก็ไม่อยากดูแลจึงนำญาติไปทิ้งไว้ที่ต่างๆ

เช่น ที่สถานรับเลี้ยงคนชรา หรือที่อื่นๆ โดยไม่เคยคิดว่า ตอนเรายังเด็กใคร

เป็นคนทำให้เราเกิดมาได้ ใครเป็นคนเลี้ยงเราตั้งแต่เด็กจนโต ใครเป็นคน

คอยป้อนอาหารให้เรา ใครเป็นคนห่มผ้าห่มให้เราตอนนอน ใครเป็นคน

ให้เวลาทั้งชีวิตกับเรา คนเหล่านั้นคือญาติของเราเอง

3.นักการเมือง : โต้ตอบอย่าเสียคำ แปลว่า ให้ทำตามที่พูด

เพราะ นักการเมืองสมัยนี้ต้องการเป็นนายกมากจึงมีการแข่งขันสูง

เวลาหาเสียงจึงมีการทำป้ายและบอกนโยบายที่เกินจริงและพอตนเอง

เป็นนายกก็ไม่สามารถทำตามนโยบายที่บอกไว้ได้ก็ถูกกดดันและโดนว่า

ว่า ไม่ซื่อสัตว์ ขี้โกง โกหก หลอกลวง และอื่นๆอีกมากมาย เราจึงควร

ทำตามที่พูด คนอื่นจะได้รู้ว่าเราเป็นคนเชื่อถือได้

ด.ญ.ภัคจิรา บุญหงษ์

1.นักการเมือง : เป็นคนอย่าทำใหญ่

นักการเมืองเหมาะกับสุภาษิตพระร่วงที่ว่า “เป็นคนอย่าทำใหญ่” ซึ่งมีความหมายประมาณว่า อย่าอวดเบ่งอำนาจ อย่าทำเป็นใหญ่ ฯลฯ เป็นต้น เพราะนักการเมืองเป็นอาชีพมีหน้ามีตาและมีอำนาจ จึงไม่ควรไปอวดเบ่งอำนาจแก่ประชาชนหรือผู้คน รวมไปถึงการใช้อำนาจในทางผิดๆ ด้วย เพราะหากไปอวดเบ่งอำนาจ จากมีคนเคารพเชื่อถือ ชื่นชอบ ไว้ใจ จะกลายเป็นเกลียดชังและไม่ได้รับความไว้ใจจากประชาชน

2.ประชาชน : อย่าประกอบกิจเป็นพาล

ประชาชน เหมาะกับสุภาษิตพระร่วงที่ว่า “อย่าประกอบกิจเป็นพาล” ซึ่งมีความหมายประมาณว่า อย่าทำอาชีพที่ไม่สุจริตหรือทุจริต เพราะประชาชนควรมีอาชีพที่ดี มั่นคงแต่ถูกต้องต่อกฎหมาย หากประชาชนต่างประกอบอาชีพที่ไม่สุจริต ประเทศชาติก็จะล่มจม ซึ่งในทุกวันนี้ประชาชนทำอาชีพไม่สุจริตเยอะมาก เช่น รับจ้างฆ่า ค้ายาบ้า ยาไอซ์ ค้าประเวณี ฯลฯ ซึ่งอาชีพไม่สุจริตเหล่านี้ล้วนแต่นำพาประเทศให้จมดิ่งลงสู่ความหายนะ

3.ผู้นำประเทศ : โอบอ้อมเอาใจคน

ผู้นำประเทศ เหมาะกับสุภาษิตพระร่วงที่ว่า “โอบอ้อมเอาใจคน” ซึ่งมีความหมายว่า ให้รู้จักเอาอกเอาใจคน เพราะผู้นำประเทศควรรู้จักเอาอกเอาใจคน และเป็นมิตรกับผู้อื่น หากผู้นำประเทศไม่รู้จักโอบอ้อมเอาใจคน หรือไม่รู้จักเป็นมิตร พูดจาเอาใจประชาชน ประชาชนก็จะไม่ยอมรับผู้นำประเทศ และผู้นำประเทศอาจไม่ได้รับการยอมรับและโดนไล่ออกในที่สุด

1.ผู้นำประเทศ

ผู้นำประเทศเหมาะกับสุภาษิตพระร่วงที่ว่า “ได้ส่วนอย่ามักมาก” ซึ่งมีความหมายว่า เราควรพอใจในสิ่งที่ตนเองได้รับ เช่น เมื่อผู้นำประเทศได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าที่มีอำนาจมากที่สุดในสังกัด และมีความต้องการที่จะเป็นคนที่มีอำนาจมากขึ้นกว่าเดิม โดยพยายามในทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นในด้านบวกหรือด้านลบ โดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา และเมื่อยังไม่ประสบผลสำเร็จ อาจจะติดคุกได้ เพราะทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ผลที่จะเกิดตามมาก็คือ ประเทศชาติ สังคม ครอบครัว จนถึงแม้กระทั่งคนรอบข้างอาจจะได้รับความเสียหายได้

2.ประชาชนทั่วไป

ประชาชนทั่วไปเหมาะกับสุภาษิตพระร่วงที่ว่า “อย่ายลเยี่ยงถ้วยแตกมิติด จงยลเยี่ยงสัมฤทธิ์แตกมิเสีย” ซึ่งมีความหมายเปรียบเทียบกับถ้วยกระเบื้อง ที่เมื่อตกแล้วจะแตก แต่ถ้วยสัมฤทธิ์ที่ทำมาจากโลหะ ที่เมื่อตกแล้วแตกก็สามารถนำมาหลอมใหม่ได้ เปรียบได้กับการคบเพื่อนและมิตร ให้เราทำตัวเหมือนถ้วยสัมฤทธิ์ที่แม้อาจจะทะเลาะกันบ้างแต่ไม่ได้ตัดขาดกัน ให้สามารถกลับมาคืนดีกันได้

3.นักการเมือง

นักการเมืองเหมาะกับสุภาษิตพระร่วงที่ว่า “โทษตนผิดรำพึง อย่าคะนึงถึงโทษท่าน”ซึ่งมีความหมายว่า ความผิดของตนอย่าไปโทษคนอื่น เช่น เมื่อนัการเมืองกระทำความผิดเราควรจะโทษตนเอง ก่อนที่จะไปโทษคนอื่น เพราะถ้านัการเมืองกระทำความผิดแล้วเขามัวแต่โทษคนอื่น แต่ไม่เคยคิดที่จะโทษตนเอง คนอื่นอาจจะต้องโดนทำโทษตามกฎหมาย โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย และต้องมีสักวันหนึ่งที่ความจริงจะต้องถูกเปิดเผยนักการเมืองอาจจะต้องได้รับโทษมากกว่าเดิมอย่างแน่นนอน

ด.ญ.ณัฐชยา ยิ้มถนอม

1. ผู้นำประเทศ

''ผิดอย่าเอาเอาแต่ชอบ'' หมายความว่า ความผิดหรือสิ่งที่ไม่ดีไม่ควรพึงกระทำ ทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสมกับผู้นำประเทศ เพราะถ้าผู้นำประเทศทำผิด คนอื่นๆอาจผิดตามไปด้วยก็ได้ ดังนั้นผู้นำประเทศต้องทำแต่สิ่งที่ดี เพื่อให้คนอื่นวางใจว่า เป็นคนที่ดีที่ทำแต่สิ่งที่ถุกต้อง ทำให้ประเทศดีขึ้น ไม่ใช่แย่ลง สิ่งที่ดีควรพีงกระทำ ไม่ทำสิ่งที่ผิด ไม่ได้หมายถึงผู้นำประเทศเพียงคนเดียว แต่ผู้อื่นๆก็ต้องกระทำด้วย ถ้าทำได้ประเทศจะสงบสุขและเป็นระเบียบมากขึ้น

2. ประชาชนทั่วไป

''อย่าใฝ่สูงให้พ้นศักดิ์'' หมายความว่า ให้ประมาณตนแต่พอดี อย่าทะเยอทะยานเกินความสามารถของตัวเอง เหมาะสมกับประชาชนทั่วไป เพราะเป็นประชาชนก็ควรทำตัวให้สมกับเป็นประชาชน ไม่ทำอะไรเกินความสามารถของตนเอง ไม่ทำตัวออกนอกหน้าให้เด่นเกินไป รู้จักประมาณตนเองให้เหมาะสมกับหน้าที่ของตนเอง ไม่ทำตัวสูงกว่าตำแหน่งและความสามารถของตนเอง เพราะถ้าทำตัวสูงกว่าตำแหน่งของตน จะทำให้เกิดความไม่สม่ำเสมอในสังคม ทำให้เกิดความไม่เป็นระเบียบและการเอาเปรียบกัน

3. นักการเมือง

''โต้ตอบอย่าเสียคำ'' หมายความว่า แม้ว่าจะพูดหรือทำอะไรอะไรก็ตาม อย่าพูดอย่างทำอย่าง เพราะจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้จากการพูดอย่างทำอย่าง เช่นเกิดความไม่ไว้วางใจในตัวนักการเมืองเอง ทำให้เกิดปัญหาทางสังคมต่างๆมากมาย และการพูดอย่างทำอย่างจะทำให้เกิดความไม่เป็นระเบียบทางสังคม ทำให้สังคมเป็นสังคมที่ไม่สามารถเชื่อใจใครได้

1.ผู้นำประเทศ

อย่าริกล่าวคำคด แปลว่า ไม่ควรพูดโกหก เพราะ ถ้าผู้นำประเทศพูดโกหกประเทศนั้นจะดูไม่ดี และจะตัวอย่างที่ไม่ดีให้แก่ประชาชน

2.ประชาชนทั่วไป

เอาแต่ชอบเสียผิด อย่าประกอบกิจเป็นพาล แปลว่า ทำแต่เรื่องที่ดีอย่าทำตัวเป็นคนพาล เพราะว่า ถ้าประชาชนในประเทศนั้นๆ ทำตัวไม่ดีประเทศคงไม่สงบสุข แต่กลับกันหาทำตัวเป็นคนดีทุกคนประเทศนั้นก็จะดูดีด้วย

3.นักการเมือง

อย่าใฝ่สูงให้พ้นศักดิ์ แปลว่า ใก้ประมาณตน เพราะว่า นักการเมืองควรประมาณตนไว้บ้าง

ไม่ควร ใฝ่ให้เกินตนเอง

ด.ญ.ชินภัทร ลีนะบรรจง

1.ผู้นำประทศ

"คนทรยศอย่าเชื่อ" หมายความว่า อย่าเชื่อคำโกหก คำของคนที่ทรยศ เพราะ คนทรยศไม่สามารถมานำประเทศมาช่วยพัฒนาประเทศได้ เพราะคนที่ทรยศ ต่อประชาชน คือ ผู้ที่พูดว่าจะพัฒนาประเทศชาติให้ได้แต่พอตัวเองได้เป็นนายกแล้วก็ไม่ทำอย่างที่พูดไว้ แต่กลับมานั่งกิน นอนกิน เงินของประเทศชาติ ไม่ทำอะไรเลย ได้แต่นั่งโกงไปวัน ๆ ทำให้ประเทศชาติล่มจม ไม่มีความก้าวหน้า ดังนั้น อย่าเชื่อคนทรยศ

2.ประชาชน

“ ช้างไล่แล่นเลี่ยงหลบ” หมายความว่า หลีกเลี่ยงการมีเรื่องมีปัญหา มีเรื่อง กับผู้ที่มีอำนาจ ผู้ที่มีอำนาจ หมายความว่า ผู้ที่ มีเงิน มีชื่อเสียง มีพวกเยอะ ดังนั้น “ ช้างไล่แล่นเลี่ยงหลบ” จึงหมายความว่า ให้หลีกเลี่ยงการมีปัญหา กับผู้ที่ มีชื่อเสียง เงินทองมากมาย พอที่จะทำลายเราได้

3.นักการเมือง

“ได้ส่วนอย่ามักมาก” หมายความว่า จงพอใจในสิ่งที่ตนเองได้รับ เพราะ ถ้าเราไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองได้รับ เราก็จะกลายเป็นคนโลภ อย่างเช่น นักการเมืองถ้าไปหาเสียงเลือกตั้งแล้ว ตัวเองไม่ได้เป็นนายก ตนเองก็ไม่พอใจ จึงโน้มน้าวจิตใจ ประชาชนให้ไปประท้วง รัฐบาล ทำให้ประชาชนผิดไปด้วย ดังนั้น จงพอใจในสิ่งที่ตนเองได้รับ อย่าโลภมาก

1.ผู้นำประเทศ

อย่าใจเบาจงหนัก หมายความว่า อย่าเชื่อฟังคำพูดใครง่ายๆ ให้มีใจที่หนักแน่น

ฉันเลือกสุภาษิตนี้เพราะ บุคคลที่เป็นผู้นำประเทศไม่ควรเชื่อคำของใครง่ายๆ ผู้นำประเทศเป็นผู้ที่มีอำนาจ ทำให้มีบางคนเข้ามาทำดีด้วยและพูดจาหว่านล้อมเพื่อหวังผลประโยชน์ต่อตนเองในภายหลัง ซึ่งถ้าผู้นำประเทศหลงเชื่ออาจตัดสินใจผิด ทำให้เกิดผลกระทบต่อบ้านเมืองและประเทศชาติ ผู้นำประเทศควรที่จะมีความหนักแน่นยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง รู้จักคิดไตร่ตรองต่อคำพูดของผู้คน เพื่อจะได้บริหารประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า ไม่เกิดปัญหา

2. ประชาชนทั่วไป

อย่ามัวเมาเนืองนิตย์ คิดตรองตรึกทุกเมื่อ หมายความว่า อย่าหลงในกิเลส ให้รู้จักใช้สติ รู้จักคิดก่อนทำ

ฉันเลือกสุภาษิตนี้เพราะ หลายครั้งที่คนเราทำอะไรโดยกิเลสพาไป ทำโดยปราศจากสติ ไม่ใช้ความคิดตรึกตรองก่อนที่จะทำ ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด เกิดปัญหาหรือความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่น เราควรมีสติอยู่ทุกเมื่อ รู้ว่าเรากำลังทำอะไร และควรคิดแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ

3.นักการเมือง

โต้ตอบอย่าเสียคำ หมายความว่า จะทำอะไรก็ตามอย่าเสียคำพูด คือถ้าพูดสิ่งใดออกไปแล้วก็อย่าทิ้งคำพูดนั้นเสีย

ฉันเลือกสุภาษิตนี้เพราะ เวลาหาเสียงนักการเมืองมักจะสัญญากับประชาชนว่าจะทำสิ่งต่างๆนานาให้กับประชาชนและบอกว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่เมื่อได้รับเลือกเข้ามาในสภาแล้ว หลายคนก็ไม่ทำตามที่สัญญาไว้ แต่กลับทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองหรือพวกพ้อง ฉันคิดว่านักการเมืองควรรักษาคำพูด ไม่หลอกลวงประชาชน

ด.ญ.ญาณิศา กิตติธเนศวร

1.ผู้นำประเทศ

“ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง” แปลว่า ให้หมั่นสร้างไมตรีกับผู้อื่น

เหตุผลที่เลือกเพราะ ที่ผ่านมาความสัมพันธ์กับไทยเเละประเทศเพื่อบบ้านไม่ค่อยดีจึงอยากให้ผู้นำประเทศสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านให้ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีงามกับประเทศเพื่อนบ้านเพราะเวลามีปัญหาจะได้ไม่เกิดเรื่องใหญ่โต

2. ประชาชนทั่วไป

‘’อย่ามัวเมาเนื่องนิตย์’’ คิดตรองตรึกทุกเมื่่อ เเปลว่า อย่าหลุมหลงในกิเลศ ทำอะไรก็ต้องมีสติ

เหตุผลที่เลือกเพราะ ขณะนี้ รอบตัวเรามีสิ่งไม่ดีมากมาย จึงอยากเตือนสติประชาชนทั่วๆไปอย่าได้หลุมหลงกับสิ่งที่เป็นกิเลศเเละสิ่งที่ไม่ดีอื่นๆเพราะจะนำทางไปสู่ทางที่ผิดได้

3.นักการเมือง

‘’ได้ส่วนอย่ามักมาก’’ เเปลว่า ให้พอใจในสิ่งที่ตนเองมี อย่าโลภมาก

เหตุผลที่เลือกเพราะ ประเทศชาติมีการโกงกินกันเป็นอย่างมากในปัจจุบัน จึงอยากให้ข้อคิดนี้เเก่นักการเมืองทั้งหลายให้นำไปใช้ ประเทศชาติจะได้เจริญก้าวหน้า ประชาชนจะได้มีความสุขไม่ถูกเบียดเบียน

วชิรวิทย์ รักษาราษฎร์

1. ผู้นำประเทศ

ผู้นำประเทศเหมาะสมกับสุภาษิตพระร่วงที่ว่า “ ภักดีอย่าด่วนเคียด ” เพราะว่าผู้นำประเทศควรจะเป็นคนที่ซื่อสัตย์สุจริตโดยที่สุจริตในเรื่อง วาจา และ คำพูด รวมทั้งเรื่องการบริหารประเทศด้วย เพราะว่า ถ้าผู้นำประเทศ – บริหารประเทศ เกิดผิดคำพูด หรือเกิดการทุจริต ในการบริหารประเทศ จะทำให้ประเทศชาติเกิดการพัฒนาไปอย่างล้าช้า และ จะทำให้ประชาชนหมดความศรัทธาในผู้นำคนนั้น รวมถึงเรื่องการคิด ตริตรอง ไตร่ตรอง อย่างถี่ถ้วนในเรื่องการบริหารประเทศ และ ตัดสินใจในการดำเนินประเทศต่างๆ ควรทำอย่างถี่ถ้วน ครับ เพราะว่า ถ้าตัดสินใจทำเรื่องต่างๆไม่ดี จะทำให้ประเทศชาติเกิดการพัฒนาไปอย่างล้าช้า

2. ประชาชนทั่วไป

สุภาษิตนี้สอนให้คนเราอย่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายครับ สุภาษิตนั้น คือ “ ของแพงอย่ามักกิน ” ครับ เพราะว่า ถ้าเราใช้จ่ายอย่าง สุรุ่ยสุร่าย และ ไม่ระมัดระวัง จะทำให้เราเสียทรัพย์ไปมากมาย และ อาจไม่เหลือเงินใช้ในยามจำเป็น เพราะฉะนั้น เราจึงควรคิดไตร่ตรอง อย่างถี่ถ้วนเวลาจะใช้เงินซื้อของ หรือ ใช้อะไรสักอย่าง ควรมีสติให้มาก ก่อนการตัดสินใจใช้จ่าย อะไรสักอย่าง

และควรใช้จ่ายแต่พอประมาณ และ จำเป็น มากที่สุด

3. นักการเมือง

สุภาษิตที่เหมาะกับนักการเมือง คือ “ ขุดด้วยปาก ” สุภาษิตนี้มีความหมายว่าไม่ควรพูดค่อนขอด หรือ กล่าวหาว่าร้ายใคร เพราะว่า นักการเมืองบางคนต้องการใส่ร้ายนักการเมืองอีกคนหนึ่ง เพื่อให้ตนเองดูดี หรือ เพื่อทำให้อีกคนหนึ่งดูแย่ จึงมีการใส่ร้ายมากมาย อาจเป็น เพราะ เรื่องตำแหน่ง – สถานะทางการเมือง หรือ เพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่านักการเมืองคนนี้ ไม่ได้ดีอย่างที่คิด ฯลฯ นักการเมืองจึงควรที่จะพูด และ ให้ความแต่ความจริง ไม่ควรว่า หรือ ใส่ร้ายเพื่องให้ตนเองดูดี และ ประชาชน ก็ควรใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข่าวสารต่างๆ และ คิดให้ดีก่อนตัดสินใจเชื่อ

1. ผู้นำประเทศ: คนจนอย่าดูถูก ปลูกไมตรีทั่วชน

แปลว่า อย่าดูถูกคนจน ให้สร้างมิตรภาพกับคนทุกชนชั้น

เพราะ ผู้นำประเทศเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะเป็นผู้นำผู้นำประเทศจึงต้องมีความเป็นมิตรเข้ากันได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนรวย คนจน กษัตริย์ คนมีกินมีใช้ คนไม่มีกินมีใช้ และสามารถยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผู้ได้ทุกเมื่อ

2. ประชาชนทั่วไป: เมตตาตอบต่อมิตร

แปลว่า ให้รู้จักสงสารและช่วยเหลือเพื่อน

เพราะ ในสมัยนี้คนในสังคมไทยมักจะเห็นแก่ตัวไม่ชอบช่วยเหลือ สงสาร ผู้อื่นทำให้บางคนกลายเป็นคนไม่มีเพื่อนเพราะเห็นแก่ตัวและไม่ช่วยเหลือเพื่อนดังนั้นเราจึงควรมีความเมตตากรุณาต่อเพื่อน คนในสังคม ครู อาจารย์ ครอบครัว เพื่อนบ้านและคนอื่นๆที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา

3. นักการเมือง: ระวังระไวที่ไปมา

แปลว่า เวลาไปที่ไหนก็ให้ระมัดระวังตน

เพราะ สมัยนี้นักการเมืองมักจะถูกลอบสังหารจากผู้ที่ไม่หวังดีอาจด้วยเหตุผลเพราะไม่พอใจที่คนอื่นที่ลงสมัครที่เราชอบและเลือกเขาไม่ได้เป็นนักการเมืองหรืออาจเป็นเพราะความไม่พอใจส่วนตัวหรืออย่างอื่นดังนั้นเวลานักการเมืองจะไปที่ไหนก็ควรมีความระมัดระวังตัวเองไว้บ้าง

ผู้นำประเทศ

ได้ส่วนอย่ามักมาก

แปลว่า เราควรพอใจในสิ่งที่ตนเองมี หรือได้มา ไม่ควรโลภอยากได้เพิ่มอยากได้อีก เพราะ ถ้าผู้นำประเทศอยากได้เงินเพิ่มก็เหมือนโกงกินบ้านเมือง ทำให้ประเทศเจริญช้า และอาจทำให้ไม่เจริญก้าวหน้าต่อไปข้างหน้า เศรษฐกิจก็จะไม่ดีทำให้ประชาชนไม่พอใจ เช่น ถ้าผู้นำประเทศโลภ ประเทศเราก็จะไม่เจริญ

ประชาชนทั่วไป

คนจนอย่าดูถูก ปลูกไมตรีทั่วชน

แปลว่า ไม่ควรดูถูกคนอื่นไม่ว่าจะจน หรือ มีฐานะน้อยกว่าเรา และควรสร้างไมตรีกับคนทุกชนชั้น เพราะคนสมัยนี้มักดูถูกเหยียดหยามคนจน และแบ่งชนชั้นว่า รวย จน ตามฐานะการเงินของคนคนนั้น หรือรวมทั้งครอบครัวนั้นเลย เช่น มีผู้ชายคนหนึ่งไปดูถูกคนจน เพราะว่าเขาเห็นว่าคนจนไม่ใช้ชนชั้นเดียวกับเขา

นักการเมือง

อย่าแผ่เผื่อความผิด

แปลว่า อย่าใส่ร้ายผู้อื่น เพราะ นักการเมืองสมัยนี้ชอบพูดโกหก และ ชอบใส่ร้ายผู้อื่นเสมอ เช่น เวลาพรรคของตนเองผิดแต่ไม่ยอมรับก็เลยลไปบอกว่าพรรคที่เขาไม่ผิดว่าพรรคนี้แหละที่ผิด

สิริกาญจน์ ยอดวานิช

1.ผู้นำประเทศ:ผิจะบังบังจงลับ

หมายความว่า ทำสิ่งใดด้วยความใส่ใจ และ มุ่งมั่น

เหตุผลที่เลือก เพราะ การที่ผู้นำประเทศจะทำสิ่งใดต้องใส่ใจ และ มุ่งมั่น ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างขยันขันแข็ง เพื่อประชาชน

2.ประชาชน:อย่ามัวเมาเนืองนิตย์

หมายความว่า คิดตรึกตรองทุกเมื่อ ให้มีสติ อย่าหลงละเริงในสิ่งที่ไม่ดี จงคิดทบทวนดูให้รอบคอบเสียก่อน

เหตุผลที่เลือก เพราะ ทุกคนจำเป็นต้องมีสติในการตัดสินใจทำอะไร คิดให้รอบคอบและถี่ถ้วน ไม่หลงละเริงกับสิ่งที่ไม่ดี ระมัดระวังคำพูดของตนเอง

3.นักการเมือง:เข้าออกอย่าวางใจ

หมายความว่า ระมัดระวัง

เหตุผลที่เลือก เพราะ นักการเมืองต้องระมัดระวังการพูดหรือการกระทำ เพราะ การอยู่ในสังคมการเมืองก็อันตรายพอตัว

ด.ช. ชวิน บุยปราโมทย์

1. ผู้นำประเทศ

ความแหนให้ประหยัด

คือสิ่งที่รักและหวงแหนควรเกบรักษาไว้ให้ดี เหมือนกับประเทศไทยผู้นำควรหวงแหนและเก็บรักษาประเทศของตัวเองไว้ให้ดี อย่าให้ใครมาดูถูก หรือหมิ่นประมาทประเทศ และ ไม่ควรนำความลับที่สำคัญๆของประเทศตัวเองไปบอกกับประเทศอื่นๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

2 ประชาชน

อย่าโดยคำคนพลอด

คือไม่ควรเชื่อคำพูดที่ดูดีต่างๆของนักการเมืองหรือผู้นำบางคนเพราะอาจทำให้เราไปอยู่ในการก่อกระบวนการการทำความผิดต่างๆและเกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองและยังทำให้เราเสียประโยชน์อีกนับไม่ถ้วน เราเป็นประชาชนก็ควรที่จะรับฟังแต่ควรนำกลับมาคิดไตร่ตรองให้ดีด้วย ว่าคำพูดต่างๆที่ดูดีนั้นมันจริงเท็จแค่ไหน

3.นักการเมือง

อย่ากอปรจิตริษยา

คือนักการเมืองไม่ควรริษยาและใส่ร้ายกันเอง เพราะมันไม่ได้ทำให้ประเทศไทยดีขึ้นมาเลย สมัยนี้นักการเมืองมักจะริษยากันเองเพราะเนื่องมาจากผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น เห็นได้จากข่าวต่างๆที่มีการโยกย้ายสส.ไปยังที่ต่างๆ ถ้าจะเป็นนักการเมืองที่ดีก็ควรจะนึกถึงส่วนรวมให้มากๆ อย่านึกแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง เพราะนักการเมืองคือคัวแทนของประชาชน

นักเรียนครับ ขณะนี้เลยกำหนดการส่งงานมาแล้วนะครับ

อย่างไรก็ตาม นักเรียนสามารถส่งงานเข้ามาได้โดยตลอดนะครับ

อย่าลืมว่า การมีส่วนร่วมในการส่งงานจะเป็นการพัฒนาความสามารถในการกำกับตนเอง

ครูให้อิสระอย่างเต็มที่ แต่คุณต้องมีเข็มทิศและควบคุมเวลาให้ไปถึงเป้าหมายอย่างถูกต้องและรวดเร็วที่สุดนะครับ

ครู

เมษิณี ชีวินศิริวัฒน์

1. ผู้นำประเทศ - ความแหนให้ประหยัด หมายถึง สิ่งที่เราห่วง ให้รักษาไว้

เพราะในเมื่อห่วงและรักประเทศก็จงรักษาเอาไว้

2. ประชาชน - อย่าใจเบาจงหนัก หมายถึง อย่าเชื่อคนง่าย ให้มีความหนักแน่น

เพราะประชาชนส่วนใหญ่มักจะมองอะไรแบบฉาบฉวย ไม่มองให้ลึกลงไปและไม่ค่อยใช้เหตุผลไตร่ตรองให้ดีว่าความเป็นจริงนั้นมันใช่หรือเปล่า

3. นักการเมือง - คนจนอย่าดูถูก หมายถึง อย่าดูถูกคนจน

เพราะนักการเมืองบางคนใช้วิธีเอาเงินฟาดหัวคนจนโดยการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เขาเลือกเรา เราให้เงินเขา เนื่องจากเขาจน เขาจึงรับเงินนั้นมา

1. ผู้นำประเทศ - อย่ากริ้วโกรธเนืองนิตย์ ผิวผิดปลิดไป่ร้าง ข้างตนไร้อาวุธ เครืองสระยุทธอย่างวางจิต แปลว่า อย่าโมโหง่าย ถ้าทำความผิดอะไรไปเเล้ว จะไม่สามารถลบล้างความผิดนั่นได้เลย

2. ประชาชน - อย่าได้รับของเข้ญ เห็นงามตาอย่าปอง ของฝากท่านอย่ารับ แปลว่า อย่าไม่รับในสิ่งที่เราเห็นว่าสวยงามจากผู้อื่นเพราะเค้าอาจจะให้เพราะต้องการอะไรตอบแทน

3. นักการเมือง - เอาแต่ชอบเสียผิด อย่าประกอบกิจเป็นพาล อย่าอวดหาญแก่เพื่อน แปลว่า อย่าทำในสิ่งที่ผิด ให้ทำแต่สิ่งที่ดี ทิ้งสิ่งที่ไม่ดีไป อย่าทำตัวเกเร อย่าไม่ทำเป็นเก่งกับใคร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท