KMay
นางสาว สุเมษา จำรูญศิริ

เรือพระจันทร์


เมื่อแสงใสเริ่มส่องที่ขอบฟ้า เจ้าชายเอาข้าวมาแบ่งเด็กๆ คนละปั้น แจกหางดาวมาเป็นก้านคนละอัน ก่อนยื่นข้าวไปผิงตะวันให้หอมกรุ่น


 กาลครั้งหนึ่ง ไม่นานมานี้
เด็กหญิงอ้วนพลี ชื่อว่าสายไหม
ถูกพ่อและแม่ ที่งานยุ่งมากมาย
ให้เธอนั้นไป อยู่บ้านยายตา
 จากเมืองกรุงแสนยิ่งใหญ่
มีตึกสูง มีเครื่องใช้ สบายหนักหนา
มีรถเยอะ มีเกมเล่น มีห้างเดินเย็นอุรา
ต้องไปอยู่บ้านยายตาที่ไม่มีอะไร
 มีแต่น้ำ มีแต่เขา มีแต่ป่า
มีแต่ทุ่งนา ไม่ว่าจะมองไปทางไหน
ไม่มีเกมเล่น ไม่มีห้างเย็น ไม่มีอะไร
จะสนุกตรงไหน เด็กหญิงสายไหม ไม่รู้เลย
 ค่ำมาบ้านยายตามืดสนิท
ไม่สว่างดั่งเนรมิตเหมือนกรุงใหญ่
ไม่มีทีวีดู จะให้สายไหมทำอะไร
ได้แต่นอนร้องไห้ คิดถึงทีวี
 ตายายสงสารหลาน
คงเหงาคิดถึงบ้านถึงได้ร้องไห้อย่างนี้
ไม่รู้ว่าหลานอยากดูทีวี
จึงพาหลานคนดี ไปนอนนอกระเบียง
 ฟังซิ สายไหม
ต้นไผ่ และแมลงน้อยใหญ่กำลังเปล่งเสียง
ดูซิ ดาวกับพระจันทร์กำลังคู่เคียง
ลำเลียงความสุขมาให้ผู้คน
 สายไหมไม่ดู ไม่ฟัง
อะไรก็ช่าง ไม่เห็นจะสน
อยู่นี่ไม่สนุก น่าเบื่อเสียจน
อยากไปให้พ้นที่นี่เสียที
 ตายายไม่โกรธหลานน้อย
ได้แต่ลูบหัวกลมค่อยๆ ด้วยรักเต็มที่
เด็กหญิงสายไหมน้ำตาไหลทันที
เธออยากให้พ่อแม่ทำอย่างนี้มาตั้งนาน
 นอนหนุนตักยายดูท้องฟ้า
มองดาว และจันทรา ฟังเสียงป่าที่ขับขาน
สัมผัสลมเย็นๆ ของห้วงรัตติกาล
แล้วตาหวานๆ ของเด็กน้อยก็ปิดลง
 ทุกกลางวันหลังจากนั้น
สายไหมหัวเราะลั่นกลางทุ่งเขียว
จับปูนา เล่นว่าว สนุกนักเชียว
ปั้นดินเหนียว เล่นกังหันฝีมือตา
 เด็กแถวนั้นหลายคนมาเล่นด้วย
ม้าก้านกล้วย ยิงปืน สนุกนักหนา
กระโดดหนังยาง ซ่อนหา สบายอุรา
สนุกกว่า เล่นเกมเป็นไหนไหน
 แล้วพอกลางคืนหลังจากนั้น
เด็กๆ พากันมาเล่นบ้านสายไหม
พ่อแม่มาชุมนุมรอบกองไฟ
คุยกันไป ที่ลานกว้างบ้านยายตา
 คืนวันหนึ่ง ดาวกระจ่างกว่าทุกวัน
เพราะแสงจันทร์เหลือเพียงเสี้ยวแสงส่องฟ้า
สายไหมนอนนอกชานกับยายตา
จ้องมองฟ้าที่สวยงาม ที่ไม่เคยเจอ
 ตาบอกว่าวันนี้มหัศจรรย์
พิเศษกว่าทุกคืนวันที่มีมาเสมอ
เรือพระจันทร์ลอยมาให้พบเจอ
สายไหมรีบนอนเถอะ แล้วจะเจอเรื่องดีๆ
 สายไหมเข้านอนอย่างงงๆ
สงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้นในคืนนี้
แต่พอหัวถึงหมอนก็หลับไปในทันที
เพราะวันนี้วิ่งเล่นมาทั้งวัน
 ก๊อก ก๊อก ก๊อก เด็กหญิงสายไหม
เสียงใครเคาะที่หน้าต่างนั่น
สายไหมเดินไปดูเร็วพลัน
ใครนะใครกัน มาเรียกฉันเสียงดัง
 เพื่อนของเธอยืนอยู่เต็มลานบ้าน
ต่างขับขานให้สายไหมลงไปข้างล่าง
วันนี้เจ้าชายพระจันทร์จะเดินทาง
มารับเราไปเที่ยวกลางทะเลดาว
 แสงจันทร์เสี้ยวขับแสงดาวกระจ่างชัด
สายลมพัดพลิ้วหมอกเป็นสายขาว
ลอยลงมาจากฟ้าที่พราวดาว
เป็นชิงช้าสีขาวจากสายลม
 เจ้าชายพระจันทร์ นั่งมาบนชิงช้า
เด็กๆ ยิ้มร่าทักอย่างสนิทสนม
กระโดดขึ้นบนชิงช้าสายลม
เหลือสายไหมยืนตากลมอยู่คนเดียว
สวัสดี เด็กหญิงสายไหม
เรามารับเด็กมีฝันทุกคนไปเที่ยว
กระโดดขึ้นมาอย่างกลมเกลียว
เราจะพาไปเที่ยวทะเลดาว
 เรือพระจันทร์จอดรอแล้วบนราวฟ้า
ขึ้นมาบนชิงช้าสายลมหมอกขาว
จะพาลอยขึ้นไปนั่งเรือพระจันทร์ ชมดวงดาว
ก่อนแวะกินข้าวเช้าผิงตะวัน
 สายไหมโดดขึ้นชิงช้า
ลอยลิ่วไปบนฟ้า ราวกับฝัน
ชิงช้าจอดนิ่งเมื่อถึงเรือพระจันทร์
แล้วเรือก็พลันล่องลอยไป
 ลอยไปบนทะเลดาว
ที่ส่องแสงพริบพราวระยิบไหว
ปลาเมฆขาวเล่นคลื่นดาวแสนสุขใจ
บ้างกระโดดมาทักทายเรือพระจันทร์
 เมื่อแสงใสเริ่มส่องที่ขอบฟ้า
เจ้าชายเอาข้าวมาแบ่งเด็กๆ คนละปั้น
แจกหางดาวมาเป็นก้านคนละอัน
ก่อนยื่นข้าวไปผิงตะวันให้หอมกรุ่น
 กินข้าวปั้นผิงตะวันอย่างอร่อย
แล้วชิงช้าสายลมก็ลอยมาอย่างช้าๆ
ใกล้เช้าแล้ว ถึงคราวต้องบอกลา
แล้ววันหน้าค่อยมาพบกัน
 เด็กๆ กล่าวอำลาทะเลดาวและเจ้าชาย
อำลาตะวันฉาย และเรือลำนั้น
ค่อยๆ ขึ้นชิงช้าสายลม ลอยห่างจากเรือพระจันทร์
ก่อนที่แสงตะวันจะปิดประตูฝันลงไป
 เด็กหญิงตัวน้อย
ค่อยๆ ลืมตา สวัสดีวันใหม่
ถามตัวเองว่าเรื่องจริงหรือฝันไป
ที่ตัวเองได้ไปล่องเรือพระจันทร์
 รีบวิ่งไปหาตายาย
เล่าเรื่องที่เจอมากมายที่เจอนั้น
ตายายยิ้มกริ่ม ไม่บอกว่าเพียงฝัน
แต่เรื่องราวของเรือพระจันทร์
ก็เป็นความทรงจำของเด็กมีฝัน แห่งหมู่บ้านเรือพระจันทร์เสมอมา.

 

หมายเลขบันทึก: 452000เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2011 22:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 20:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท