ไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนเทศบาล


การศึกษากับชุมชน

คุณสุทธิ ศศิพงศ์อนันต์  สมาชิกเทศบาลนครขอนแก่น  เรียนจบวิศวะ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น  เป็นคนมีจิตอาสา  ได้อาสาเข้ามาทำโครงการ “ต้นกล้า แห่งปัญญา”  กับแผนกอนุบาลของโรงเรียนเทศบาลสังกัดนครขอนแก่นทั้ง 11 โรง มาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว  คุณสุทธิ  เป็นคนมีจิตใจมุ่งมั่นมาก  และเห็นความสำคัญของการศึกษาระดับปฐมวัย ว่าเป็นช่วงวัยที่สำคัญ เป็นรากฐานชีวิตของเด็กๆทุกคน    เธอเป็นคนหนุ่ม  ที่มีความตั้งใจดี  ศึกษาธรรมะ มีลูกเล็กๆน่ารักสองคน และเมื่อมาทำงานกับเด็กอนุบาล   เธอบอกว่า เธอได้เรียนรู้  และนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้กับลูกๆด้วย

โดยลักษณะนิสัย ที่มีความมุ่งมั่นสูง ใจร้อน  คงจะมีนิสัย”กระทิง”หน่อยๆ แบบพวกวิศวกรทั่วไป  เธอจึงเริ่มโครงการด้วยการปรับปรุงทางด้านกายภาพของสถานที่เรียนก่อน   จากห้องเรียนมืดๆมุมอับๆ  เธอของบจากสภาเทศบาลมาปรับปรุงจนได้ห้องเรียนที่สวยงาม ได้มาตรฐาน     มีประโยชน์ใช้สอยอย่างครบครัน       แล้วเธอก็ตั้งเกณฑ์   ไว้ว่า นักเรียนอนุบาลทุกโรงของเทศบาลนครขอนแก่น จะต้อง  มีบุคลิกครบคือ  อดทน  มีวินัย เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ รับผิดชอบ และกตัญญู  

แต่เนื่องจากที่เธอได้ไปศึกษาธรรมะจากหลวงพ่อคำเขียน ที่วัดป่าสุขะโตมาระยะหนึ่ง   ด้านอ่อนโยนของเธอ จึงปรากฏออกมาให้เห็นเวลาที่เธอมาทำงานในโครงการนี้   เธอบอกว่า   เธอเริ่มเข้าใจ คุณครูผู้สอน  ที่ถูกส่งมาที่แผนกอนุบาล (เพราะไม่มีใครอยากมา) เธอเปลี่ยนจากการออกคำสั้ง หรือติเตียน  การจัดการเรียนการสอนของครู  มาเป็นการให้ความเข้าใจ  ให้กำลังใจ ส่งไปเพิ่มเติมความรู้  จัดกลุ่มกรรมการตรวจเยี่ยมโรงเรียนอย่างเป็นกัลยาณมิตร ปีละสองครั้ง   ซึ่งแม่ใหญ่ ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการนี้   คณะกรรมการส่วนใหญ่ เกือบยี่สิบคน  เป็นผู้นำชุมชนต่างๆในเทศบาลนครขอนแก่น

เมื่อเทศบาลโทรศัพท์มาเชิญให้เข้าร่วมเป็นกรรมการ  แม่ใหญ่ตอบรับด้วยความเต็มใจ ด้วยเห็นว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้ใช้ประสบการณ์ที่มีกับโรงเรียนอนุบาลมายาวนาน ได้เข้าไปแต่งเติมเสริมแต่งให้กับชุมชนด้วย   ดังนั้น ในช่วงสามเดือนต่อจากนี้  แม่ใหญ่มีกำหนดการที่จะไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนทั้ง 11 โรง

และเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม  โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยมก็เป็นโรงเรียนแรกที่เรามาเยือน

เราไปอยู่ที่โรงเรียนนี้ ตั้งแต่9.00-11.00 น.  สังเกตการณ์ การจัดการเรียนการสอน  สองคาบด้วยกัน  และอยู่จนถึงเด็กทานข้าวกลางวัน  จะเห็นคุณครูค่อนข้างเกร็งกับการมาเยี่ยมของเรา  ดังนั้นการจัดกิจกรรมวันนี้ จึงไม่เป็นธรรมชาตินัก  ครึ่งชั่วโมงแรก เป็นการ สวดมนต์ กิจกรรมเข้าจังหวะ ร้องเพลง ทำโยคะ นับนิ้ว และเล่านิทาน  และจบลงด้วยการ จับคู่ กอดกันและกล่าวคำขอบคุณ  ครูนำหนึ่งคน พร้อมไมโครโฟน มีครูอีก 3 คน คอยดูแลให้เด็กประมาณ 100 คน ทำกิจกรรมให้เป็นระเบียบ  พอจบกิจกรรมนี้ เด็กทั้งหมดก็ออกไปเล่นพละกับครูพละ  ไปกระโดดตบ นับหนึ่งถึงสิบ แล้วก็กระโดดกบ   หลังจากนั้นก็ไปทานข้าว

ช่วงเด็กเล่นพละ พวกเราคณะกรรมการและคุณครูก็มาล้อมวง เพื่อแสดงความคิดเห็น   แม่ใหญ่เห็นคุณครูนั่งเครียดแล้วสงสาร  เมื่อเขาเชิญพูด จึงพยายามเลี่ยงการวิจารณ์กิจกรรม   แต่พยายามพูดให้ทุกคนตระหนักว่า  ควรให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้ให้มากๆ ครูที่มาสอนก็ขอให้ภูมิใจในตัวเองที่ได้มาเป็นคนลงรากปักฐานให้กับเด็ก  และขออนุญาตฝากไปเติมเกณฑ์บุคลิกนักเรียนปฐมวัยของเทศบาลอีกสักข้อจะได้ไหม คือให้ “คิดเป็น”ด้วย

 ก่อนจากกันแม่ใหญ่ไปกอดให้กำลังใจครูที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม เพื่อให้กำลังใจ เธอออกตัวว่า เธอเป็นครูคอมพิวเตอร์ที่ถูกสั่งให้มา  เธอไม่มั่นใจจริงๆ  แม่ใหญ่ก็บอกเธอว่า  ขอให้มีใจรักเด็ก  ขอให้ให้ความรักก่อนให้ความรู้  เรื่องต่างๆที่เป็นเนื้อหากิจกรรม เราแสวงหาเอาได้  และบอกว่าถ้าจะใช้โรงเรียนแม่ใหญ่ เป็นที่แสวงหาละก็เชิญได้ตลอดเวลา

สิ่งที่ประทับใจกับการเยี่ยมชมครั้งนี้ คือการเห็นเด็กเล็กๆอายุ สี่ห้าขวบ ทานข้าวแล้วล้างจานให้ตัวเอง ซึ่งคุณสุทธิบอกว่า ได้เริ่มให้ทุกโรงเรียนในเทศบาลนครขอนแก่น  ทำเรื่องนี้  และบอกว่าแม่ใหญ่ก็จะได้เห็นอีก จากทุกๆโรงเรียน

 

 

เขาล้างได้สะอาดจริงๆ แม้จานจะใหญ่กว่าตัวสักหน่อยก็ตาม น่ารักมาก

หมายเลขบันทึก: 451206เขียนเมื่อ 28 กรกฎาคม 2011 10:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท