ขั้นต่อไป ทำให้ใจคนตื่น!!! ต้องขอความเมตตาจากหลวงพ่อปราโมทย์
วันที่ 6 กรกฎาคม 2554 เป็นอีกหนึ่งครั้งสำคัญ ซึ่งไม่บ่อยนัก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ท่านเมตตากับคนอีสาน ด้วยการมาเทศนาที่วัดบูรพาราม วัดอารามหลวง วัดที่หลวงปู่ดูล อตุโล พ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้สอนท่าน "ดูจิต" จำพำนักอยู่ตลอดเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปี ก่อนจะละสังขารไปในปี 2526
วันนั้นผมกับเพื่อนกลุ่มผู้สอนวิชา "มนุษย์กับการเรียนรู้" ออกเดินทางด้วยรถตู้รวม 9 คน จากมหาสารคาม เวลา 15:40 มาถึงวัดบูรประมาณ 18:30 ก่อนที่ท่านจะเริ่มเทศน์ 30 นาที จริงๆ แล้วกลุ่มเราก็คือกลุ่มที่กำลังนำ "จิตตปัญญาศึกษา" มาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอน โดยส่วนตัวผมเองนั้น ปฏิบัติธรรมตามแนวทางที่หลวงพ่อปราโมทย์สอนมาก่อนที่จะมาศึกษาจิตตปัญญา บอกตรงๆ ครับ ว่า ผมก็กำลังทดลองค้นหาอยู่เหมือนกันว่า "จิตตปัญญาศึกษา" มีอะไรบ้างที่ขัดแย้งและไม่ขัดแย้งกับ "พุทธธรรม" ที่ผมมีศรัทธาอยู่แล้วอย่างเต็มเปี่ยม
หลวงพ่อเทศน์เน้นเรื่องการดูจิตล้วนๆ ตั้งแต่ดูจิตอย่างไรให้ "ตื่น" รู้สึกตัว ดูจิตอย่างไรได้ศีล ดูจิตอย่างไรได้สมาธิ ดูจิตอย่างไรได้ปัญญา ได้วิมุตติ ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติจนถึงนิพพาน ผู้สนใจสามารถฟังได้ mp3 ได้ที่นี่
ด้วยความเชื่อมั่นในแนวทางของท่าน และมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนผู้คน(โดยเฉพาะลูกศิษย์)จากภายใน หลังจากที่การเทศนาจบลง ผมจึงคลานเข้าไปกราบเรียนถามท่านว่า "หลวงพ่อครับ หากจะกราบนิมนต์ท่าน เมตตาไปเทศนาที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จะพอเป็นไปได้ไหมครับ" หลวงพ่อตอบทันที "ได้ซิ นิมนต์หลวงพ่อไม่ต้องเสียเงิน" ตอนนั้นสิ่งที่หลวงพ่อสอนให้รู้สึกตัวนั้นผมลืมสนิทแล้ว รู้สึกตัวอีกทีว่าตื้นตันในใจแค่ไหนก็ผ่านไปนานพอควร ท่านให้คุยกับพระอาจารย์สมชายที่มากับท่านในวันนั้น
พระอาจารย์ให้ผมเลือก ระหว่างวันที่ 23 และ 30 พฤศจิกายน 2554 ผมเลือกเป็นวันที่ 30 พออาทิตย์ถัดมา พระอาจารย์โทรศัพท์มาหาผมอีกครั้งผมก็ได้ยืนยันไปอีกครั้งว่า เราจะกราบนิมนต์หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช มาที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554
วันที่เราทำโครงการคุณธรรมความดี ผมเรียนท่านผู้อำนวยการสำนักศึกษาทั่วไป ท่านตอบทันทีเช่นกันว่า "ได้เลยครับ ดำเนินการได้เลย" นอกจากนั้นท่านยังขอบคุณผมด้วยที่จะทำโครงการดีๆ อย่างนี้ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกถึงความปีติ ความสุข ก้าวเข้าไปสู่เป้าอุดมการณ์ของเราอีกก้าวหนึ่ง
สุดท้ายนี้ ขอยืนยันว่า สิ่งไม่คาดหมายในชีวิตนั้น เกิดกับเราได้เสมอ ถ้าเรามีความกล้า ยึดมั่นในความดี และมุ่งมั่นที่จะทำตามอุดมการณ์ในใจของเรา
ไม่คาดคิดว่าเราจะได้คุยกับหลวงพ่อในระยะใกล้ขนาดนั้น ไม่น่าเชื่อว่าท่านจะรับนิมนต์มาเทศน์โปรดคน มมส. ยอมรับว่าเคยวาดหวังไว้อย่างนี้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะรวดเร็วขนาดนี้
ไม่ได้แล้ว!! เห็นจะต้องเร่งความเพียรในใจเราให้หนัก เพื่อบูชาคุณพระพุทธเจ้าให้ทันยุคหลวงพ่อปราโมทย์ให้จงได้
ความเห็น (1)
ถ้าเป็นไปได้อยากให้นิมนต์หลวงพ่อปราโมทย์มาเทศอีกสักครั้งที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้มั๊ยค่ะ ปี 57 นี้