nui
นาง เสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล

“Brothers : เจ็บเกินธรรมดา” เป็นมากกว่าหนังว่าด้วยความสัมพันธ์ในครอบครัว


สงครามทำให้คนไม่เป็นคนอีกต่อไป เพราะสงครามทำให้คนฆ่าคนที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า

         

          หนังชื่อสั้นๆ “Brothers” เป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปของพี่ชาย แซม (Tobey Maguire)  กับ น้องชาย ทอมมี่ (Jack Gyllenhaal) หลังจากแซมรอดชีวิตจากสงครามในอัฟกานิสถาน

          หนังปูเรื่องให้เห็นความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างสองคนพี่น้อง แซมไปรับน้องชายออกจากคุกในวันที่ทอมมี่พ้นโทษ  ไม่นานแซมก็ถูกส่งไปรบที่อัฟกานิสถาน  วันหนึ่งครอบครัวได้รับข่าวร้ายว่าเฮลิคอปเตอร์ของแซมตกในเขตของข้าศึก เป็นที่เข้าใจว่าเขาเสียชีวิต

          ทอมมี่เข้ามาใกล้ชิดดูแลหลานสาว เล็กๆ น่ารัก ๒  คน และคุ้นเคย “เป็นพิเศษ” กับเกรซ (Natalie Portman) พี่สะใภ้

          แซมยังไม่ตาย เขาและ โจ ถูกจับเป็นเชลย

           ครึ่งแรก หนังตัดสลับไปมาระหว่างเรื่องราวในครอบครัวของแซม ทอมมี่ เกรซ และเด็กๆ สานความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นทุกวัน กับสภาพเชลยศึกของแซมและโจที่กดดัน บีบคั้นหนักขึ้นเรื่อยๆ

           วันหนึ่งกบฎอัฟกันลากเชลยทั้งสองคนออกจากที่ขัง  แซมถูกปืนจี้หัวบังคับฆ่าเพื่อน  แซมฟาดไม้ในมือใส่โจอย่างบ้าคลั่งจนเขาเสียชีวิต

           ทหารอเมริกันยึดพื้นที่คืนได้  แซมถูกส่งกลับไปหาครอบครัว  ทว่า  เขาไม่ใช่แซมคนเดิมของครอบครัวอีกต่อไป เขาเฉยชา ห่างเหินกับลูกๆ  หวาดระแวงเกรซกับทอมมี่ ความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ นำไปสู่ความรุนแรงในท้ายเรื่อง 

           แซมถูกจับกุม 

          “คนตายเท่านั้นที่เห็นจุดจบของสงคราม ผมได้เห็นจุดจบของสงครามแล้ว” 

         (Only the dead have seen the end of war. I have seen the end of war.) 

          เป็นประโยคที่แซม พูดกับเกรซ  ในตอนจบ  หลังจากที่เขาสารภาพว่า เขาเป็นคนฆ่าโจในระหว่างที่ถูกจับเป็นเชลย

         หนังจบตรงนี้  ไม่มีการคลี่คลายใดๆ ให้แก่ครอบครัวของแซม  แต่เป็นการไถ่บาป ชดใช้กรรม สำหรับแซม  ดูเหมือนเขาจะโล่งใจที่ต้องเผชิญชตากรรมแบบนี้

           ดูหนังจบแล้ว  ลุงพูดขึ้นว่า  “ไม่อยากดูหนังแบบนี้เลย  ดูแล้วเครียด”  หนังกดดันความรู้สึกคนดูนับตั้งแต่วินาทีที่แซมฟาดไม้ใส่เพื่อนจนตาย

            ฉันคิดว่าหนังต้องการเน้นที่ความสัมพันธ์ในครอบครัว  ทั้งจากชื่อเรื่อง “Brothers”  ที่ถูกแปลเป็นไทยว่า “บราเทอร์...เจ็บเกินธรรมดา”  และจากคำโปรยที่ว่า

“THERE ARE TWO SIDES TO EVERY FAMILY” 

            และหนังได้ขับเน้นให้เห็นทั้งความสัมพันธ์ที่แนบแน่น เปราะบาง และแตกหัก ในตอนจบ อันมีที่มาจากปมลึกๆ ภายใน

            แต่สำหรับคนที่ชอบค้นหาสาระจากการดูหนังอย่างฉัน ได้รับรู้ “สาร” อีกตัวจากหนัง นั่นคือ ความโหดร้ายของสงคราม อันเป็นบ่อเกิดของบาดแผลที่เป็นชนวนเหตุของเรื่องราวทั้งหมด

            สงครามทำให้คนไม่เป็นคนอีกต่อไป  เพราะสงครามทำให้คนฆ่าคนที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า 

            สงครามพรากครอบครัว พรากคนที่รัก

            สงครามเป็นความชั่วร้าย  แต่โลกนี้ก็ไม่เคยว่างเว้นสงคราม

            อดไม่ได้ที่จะหวนกลับมาคิดด้วยความห่วงใยว่า บางครั้งสงครามอาจไม่เกิดจากคนชาติอื่น  แต่เกิดจากคนใจบาปในชาติของเราเองแท้ๆ ที่จุดชนวนให้เข่นฆ่ากันเอง.

อาทิตย์ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔

 

เกี่ยวกับหนัง

สร้างปี 2009  กำกับการแสดงโดย Jim Sheridan  เขียนบทโดย David Benioff     ดารานำ ๓ คนเป็นที่รู้จักของนักดูหนัง คือ Jake Gyllenhaal ,Natalie Portman และ Tobey Magguire

Tobey Maguire  ถูกเสนอชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ในฐานะดารานำสาขาภาพยนตร์ดราม่า

 

หมายเลขบันทึก: 452006เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2011 22:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2014 15:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มาเชียร์คนดุหนัง ครั้งหน้าเล่านะครับ

  • อ่านบันทึกที่พี่Nuiเล่าเกี่ยวกับหนังแล้ว คล้ายๆมืออาชีพเขียนวิพากษ์หนังในสื่อต่างๆเลย 
  • สนิมเกิดแต่เนื้อในตนนะครับ เหตุการณ์บ้านเมืองดำเนินมาจนถึงวันนี้ได้ แบ่งเป็นกลุ่ม เป็นฝ่าย เพิ่งเห็นจริงๆจังก็ในสมัยนี้ แถมไม่มีวี่แววจะดีขึ้น หรือเบาบางลงเสียด้วย ก็มาจากคนใจบาปในชาติเราเหมือนกันนะครับ..นักการเมืองกับสื่อต่างๆสำคัญนัก 
  • ขอบคุณประสบการณ์ดีๆนี้ครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท