ภูมิปัญญาไทย : มิติใหม่ของการจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติโดยสัญชาติญาณของตนเอง เรียนรู้จากการสัมพันธ์ของธรรมชาติ วิถีธรรมชาติที่สืบทอดต่อ ๆ มา พ่อแม่สอนลูก ใน พ.ศ. 2480 เมืองอยุธยายังใช้คลองในการคมนาคม เด็กสมัยนั้นรู้จักเรือทุกชนิด เป็นการเรียนรู้ในวิถีชีวิตเรา การจัดการเรียนรู้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าผู้เรียนไม่ได้รับการปลูกฝังคุณธรรม จิตสำนึกจะต้องศึกษาการเรียนรู้ด้วยตนเอง เราอาจจะเอาองค์ความรู้ที่มีอยู่ในอยุธยามาทำอะไรได้บ้าง ประสบการณ์อะไรบ้างที่เราได้ค้นพบ อาจจะเป็นตุ๊กตาชาววัง ดูแววตาและรอยยิ้ม มีงานสร้างสรรค์อยู่ในนัน บัดนี้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปแล้วและความเป็นไทยยังคงอยู่
การศึกษาอย่ายึดตัวเลข 70:30 แต่เราสามารถผสมกลมกลืนหลักสูตรแกนกลางและหลักสูตรสถานศึกษาเข้าด้วยกันได้ การเรียนภูมิปัญญาเป็นการเรียนที่บูรณาการดีมาก เด็กจะเรียนรวมทั้งหมด เทคนิคในการจัดการเรียนการสอน หน่วยการเรียนรู้ที่ใช้ภูมิปัญญาเป็นแกน เช่น เอกลักษณืของอยุธยาเป็นอย่างไร เราสามารถสร้างออกมาอย่างไรก็ได้
การจัดการเรียนรู้ของภูมิปัญญาไทยต้องเพิ่มคุณค่าคือนำเอาฐานความคิดมาเพิ่มคุณค่า เช่น ในการแขวนปลาตะเพียนทำให้ฝุ่นจับ การไกวเปลทำให้สมองเสื่อม เราก็เอามาดัดแปลงใหม่
การสร้างจิตสำนึกในความเป็นไทย อยุธยามีชุมชนที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย มีมุสลิม มีหลายเชื้อชาติ ความหลากหลายถ้าเราได้เรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เราจะพบความเป็นหนึ่งเดียว ความรู้ไทยกำลังจะจางหายไป เราจะต้องสร้างความรับผิดชอบ สร้างจิตสำนึกของคนรุ่นใหม่ที่จะต้องสืบทอดต่อไป เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้เพราะเราไม่ได่จัดการเรียนรู้ให้เขา อะไรก็ตามที่เป็นภูมิปัญญาไทยยังเป็นอกาลิโกอยู่ เวลาที่เราดูโบราณสถานเราไม่ได้เห็นแต่อิฐเก่า แต่อดีตเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ยังโลดแล่นอยู่ อดีตทิ้งผลิดอกออกผลไว้ให้พวกเรา การจัดการเรียนรู้นอกสถานที่เป็นการเรียนรู้ที่ผิวเผินมากถ้าเราไม่ได้ปลูกฝังอะไรให้เขา