การไปสู่ความสำเร็จครอบครัวของเรา คิดอ่านอย่างไร

 

เมื่อเราได้นำจุดด้อยของเรามามาเป็นไฟนำทางชีวิตมุ่งสู่ความสำเร็จ สามารถสร้างโอท็อปชีวิตดีดีได้แล้ว

 จากนั้นก็แวะเข้ามาดูการเตรียมคนทำงานของชาติเราว่าเค้าทำอย่างไรกัน  ?

ระบบการเรียนการสอนของเรา เห็นผู้ปกครองหลายคนบ่นว่า เรียนยากมาก ลูกเราไม่ใช่คนหัวดีเด่อะไร เมื่อคิดอย่างนี้คุณลูกก็คิดตามไปด้วย ความวิริยะอุตสาหะที่ควรจะเป็นก็พร่องลงไปมากมาย ส่งผลให้มีผลการสอบที่ด้อยคุณภาพไป

ผลการเรียนที่ออกมาก็ได้ในแบบน้ำๆ ในชีวิตจริงแม้ว่าการเรียนจะเข้มข้นแค่ไหนก็เป็นแค่เครื่องไม้เครื่องมือในการประกอบ การสร้างสิ่งใหม่ๆ สร้างสิ่งมหัศจรรย์เท่านั้น

การเรียนทุกวี่ทุกวันไม่ใช่ทุกสิ่ง ไม่ใช่คำตอบสำเร็จรูปว่าจะต้องประสบความสำเร็จ

การที่เราได้เห็นหลายคนประสบความสำเร็จเนื่องจากการเรียนในอาชีพที่ขาดแคลน แล้วเค้าสร้างฐานะ เค้ามีเงินมีทอง แบบนี้ไม่ใช่ของจริง

จริงๆ การทำงานในระบบของชีวิตจริงเราจะต้องได้คนที่เป็นมืออาชีพ คนที่เก่งที่สุด เป็นแพทย์ก็คือแพทย์ผู้มีพรสวรรค์ เป็นช่างก็คือช่างที่หลายคนอยากได้ เพราะหายากเหลือเกินในแผ่นดินนี้ มันไม่ใช่อย่างที่เราเห็นประกอบอาชีพกันอย่างวันนี้ที่คล้ายกับคนสำเร็จรูป สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ จบมาเป็นคนในระบบที่สร้างไว้รองรับ แบบนี้คือสังคมที่เราวางกันเอาไว้เอง

ภาพสะท้อนเรื่องราวตรงนี้ต้องดูบริษัทระดับโลกน่ะ ในแบบของบริษัทที่จะต้องพบกับความท้าทายตลอดเวลาอย่างอินเทล  แอบเปิล ฯลฯ หลักความจริงในการค้นหามืออาชีพจะปรากฏชัด เค้าเริ่มค้นหาหัวกะทิจากคนทั่วโลกเพื่อเชื้อเชิญให้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ตามที่คีเบิลได้นำเสนอไว้ จากนั้นก็นำเหล่าอัจฉริยะเหล่านี้มาขัดเกลาจนน่าพิศมัย ในบางครั้งยังไม่ทันจบการศึกษาก็ถูกดึงตัวไปร่วมงาน หรือถูกรบเร้าจากความร้อนวิชาในตนจนต้องไปทำงาน ไปสร้างผลงานชิ้นเอกของโลก นี่ก็เป็นเรื่องราวที่เป็นอยู่ในโลกใบนี้มานานนะ

เราเองก็ควรที่จะได้เข้าใจกันให้ถูกต้อง เพราะจะได้วางแผนชีวิตให้กับลูกหลานรวมทั้งแผนชีวิตของตนเพื่อให้เข้มแข็งในการดำรงชีวิตต่อไปอย่างรู้เท่าทัน