ความตายบนถนน

 วันขึ้นปีใหม่หรือวันสงกรานต์แต่ละปี คนไทยส่วนใหญ่จะถือเป็นโอกาสเดินทางไปรดน้ำดำหัวพร้อมขอพรจากพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือกัน บางรายก็ได้พักผ่อนหย่อนใจ พาญาติสนิทมิตรสหายร่วมเล่นน้ำกันอย่างชุ่มช่ำ

มีคนไทยอีกส่วนหนึ่งที่ตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ทำกิจกรรมที่สำคัญ แต่ไม่ได้ทำเพราะเกิดความสูญเสียขึ้นในวันดังกล่าว และความสูญเสียหนึ่งมาจากอุบัติเหตุบนท้องถนน บ้างบาดเจ็บ บางรายได้สูญเสียญาติหรือคนที่รักไปในวันนี้

ผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่า ในปีหนึ่ง ๆ มีคนทั่วโลกเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ๑.๒ ล้านคน บาดเจ็บประมาณ ๕๐ ล้านคน ข้อมูลนี้ทำให้องค์การสหประชาชาติจัดประชุมผู้บริหารจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายน ในปีที่ผ่านมา เรียกร้องให้ทุกประเทศให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการแก้ไข และตั้งเป้าหมายจะลดผู้สูญเสียลงครึ่งหนึ่งในทศวรรษหน้า หรือเมื่อสิ้นสุดปี พ.ศ. ๒๕๖๓

ปัญหานี้ประเทศไทยเราก็ประสบไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าประเทศอื่น ในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ มียอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเฉลี่ยวันละ ๓๑ คน โดยอัตราจะสูงขึ้นเป็น ๒ เท่าในวันสงกรานต์และวันขึ้นปีใหม่

รัฐบาลไทย โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ได้แสดงเจตจำนงที่จะแก้ไขปัญหานี้ ในเวทีสัมมนาอุบัติเหตุระดับชาติ ครั้งที่ ๙ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๒ ประกาศให้เรื่อง “ความปลอดภัยทางถนน” เป็นวาระแห่งชาติ

ในเรื่องเดียวกันนี้ ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาปรึกษาหารือกันในเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๒ เมื่อปลายปี ๒๕๕๒ และผู้เข้าร่วมประชุมกว่า ๒ พันคน ได้มีฉันทามติต่อข้อเสนอเชิงนโยบาย เรื่อง การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน โดยเห็นตรงกันว่าทางออกของปัญหานี้จำเป็นต้องดำเนินการทั้งการส่งเสริมกลไกการจัดการที่เข้มแข็งเพื่อให้มีความต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และที่สำคัญคือการเปิดให้ภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม โดยเห็นว่า

ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนต้องเป็นกลไกหลักในการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน

ต้องมีคณะทำงานเฉพาะกิจแบบมีส่วนร่วมทำการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เพื่อให้สามารถดูแลเยียวยาผู้ประสบภัยจากรถให้มีความสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องกำหนดนโยบาย มาตรการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง ครอบคลุมทั่วพื้นที่ทุกช่วงเวลา

ควรมีการผลักดันให้มีการเก็บภาษีรถจักรยานยนต์ตามขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี)

ต้องยกระดับมาตรฐานการออกใบอนุญาตขับรถที่มีคุณภาพโดยกำหนดให้ผู้ขอมีใบอนุญาตขับขี่ต้องผ่านหลักสูตรการอบรมแบบเข้มข้นก่อน

ต้องผลักดันการใช้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.๒๕๕๐ ให้เกิดผลทางปฎิบัติได้จริง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน

ควรบรรจุหลักสูตรความปลอดภัยทางถนนและจัดให้มีการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพในสถานศึกษาทั้งในและนอกระบบทุกระดับ

ผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ต้องจัดสถานที่และบริการฝึกปฎิบัติทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัยและมีมาตรฐาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอย่างครอบคลุมทุกอำเภอ

ต้องเร่งประกาศใช้นโยบายการปลอดแอลกอฮอล์ในกลุ่มผู้ขับรถเพื่อการพาณิชย์ และกลุ่มผู้ขับรถสาธารณะทุกประเภท และเร่งรัดกำหนดแบบ และมาตรฐานทางสัญจรและทางเท้าที่เอื้อต่อความปลอดภัย และความสะดวกของผู้ใช้ทุกกลุ่ม

ต้องเร่งผลักดันให้มีกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เอื้อให้ท้องถิ่นและภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมในการพัฒนา ควบคุม กำกับ ดูแล ระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่ หรือในระดับภูมิภาค

เหล่านี้คือทางออกที่สมาชิกสมัชชาสุขภาพแห่งชาติมีฉันทามติร่วมกัน

ข้อเสนอเชิงนโยบายนี้จะมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติในวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๓ และคณะรัฐมนตรีเพื่อมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการต่อไปแล้ว

ก็หวังว่า “ความตายบนถนน” ของประเทศไทยเราจะลดลง ซึ่งเป็นความท้าทายร่วมกันของทุกภาคส่วนที่จะหันหน้าเข้ามาร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง…

[โสภณ เปียสนิท]

"เกียรติ" เสริมส่งคงอยู่ผู้รัก"เกียรติ" 

"ศักดิ์" ศรีเบียดเบียฬร้ายให้เสื่อม"ศักดิ์"

"ม่วง" คือสีดีงามในความรัก

"มิตร" ประจักษ์แจ้งใจให้กับ "มิตร" 

 

 

[นาอินทรีย์ วิถีพอเพียง ทางรอดชาวนาไทย]

แนวหน้าอย่าง อ.เกียรติศักดิ์ ม่วงมิตร วันนี้ท่านได้พักผ่อนแล้ว ส่วนแนวหลังที่เหลืออย่างพวกเรา ยังมีลมหายใจ พร้อมที่จะช่วยสังคมผู้ด้อยโอกาส เท่าที่กำลังความสามารถและสติปัญญาจะพึงทำได้ค่ะ อาจารย์หนานเกียรติ พักผ่อนให้สบายเถิดค่ะ ...สถิตย์ทั่วแต่ชั่ว-ดี ประดับไว้ในโลกา