++ระวังเด็กเสียชีวิตจากการตกอาคารสูง ตึกสูง เรื่องจริง เด็กตายจริง ที่พ่อแม่คาดไม่ถึง และอาจไม่รู้มาก่อน++


ความเพ้อเรอของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพัง เป็นสาเหตุสำคัญให้เด็กเสียชีวิตจากกาตกตึกสูง

เรื่อง ระวังเด็กเสียชีวิตจากการตกอาคารสูง ตึกสูง เรื่องจริง เด็กตายจริง ที่พ่อแม่คาดไม่ถึง และอาจไม่รู้มาก่อน

          ในสภาพสังคมปัจจุบันของประเทศไทย ได้มีกลุ่มผู้คนจำนวนมาก มีวิถีชีวิตที่ต้องพักอาศัยบนตึกสูง ที่เรียกว่า คอนโด อพาร์ทเม้นท์ ตึกแถว แฟตลของทหาร ของตำรวจ แฟตล การเคหะ แฟตลราชการต่างๆ   หรือตึกสูงในลักษณะอื่นๆ เพื่อเป็นที่พักอาศัยหลับนอนทำมาหากิน อยู่กินกันเป็นครอบครับ มีพ่อแม่ลูกมีหลานๆ เรียกได้ว่าเป็นสมัยนิยม ค่านิยม หรือเป็นความจำเป็นของคนในสังคมปัจจุบันอย่างหนึ่ง                                                                                                 

           เหตุผลพฤติกรรมของการที่กลุ่มผู้คนจำนวนมาก ต้องมาพักอาศัยอยู่บนอาคารสูง คงมีเหตุผลด้วยกันหลายประการณ์ เช่น กลุ่มผู้คนที่มีเงินมีทองมาก จึงชอบมีที่พักอาศัยอยู่บนคอนโดราคาแพงๆ เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว คนที่มีรายได้ มีเงินทอง น้อยๆ อยากมีบ้านอยู่ แต่ไม่มีเงิน ซื้อบ้าน ซื้อที่ดินไม่ได้ เลยต้องไปอยู่ตามแฟตล ตามตึกเอื้ออาธร  หรือกลุ่มผู้คนที่โยกย้ายมาจากต่างจังหวัด มาอยู่ในกรุงเทพ เพื่อมาหางานทำ มาทำงาน ยังไม่มีบ้านพักอาศัยของตัวเอง เนื่ยงจากพึงเข้ามาทำงาน ไม่มีเงินซื้อบ้านซื้อที่ดินปลูกบ้าน เพราะมีราคาที่สูง คงต้องเก็บเงินหลายปี จึงต้องไป เช่าหอพัก เช่าอพาร์ทเม้นท์ พักอาศัยอยู่

               ซึ่งมีหลายๆครอบครัว ที่ได้พักอาศัยบนตึกสูง ไม่ได้อยู่เฉพาะผู้ใหญ่ แต่มีลูกๆหลานๆ มีเด็กๆพักอาศัยอยู่ด้วย เรียกได้ว่าอยู่กันเป็นครอบครัว พ่อแม่ลูก ที่มีวิถีชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป  แต่การเลี้ยงดูแลเด็กๆบนตึกสูงนั้น มีอันตรายมีความเสียงของเด็กในการเสียชีวิตที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือการตกลงมาจากตึกสูง จนทำให้เด็กๆถึงกับเสียชีวิต ซึ่งจากข้อมูลที่มาถึงมือ และติดตามจากข่าวหนังสื่อพิมพ์ ในปีๆหนึ่งของประเทศไทย ประเมินว่า มีเด็กเกิน 10 คน คือ มีเด็กเป็นสิบๆคนขึ้นไปที่ต้องมาเสียชีวิตจากการตกตึกสูง

            ในกรณีการเสียชีวิตของเด็กๆที่ตกจากตึกสูงลงไปจนทำให้เสียชีวิตนั้น มีลักษณะคลายๆกัน มีลักษณะเดิมๆ ถ้าใช้คำแรงๆ คงกล่าวได้ว่ามีลักษณะการเสียชีวิตแบบซ้ำซาก เสียแล้วเสียอีก คือ ไม่ใช่วัวหายแล้วรอบคอก แต่เป็นวัวหายแล้วยังเลี้ยงวัวเหมือนเดิม คอกไม่ต้องรอบ ลักษณะการเสียชีวิตของเด็กจากตึกสูง มีองค์ประกอบหลักๆ อยู่ด้วยกัน 3 ปัจจัยใหญ่ๆ คือ เรื่องของพฤติกรรมเด็ก เรื่องของระบบการเลี้ยงดูของครอบครับ และที่สำคัญที่สุดเลย คือ เรื่องของสภาพแวดล้อม ของที่พักอาศัยบนตึกสูง แต่ละเรื่องนั้นคงต้องขออธิบายทำความเข้าใจขยายความไล่ไปทีละข้อ

1.     คงต้องเริ่มจากระบบการเลี้ยงดูของเด็กก่อน ซึ่งเด็กยังคงเป็นเด็ก คือ มีความรู้ประสบการณ์ชีวิตน้อย ยังต้องได้รับการดูแลอบรมสอนสั่งจากพ่อแม่ จนกว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่ พ่อแม่จึงเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกๆ ลูกจะเติมโตเป็นคนดี มีความรู้มีการศึกษา มีสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ทั้งรางกายและจิตใจนั้น พ่อแม่มีส่วนสำคัญต่อชีวิตลูกๆต่อเด็กๆมาก

          การเสียชีวิตของเด็กจากตึกสูง คงต้องบอกว่าส่วนหนึ่ง คงมาจากประสบการณ์ชีวิตของพ่อและแม่ เพราะพ่อและแม่ที่เลี้ยงลูกอยู่บนอาคารสูง ตึกสูง คอนโด อพาร์ทเม้นท์ แฟตลนั้น อาจกล่าวได้ว่า ตัวคุณพ่อคุณแม่เองไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาบนอาคารสูง ไม่ได้มีวิถีชีวิตในวัยเด็กบนตึกสูง จึงไม่มีประสบการณ์ของการใช้ชีวิตบนตึกสูงโดยตรง เมื่อมาเลี้ยงดูลูกๆในตึกสูง จึงไม่มีประสบการณ์ความรู้ในการดูแลป้องกันปัจจัยเสียงจากสภาพแวดล้อมต่างๆบนตึกสูง ที่เสียงต่อการเสียชีวิตของลูกอย่างดี อย่างคนที่มีประสบการณ์ตรงมาก่อน

         และอีกปัจจัยที่สำคัญของระบบการเลี้ยงดูของผู้ปกครองที่ส่งผลทำให้เด็กเสียชีวิตบนตึกสูง คือ การเพ้อเรอของผู้ปกครอง การปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพัง ไม่มีผู้ใหญ่ค่อยดูแลอย่างใกล้ชิต เช่น ลงไปซื้อของข้างล่างตึก ออกไปข้างนอก ขณะที่ลูกหลับ แต่ที่ระหว่างที่คิดว่าลูกหลับนั้น ลูกได้ตื่นขึ้นมา เมื่อตื่นขึ้นมาไม่เห็นพ่อแม่ เด็กจึงเดินหรือคลานออกไปที่ระเบียง ไปที่หน้าต่าง เพื่อมองหาพ่อหาแม่ แล้วเกิดพลาดพลัดตกตึงลงมาทำให้เสียชีวิต หรือ เมื่อพ่อแม่หลับแล้วเด็กตื่นนอนขึ้นมาก่อน หรือระหว่างที่พ่อแม่ทำกิจกรรมในที่ลับตาไม่สามารถมองเห็นลูก ลูกจึงไปเล่นที่หน้าต่างไปเล่นที่ระเบียงแล้วพลาดพลัดตกตึกลงไปทำให้เสียชีวิต

        ซึ่งระยะเวลาที่ผู้ปกครองพ่อแม่เพ้อเรอปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังนั้น อาจเป็นเวลาเพียงสั่นๆ เพียงแค่ 5 นาที 10 นาที 15 นาที หรือแค่ครึ่งชั่วโมง ที่อาจคิดว่าเด็กหลับแล้วคงยังไม่ตื่นขึ้นมา จึงออกไปข้างนอกห้องพัก ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าลูกต้องมาเสียชีวิตจากการตกตึก แต่พ่อแม่ของลูกๆควรทราบไว้ก่อนเลยว่า แค่เพียงระยะเวลาสั่นๆจากการปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพัง ละสายตาจากลูกๆ มันสามารถทำให้ลูกสุดที่รักต้องเสียชีวิตไปได้

2.     เป็นเรื่องของพฤติกรรมของเด็ก แต่คงต้องบอกก่อนว่าการเสียชีวิตของเด็กจากตึกสูง ที่เกิดจากปัจจัยของพฤติกรรมของเด็กนั้น คิดว่าคงกล่าวโทษเด็กได้น้อยที่สุด เนื่ยงจากพฤติกรรมของเด็กคงเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความกลัว ที่ต้องอยู่ตามลำพัง ความซุกซนตามประสาเด็ก และความอยากรู้อยากเห็นทั้วๆไป ที่เป็นธรรมชาติของเด็กอยู่แล้ว

         โดยเฉพาะเด็กๆเล็กๆ เช่น ในกรณีของเด็กที่เสียชีวิตจาก ตึกสูง ที่อายุ 2 – 5 ขวบ ที่พลาดพลัดตกตึกลงไป คงเป็นเพราะ เกิดจากความซุกซน รู้เท่าไม่ถึงการณ์อยากรู้อยากเห็น แต่กรณีที่เป็นเด็กที่อายุมากกว่า 4-5 ปี ผู้ปกครอง อาจกลับเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องอีกครั้ง เพราะเกิดได้จากความไม่สนใจลูก ไม่ได้บอกสอนตักเตือนให้มีระมัดระวัง ต้องห้ามเด็กไม่ให้ไปที่จุดเสียงจุดอันตรายของที่พักบนอตึกสูง เพราะ เด็กโตแล้วสามารถบอกสอนพอได้ พฤติกรรมของเด็กต่างๆ สามารถดูแลปกป้องได้จากพ่อแม่ผู้ปกครอง ทั้งในกรณีของลูกที่ยังเล็กๆ หรือ ในกรณีของเด็กโตขึ้นมาหน่อย พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถอบรมบอกสอนให้ลูกๆ ให้มีความระมัดระวังจากจุดเสียง จุดไม่ปลอดภัยมีอันตรายของที่พักอาศัยได้แล้ว

3.     เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องของสภาพแวดล้อมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้เพื่อความสะดวกสบายต่างๆ ของผู้ที่พักอาศัยบนตึกสูงที่เสียงอันตรายต่อการเสียชีวิตของเด็ก ซึ่งเป็นเรื่องที่มีหลายๆคนวิเคาะห์มองว่าเป็นปัจจัยเสียงอันดับหนึ่ง ของการเสียชีวิตของเด็กที่พักอาศักถูกพ่อแม่เลี้ยงดูบนตึกสูง เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากมองข้าม คาดไม่ถึง ไม่คาดคิดว่าเกิดขึ้นได้  และยังมีเรื่องจริงที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ ยังมีผู้ปกครองจำนวนมากที่เลี้ยงดูแลลูกๆ บนที่พักอาศัยบนตึกสูงในปัจจุบัน ที่ลูกๆยังค่อยพบความเสียงจากการเสียชีวิตจากตึกสูงอยู่ทุกๆวัน อาจเป็นการรอค่อยวันที่เด็กพลาดพลัดตกลงมาจากที่สูงลงมาเสียชีวิตไม่วันไดวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้าก็ได้ เพราะหลายๆครอบครัวที่เลี้ยงดูลูกบนตึกสูง ยังไม่ได้มีการป้องกันแก้ไขสภาพแวดล้อมจุดเสียง จุดอันตรายจากโอกาสต่างๆของเด็กที่จะพลาดพลัดตกตึกเสียชีวิตจากที่สูงเลย 

         ซึ่งเรื่องของสภาพแวดล้อมที่เสียงต่อการเสียชีวิตของเด็ก ที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูพักอาศัยบนตึกสูงนั้น มีอยู่ด้วยกันหลายเรื่องที่เป็นจุดเสียง จุดอันตรายต่อการเสียชีวิตที่ควรป้องกันเป็นพิเศษ เช่น เรื่องของราวระเบียง ที่มีลักษณะเป็นช่องๆและมีความห่างของช่องว่างระหว่างช่องขนาดใหญ่ ที่ทำให้เด็กเล็กๆคลานรอดตกลงไปได้ เวลาที่พ่อแม่เพ้อเรอ เมื่อพ่อแม่ไม่อยู่กับลูก  หรือราวระเบียงมีความสูงไม่มากพอ กรณีนี้เกิดขึ้นกับเด็กโตขึ้นมาหน่อย คือ เด็กสามารถปีนป่ายตกตึกลงไปได้ เพราะพ่อแม่ไม่อยู่ เพ้อเรอ คลาดสายตา หรือ ราวระเบียงของตึกสูง ของหลายๆที่ มี ตู้แอร์ที่ระบายอากาศ ติดตั้งชิตอยู่ที่ราวระเบียง หรือ อาจเกิดจากพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กเอง ที่เอาวัสดุอุปกรณ์สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ไปติดตั้งชิตราวระเบียง ริมผนังที่มีหน้าต่าง เช่น โต๊ะ เก้าอี้ตู้เตียง รังเก็บของ ชั้นว่างของ ที่สามารถให้ลูกๆไปปีนป่ายแล้วพลาดพลัดตกลงไปเสียชีวิต หรือ เป็นหน้าต่างที่อยู่ติดผนังห้อง ที่เปิดออกไปเป็นนอกตึก ที่พ่อแม่ไม่ได้ปิดหรือเด็กสามารถเปิดออกได้ เมื่อเด็กไปเปิด ไปปีนป่าย ออกไปชะโงกหน้าชะโงกตัว ทำให้สามารถพลาดพลัดตกลงไปเสียชีวิต หรือ เป็นเรื่องของประตูที่เปิดออกไปเป็นระเบียง ของประตูหน้าต่างที่ติดผนังของ เพราะที่พักบนตึกสูงส่วนใหญ่เป็นประตูเลื่อน เป็นหน้าต่างที่เลื่อน ทำให้เด็กตั้ง 3-4 ขวบขึ้นไปสามารถเลื่อนเปิดออกไปได้เอง เมื่อเปิดออกไปขณะที่ไม่มีพ่อแม่ผู้ปกครองผู้ใหญ่ดูแล ขณะพ่อแม่เพ้อเรอ ทำให้เด็กพลาดพลัดตกตึกลงไปเสียชีวิตได้

        จากทั้งหมดที่ได้กล่าวมาของรูปแบบสภาพแวดล้อมที่เสียงที่อันตรายต่อการเสียชีวิตของเด็กที่พักอาศัยบนตึกสูง ถ้าให้มองสรุปวิเคราะห์ถึงปัจจัยเสียงที่สำคัญ มีอยู่แค่สองเรื่องของการเสียชีวิตของเด็กจากตึกสูงที่พบบ่อยๆ ที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ เรื่องความเพ้อเรอของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพัง การละสายตาในการดูแลลูก เพราะถ้าลูกยังเล็กๆ อายุน้อยกว่า 5 ปี พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพัง หรือละจากสายตาออกจากลูกเลย ลูกควรต้องอยู่ในสายตาตลอด หรือมีผู้ใหญ่ดูแลตลอดเวลา และอีกเรื่อง คือ เรื่องของโครงสร้างของอาคารสถานที่ สภาพแวดล้อมวัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆที่เสียงต่อการเสียชีวิตของเด็ก จากการตกตึกสูง

         เพราะ อาคารที่พัก ตึกสูง คอนโด อพาร์ทเม้นท์ แฟตล ที่ถูกสร้างมานั้น แนวคิดประโยชน์ของการใช้ของการ การก่อสร้าง คงถูกคิดไปถึงประโยชน์ของการก่อสร้าง ที่เป็นในเรื่องของผู้บริโภค ลูกค้า การตลาด เป็นส่วนใหญ่ ที่คิดถึงการต้องมีรูปแบบที่สวยงาม มีความสะดวกสบาย มีทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวิวที่สวยงาม บรรยากาศสบายที่สุด และต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ เครื่องใช้ราคาถูก

        ซึ่งการคิดออกแบบก่อสร้างตึกสูงมาคงไม่ได้คิดมากเท่าที่ควรหรือคงเป็นเรื่องรองๆ ในการก่อสร้างมาเพื่อพักอยู่อาศัยเพื่อรองรับการเลี้ยงดูแลเด็กด้วย เพราะถ้า ออกแบบสร้างคิดเพื่อการเลี้ยงดูแลเด็กๆด้วย วัสดุอุปรกณ์เครื่องใช้ โครงสร้างต่างๆควรต้องมีความปลอดภัยสำหรับเด็กๆด้วย เช่น ระเบียงมีความสูง เกิน 90 เซ็นติเมตร ที่ดีสำหรับเด็กควรมากกว่า 120 เซ็นติเมตร คณะที่ซีกราวระเบียงที่เป็นช่องๆ ควรมีความห่างน้อยกว่า 9 เซ็นติเมตร ประตูที่ออกไประเบียง ประตูหน้าต่างที่ติดผนัง ควรเป็นประตูที่เปิดยากสำหรับเด็กๆ เด็กไม่สามารถเปิดได้ หรือ ข้าวของเครื่องใช้ ทั้งที่เป็นส่วนออกแบบมาของตึกสูง อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆของที่พ่อแม่เอง ไม่ควรนำไปว่างไว้ติดชิตระเบียง และหน้าต่าง เพราะเด็กๆอาจสามารถปีนป่ายพลาดพลัดตกจากที่สูงลงไปได้

        ในสมันปัจจุบันสภาพสังคมเมืองไทยเอื้อให้กลุ่มผู้คนจำนวนมาก มีหรือต้องเข้าไปพักอาศัยอยู่บนตึกสูง และเมื่อในวันหนึ่งต้องมีลูกเด็กมาอยู่อาศัยให้เลี้ยงดูบนตึกสูงด้วย เรื่องความเสียงความปลอดภัยของลูกๆของเด็กในการพลาดพลัดตกลงมาจากตึกสูงจนทำให้เสียชีวิต เป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรประมาณ และ ควรป้องกันแก้ไขสภาพแวดล้อมที่เสียง จุดอันตรายต่างๆ ที่เอื้อต่อการเสียชีวิตจากการตกจากที่สูงของเด็กอย่างดีที่สุด ระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา เพราะคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านอาจต้องเลี้ยงดูแลลูกๆระหว่างที่พักอาศัยอยู่บนตึกสูง ต่อไปเป็นระยะเวลานาน อาจเป็นเดือนเป็นปี หรือหลายๆปี ซึ่งระหว่างที่ลูกๆของท่านพักอาศัยอยู่บนตึกสูงนั้น อาจมีวันไดวันหนึ่ง ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียใจเศร้าใจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ เพราะต้องสูญเสียคนที่ท่านรักที่สุดไป เสียลูกไปไม่กลับมา จากการพลาดพลัดตกลงไปจากตึกสูงจนทำให้ลูกเสียชีวิต

 

วาทะสอนชีวิต จาก http://www.bloggang.com

“ที่ทำดีไม่ได้ดี เพราะทำดียังไม่มากพอ (ทำดีวันละนิด ดีกว่าคิดว่าจะทำ)” “คนขยันคือคนโชคดี ความขยันจึงเป็นพรอันประเสริฐ” “คนโง่ แสวงหาพระเครื่อง ผู้ฉลาด แสวงหาพระธรรม”  “เมื่อมีคำขอโทษ ความโกรธย่อมจางเร็ว”                “ความไม่พอใจ จนเป็นคนเข็ญ พอแล้วเป็น เศรษฐีมหาศาล  จนทั้งนอก ทั้งใน ไม่ได้การ จงคิดอ่าน แก้จน เป็นคนพอ

 กลาง ธรรมชาติ

   11 ส.ค. 54

            

 

หมายเลขบันทึก: 453357เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2011 11:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม 2012 15:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท