วัดที่ผมอยู่เป็นสถานที่ทำกิจกรรมของชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้ทุกสิ่ง เพราะชาวบ้านมาใช้สถานที่วัดทำกิจกรรม...ปีใหม่...ชาวบ้านมาทำบุญตักบาตร...งานบุญต่าง ๆ...การแสดง...รำวง...หมอลำเรื่อง...เท่าที่ผมฟังล้วนเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่มีศูนย์กลางอยู่เมืองเวียงจันทร์...การเล่า...ของชาวบ้านก็เป็นทำนองนั้น...เหมือนอาเสี่ย...ทางภาคใต้...ส่งลูกไปเรียนปีนัง...เพราะศูนย์กลางวัฒนธรรมในแนวคิดเขาอยู่ที่ อังกฤษ หรือ ยุโรป
ที่วัดนั้น...กำนันผู้ใหญ่บ้านตีเกราะเรียกชาวบ้านมาประชุมที่ลานวัดช่วง 1 ทุ่ม- 4 ทุ่ม ครับ การหาเสียงของ ส.ส. ก็มาใช้ลานวัด บางท่านขณะหาเสียงบนเวที ช่วง 2 - 3 ทุ่ม ก็ใช้เฮลิคอบเตอร์ บินผ่านตรงนั้นแล้วทิ้งกล่องสิ่งของเพื่อมาแจกคนฟังการพูดหาเสียงครับ ช่วงกลางวันจะมีเด็ก ๆมาเล่นที่ลานวัด มีผู้สาวส่ำน้อยด้วย
มาหาหยอกจัว...เพราะมีสามเณรน้อย ๆ ก็จึงมีเด็ก ๆมาเล่น เวลาทางวัดมีงาน...พระอาจารย์ก็เรียกบรรดา สาว ๆ
มาเป็นหลัก...เดี๋ยวพวกหนุ่ม ๆก็มาช่วยงาน...ของคู่กันครับ ฮา ๆ เอิก ๆ
ช่วงค่ำคืนในพรรษากาล...บรรดาสาว ๆจะพากันมาฝึกร้องเพลงสรภัญญะ และมีการเดินเท้ายามค่ำคืนไปทอดผ้าป่าและร้องประกวดสรภัญญะกันตามหมู่บ้านระแวกนั้นหลาย 10 หมู่บ้านครับ เวลาพวกเขาเดินทางจะมีตระเกียงเจ้าพายุหามโดยหนุ่ม ๆไปด้วยกันมีพระหนุ่ม ๆนำไป เมื่อกลับมาก็ ตี 3 ตี4 บรรดาหนุ่ม ๆที่ไปก็ตามส่งสาว ๆ ให้ถึงบ้านก่อนที่ตนเองจะกลับบ้านนอนครับ ฮา ๆ เอิก ๆ...เทียวทางบ่ทันสุดเส้นอย่าถอยหลังให้เขาเหยียบแหน่งว่าตายหน้าพุ้น...เขาสิย้องว่าหาญ...นางเอย...
ช่วงสงกรานต์ที่นี้เขาจัด 7 วัน 7 คืน พวกสามเณรโดนสาว ๆส่ำน้อย...จับดึงแขน...บางที...สบงเกือบหลุด...สนุกมาก ๆๆ เป็นประเพณีที่อนุโลม...กฎกติกาต่าง ๆครับพอเสร็จงานแล้ว พวกสามเณรก็ต้องขอศีลตามระเบียบครับ บางครั้ง...พระเณร..ชาวบ้าน...พากันไปหากิ่งไผ่ในป่า เพื่อนำมาทำเป็นไม้กวาด...ลานวัด...สะอาดทุกวัน...ทำให้วัดเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง...วัดคือห้างสรรพสินค้าดัง ๆในอดีต...และห้างในปัจจุบันมาแทนลานวัดนั้นเอง...หรือคุณมีความเห็นอย่างไร...
โปรดติดตามตอนต่อไป
ด้วยความปรารถนาดี
จาก...umiไม่มีความเห็น