ผมมีโอกาสดีในการได้เข้าร่วมประชุม "มหกรรมสุขภาพชุมชนภาคเหนือ" ครั้งที่ 1 จัดโดยมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นส่วนหนึ่งของการเรียน ป. โท บริหารปฐมภูมิครับ มีอะไรน่าสนใจมากมายจนสรุปไม่หวาดไหว แต่ที่ประทับใจสุดๆ จนผมต้องเขียนลง blog คือ ปาถกฐาปิดงานของ ศ.ดร.นพ. กระแส ชนะวงศ์ หมอแมกไซไซ ผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก ต่อจากนี้ผมขอพิมพ์เพียง"อาจารย์กระแส" นะครับเพราะธรรมเนียมแพทย์เราเรียนคนที่เราเคารพแค่เพียงอาจารย์ (ถ้าเรียนหมอด้วยกันว่าหมออาจหมายถึงหมอรุ่นน้อง)
ท่านปาถกฐาเรื่อง "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง (leadership and motivation)"
วาทะเด็ดหลายประโยคโดยใจและทำไห้ผมมีเกิดแรงบรรดาลใจอย่างมหาศาล คงพอสรุปได้สั้นๆ ดังนี้ครับ
ความหมายของภาวะผู้นำหมายถึง "เมื่อผู้นั้นคิด พูด หรือทำสิ่งใด ก็จะมีคนอื่นอยากทำตาม และอยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น"
"ภาวะผู้นำจริงๆ แล้วสอนกันไม่ได้ตรงๆ แต่ส่งเสริมให้เกิดได้ จุดเริ่มต้นของการเป็นผู้นำคือการฟัง"
อาจารย์เล่าว่า leadership ต้องมี 3 เรื่องสำคัญ (อาจารย์พูดว่าเป็นความคิดของ Dr. Yen ไม่แน่ใจว่าเขียนตามนี้หรือปล่า)
technical know how: รู้รายละเอียดเชิงวิชาการที่จำเป็นต่องานนั้น ข้อนี้หาได้ไม่ยากเรียนได้ทั่วๆ ไป
social know how: การทำงานใดก็แล้วแต่โดยเฉพาะการทำงานกับชุมชนต้องรู้ว่าต้องคุยกับใคร ต้องสร้างเครือข่ายอย่างไร เพราะชัดเจนว่างานส่วนใหญ่เกิดไม่ได้ไม่ว่าเราจะเก่งวิชาการเพียงใด หากเราเข้าไม่ถึงผู้คน
Crusading spirit: ท่านบอกว่า ถามอาจารย์กระแสถามอาจารย์ประเวชว่า crusading แปลเป็นไทยว่าควรแปลว่าอะไร? อาจารย์ได้ความหมายว่า กัดไม่ปล่อย อดทน เสียสละ
อาจารย์สรุปว่า "รู้บางอย่างในทุกอย่าง รู้ทุกอย่างในบางอย่าง (know something in everything,know everything in something) "อาจารย์บอกว่านี่คือคุณสมบัติของผู้นำ
"ประชาชนอยากทำอะไรให้ตัวเองทั้งนั้น ถ้าเราให้ข้อคิดเห็นเขา ถ้าเขามีข้อมูลเพียงพอชี้ให้เขาเห็นว่าโครงการที่เราทำเกิดประโยชน์กับเขาอย่างไร เราอาจได้รับความร่วมมือเพราะภาวะผู้นำมีทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าที่ไหนก็มีคนอยากทำประโยชน์ให้กับบ้านเกิด"-ภาวะผู้นำที่ต้องสร้างผู้นำ
อาจารย์พูดต่อถึง Dr. Maller (ไม่แน่ใจวาเขียนอย่างนี้หรือเปล่านะครับ) การทำงานพัฒาชุมชนเหตุผลเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ อารมณ์และความรู้สึกก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อยกัน
ท่านแนะนำบันได 3 ขั้นสู่การเป็นผู้นำคือ
สุดท้ายอาจารย์ทิ้งท้าย 2 วาทะกินใจผม
"อยู่ไหนต้องปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม แต่ต้องไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนและอุดมการณ์"
"เป็นอะไรนั้นไม่สำคัญ แต่เป็นให้ดีที่สุด"
จบการปาถกาฐาได้โอกาสดีพวกเรา (นักเรียนบริหารทุกคน) ได้ถ่ายรูปร่วมกับอาจารย์ ผมเข้าไปของคุณอาจารย์
ผม "ขอบคุณนะครับอาจารย์ ปาถกฐาของอาจารย์ inspire ผมมากขอบพระคุณครับ"
อาจารย์ยื่นมือออกมาจับมือผมแล้วบอกผมว่า "ขอให้หมอทำความดีต่อไปนะครับ"
ผม list อาจารย์ไว้เป็นคนสร้างแรงบันดาลใจขอบพระคุณครับอาจารย์
Crusading spirit ทำให้มองหา social know how จึงจะสามารถใช้ technical know how
พอมาอ่านบทความของคุณหมอแล้ว
ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจเยอะเลย
ขอบคุณนะครับ บทความดีๆๆ
@แต้ crusaiding spirit เป็นเรื่องของศัทธาแบบไม่สงสัยและจะทำเพื่อสิ่งนั้นแม้จะต้องสละชีพ ถ้าเขื่อได้ขนาดนั้น
@อาจารย์ไพบูลย์ขอบคุณครับที่แวะมา
นึกว่าจะได้เห็นภาพหมู่ครับ อาจารย์โรจน์
เอาไว้โอกาสหน้าจะเอามา upload นะครับ