อาลัยคุณเกียรติศักดิ์ ม่วงมิตร(หนานเกียรติ)


 

แม่หว้า [IP: 202.28.180.202]
04 พฤษภาคม 2553 14:29
#1982855

ติดตามน้องเฌวาและคุณหนานเกียรติมานานแล้ว อ่านแล้วสุขใจค่ะอยากเห็นน้องเฌวา น้องยังเรียนอยู่ทีเพลินพัฒนาหรือเปล่าค่ะ คุณหนานรู้สึกดีไหมกับรร.ทางเลือก ตอนนี้น้องผาแดงลูกชาย อายุ 1.7 ขวบ กำลังหา รร.ให้ลูกค่ะ(พื้นเพพ่อของน้องผาแดงเป็นคนลำปางค่ะ) ตอนนี้บ้านอยู่ด้านหลังมม.ศาลายาค่ะ

  
Ico48

สวัสดีครับ แม่หว้า...

ขอบคุณที่ติดตามอ่านบันทึกเกี่ยวกับเฌวานะครับ
เฌวาเพิ่งจะ ๓ ขวบเองครับ และยังไม่ได้เข้าเรียนที่เพลินพัฒนาครับ คาดว่าคงจะไม่ได้ไปเรียนยที่นั่นครับ
ตอนนี้เฌวาเข้าเรียนเตรียมอนุบาลที่กสิณธร โรงเรียนที่ต้ังอยู่หน้าบ้านครับ
คาดว่าจะให้เรียนที่นี่ไปจนจบประถมครับ
บ้านเราอยู่ไม่ห่างกันเท่าไรนะครับ
ผมอยู่หมู่บ้านเศรษฐกิจ ค่อนไปทางพุทธมลฑลสาย ๓ อยู่เยื้องกับ ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรีครับ
ยินดีที่ได้รู้จักครับ

 


 

ข้างบนคือข้อความที่เคยติดต่อกับคุณหนานเกียรติ

 

 

นับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 54...

ที่ได้ทราบข่าวว่าคุณหนานเกียรติเสียชีวิตโดยอ่านจากเว็บgotoknow  จนกระทั่งวันนี้ ก็ยังไม่เคยมีวันไหนที่ไม่ทุกข์โศกในเรื่องนี้ เลย

ทั้งที่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เป็นเพียงผู้ติดตามเรื่องราวต่างๆของคุณหนานเกียรติในบล็อกนี้เท่านั้น

  

 แม้คำถามสั้นๆ เป็นเรื่องสัพเพเหระ คุณหนานเกียรติ ยังอุตส่าห์ตอบให้ด้วยความจริงใจคุณหนานเกียรติผู้มีอุดมการณ์อันแรงกล้าทำงานจิตอาสาโดยไม่หวังผลประโยชน์อะไรให้แก่ชีวิตตัวเอง   ลงไปคลุกกับปัญหา กับชุมชน ไม่ยึดติดกับงานประจำ ไม่มีสังกัดแน่นอน  และแน่นอนว่าจะไม่มีหลักประกันใดๆ ลูกก็ยังเล็กนัก

 

        จึงเกิดคำถามว่าในยุควัตถุนิยม และสิ่งยั่วยุที่หลากหลายนี้ ผู้คนส่วนมากยึดติดอยู่กับชีวิตที่สะดวกสบาย เลือกงานที่เน้นความสบายและไม่มีความเสียสละ  คนบ้างส่วนใช้ชิวิตแบบไม่มีสาระ แล้วชีวิตหนึ่งสามารถทำหน้าที่แบบนี้ได้อย่างไร ความสุขของเขาอยู่ที่ไหน  คุณหนานเกียรติเป็นคนที่มีความพิเศษมาก และยังทำหน้าที่พ่อได้อย่างดียิ่งด้วยจิตวิญญาณ ด้วยความเต็มใจและมีความสุข  

 

          อยากให้โลกมีคนแบบนี้เพิ่มอีก และบางทีอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า กว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะหลอมรวมกันเป็นคุณหนานเกียรติมันยากขนาดไหนทำไมถึงเอาเขากลับไปง่ายๆทำร้ายหัวใจคนอย่างนี้ ทำไมถึงทำร้ายห้วใจลูกของเขาได้  แต่สิ่งที่คิด ไม่มีคำตอบ... บอกกับตัวเองว่าขอให้เชื่อว่าทุกสิ่งถูกกำหนดมาแล้ว เขาคือคนที่ถูกกำหนดมาว่า เป็นคนที่ หนึ่งคนตาย ล้านคนตื่น.. จึงจะทำใจยอมรับเหตุการณ์นี้ได้

 

          เมื่อได้อ่านหนังสือ ดาวศรัทธายังส่องแสงเบื้องบน ก็อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

ข้อความที่ อ.กวางเขียน " ... แม้ความปลาบปลื้มภูมิใจจะมีมาก แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะลดทอน บรรเทา ความทุกข์ทรมานใจของหนูแม้แต่น้อย ไม่ใช่จนกว่าหนูจะเข้าใจ แต่จนกว่าเฌวาจะเข้าใจ"

"... เฌวาจะได้รับฟังเรื่องของพ่อทุกวัน พ่อคนเดียวกับที่เคยอยู่กับเฌวามาตลอดชีวิต พ่อคนที่ทำเพื่อคนอื่นอยู่เสมอ พ่อคนที่เป็นทุกอย่างของเฌวา และของหนูด้วย"

ทั้งหมดนี้สะเทือนใจเหลือเกิน

   

          เรื่องราวของเฌวาที่เคยติดตามและอ่านมาแล้วทั้งหมดในบล็อก ได้มีอยู่ส่วนท้ายของหนังสือเล่มนี้ ทั้งที่เป็นสิ่งที่เคยอ่านมาแล้วแต่ก็ยังอ่านได้อีกไม่รู้เบื่อ ยิ่งอ่านยิ่งสงสารความกำพร้าพ่อของเฌวาตัวน้อยนี้นัก 

 

          จึงได้ลดทอนความเศร้าของตัวเอง โดยกลับไปอ่านหน้าที่ 2

 

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา

 

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

ค่อยมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นมาบ้างบางขณะ

 

         สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ คือทำบุญให้คุณหนานเกียรติเพื่อเฌวา  โทรศัพท์หาคุณเอกจตุพร เพื่อถามข่าวคราวคุณหนานเกียรติ ได้รับคำตอบที่ได้ใจมาก  และได้ส่งอีเมล์หาอ.กวาง และอ.กวางก็ตอบมาทุกครั้ง ช่างมีจิตวิญญาณเหมือนกันจริงๆทั้งอ.กวางและคุณหนานเกียรติ เห็นคุณค่าความรู้สึกของคนอื่นเสมอ

 

          สุดท้ายนี้ ขอแสดงความอาลัยคุณหนานเกียรติขอแสดงความรักแด่ อ.กวาง น้องเฌวา คุณปู่คุณย่า ที่อยู่บนดอยมูเซอ

 

ดาวศรัทธาของพวกเรายังส่องแสงอยู่เบื้องบนจะปลุกหัวใจ ปลุกคนอยู่มิวาย... 

 

 

แม่หว้า

หมายเลขบันทึก: 452205เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2011 13:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 00:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

อ่านความรู้สึกของแม่หว้าแล้วทำให้อาตมานึกถึงข้อเขียนอาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ที่ท่านเขียนถึงหนานเกียรติ เมื่ออ่านแล้วก็เกิดความประทับใจเหมือนกับอ่านข้อเขียนแม่หว้าเลย
ข้อเขียนดังกล่าวท่านเขียนแสดงความเห็นต่อผู้ที่มาร่วมอาลัยหนานเกียรติในบันทึกของท่าน ดังนี้

"ความสูญเสียหนานเกียรตินี่ น่าเสียดายหลายอย่างจริงๆครับ เขามาจาก Minority ที่น้ำเสียงของเขายากที่จะมีใครสื่อสะท้อนได้อย่างจริงใจต่อชนเผ่าได้เท่า, เขาเป็นทิด เข้าไปศึกษาอบรมและกล่อมเกลาชีวิตจิตใจตนเอง แล้วก็ออกมาทำงานสังคม พร้อมกับเป็นคนใฝ่การศึกษาจากการศึกษาสมัยใหม่ จึงเป็นผู้ที่สามารถเห็นความเชื่อมโยงและเห็นช่องว่างของวิถีสังคมแบบดั้งเดิมกับแบบสมัยใหม่ พร้อมกับจัดวางตำแหน่งแห่งหนต่างๆได้อย่างเหมาะสม พอดีๆ, ด้วยพื้นฐานเป็นคนที่มาจาก Minority group ทางวัฒนธรรม ทำให้เป็นคนเปิดกว้างต่อความแตกต่างทางสังคมวัฒนธรรม มี Human Skill และCollective Leadership ดีเยี่ยม ทั้งหมดนี้หาได้ยากมากจริงๆในหมู่คนทำงานเชิงสังคม เสียดายมากๆครับ"

รำลึกไว้เป็นความทรงจำแสนงาม : หนานเกียรติ'.. เกียรติศักดิ์ ม่วงมิตร
โดย : ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์

ที่มา...http://www.gotoknow.org/blog/civil-learning/449761

 

                                     เสียดายคนดี : หนานเกียรติ
            

               Large_loveness_landscape
               ทัศนียภาพของความรัก : รำลึกหนานเกียรติ เกียรติศักดิ์ ม่วงมิตร 
               โดยดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์

               กลิ่นของสัตบุรุษ(คนดีมีคุณธรรม)

              นะ ปุปผคันโธ ปฏิวาตเมติ
              นะ จันทนัง  ตครมัลลิกา วา
              สตญฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ
              สัพพา ทิสา สัปปุริโส ปวายติ.

             กลิ่นดอกไม้ฟุ้งทวนลมไปไม่ได้
            
กลิ่นจันทน์ กฤษณา หรือมะลิ
             ก็ฟุ้งทวนลมไปไม่ได้

             ส่วนกลิ่นของสัตบุรุษ(คนดีมีคุณธรรม)
             หอมฟุ้งไปได้ทั่วทุกทิศ

สัตบุรุษสุดดีกลิ่นศรีสม           หอมทวนลมโบกพัดสะบัดหวน
กระจายกลิ่นรินฟุ้งจรุงอวล       แสนชื่นชวนชอบจิตสนิทใจ
กลิ่นศีลธรรมนำผลให้พ้นทุกข์  หอมเป็นสุขนานเนิ่นเกินสมัย
ถึงหอมกลิ่นบุปผาสุมาลัย        เพียงชื่นใจพักครู่ไม่สู้นาน
ประพันธ์โดย : พระพิพัฒน์ปริยัตยานุกูล

ขอกราบขอบพระคุณท่านพระมหาแล เป็นอย่างสูงค่ะ

ข้อเขียนของดร.วิรัตน์ เป็นสิ่งที่หนูหาอยู่ในใจตัวเอง แต่ก็กลั่นกรองออกมาแบบนี้ไม่ได้และไม่เป็นค่ะ ท่านดร.วิรัตน์ วิเคราะห์ได้อย่างลึกซึ้งตรงใจจริงๆค่ะ

"ความสูญเสียหนานเกียรตินี่ น่าเสียดายหลายอย่างจริงๆครับ เขามาจาก Minority ที่น้ำเสียงของเขายากที่จะมีใครสื่อสะท้อนได้อย่างจริงใจต่อชนเผ่าได้เท่า, เขาเป็นทิด เข้าไปศึกษาอบรมและกล่อมเกลาชีวิตจิตใจตนเอง แล้วก็ออกมาทำงานสังคม พร้อมกับเป็นคนใฝ่การศึกษาจากการศึกษาสมัยใหม่ จึงเป็นผู้ที่สามารถเห็นความเชื่อมโยงและเห็นช่องว่างของวิถีสังคมแบบดั้งเดิมกับแบบสมัยใหม่ พร้อมกับจัดวางตำแหน่งแห่งหนต่างๆได้อย่างเหมาะสม พอดีๆ, ด้วยพื้นฐานเป็นคนที่มาจาก Minority group ทางวัฒนธรรม ทำให้เป็นคนเปิดกว้างต่อความแตกต่างทางสังคมวัฒนธรรม มี Human Skill และCollective Leadership ดีเยี่ยม ทั้งหมดนี้หาได้ยากมากจริงๆในหมู่คนทำงานเชิงสังคม เสียดายมากๆครับ"

รำลึกไว้เป็นความทรงจำแสนงาม : หนานเกียรติ'.. เกียรติศักดิ์ ม่วงมิตร

โดย : ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท