บริหารเวลายังไงให้บรรลุเป้าหมาย "ปลูกต้นไม้ ปฏิบัติธรรม ออกกำลังกาย ไปท่องเที่ยว และช่วยเหลือสังคมฯ"แบบไม่เครียดๆ


ทุกสิ่งไม่เที่ยงแท้แน่นอน มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

    กลับจากประชุมวิทยากรหลักสูตรพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้มีและเลื่อนวิทยฐานะในทุกตำแหน่ง ของ สคบศ.ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ วันนี้แล้ว  พอมาดูปฏิทินเวลาที่เผลอรับงานในช่วงนี้อย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนตุลาคมแล้ว จิตก็เริ่มฟุ้งปรุงแต่งวิตกกังวลอยู่เหมือนกัน  
    วันนี้เลยมานั่งบันทึกบล็อกทบทวนเป้าหมายของชีวิตที่ได้ตั้งไว้ว่าหลังเกษียณอายุราชการต้องทำอย่างต่อเนื่อง 5 เรื่องคือ "ปลูกต้นไม้  ปฏิบัติธรรม  ออกกำลังกาย  ไปท่องเที่ยว  และช่วยเหลือสังคมตามโอกาสอำนวย" 2 ปีผ่านไปก็รู้สึกภูมิใจ สบายใจ ที่ทำได้ทุกเรื่องอย่างบูรณาการ ไม่หนักไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง   
      แต่ปีนี้ทำไมออกจะหนักไปในเรื่องที่ 5 "ช่วยเหลือสังคมตามโอกาสอำนวย" ไม่รู้โอกาสอำนวยหรือใจเราอำนวยก็ไม่รู้เพราะรับงานไปแล้วเต็มๆก็ต้องไปช่วยเขา
     เริ่มตั้งแต่ 31 ก.ค.-15 ก.ย. เป็นผู้ทรงคุณวุฒิไปดูการคัดเลือกครูสอนดีของท้องถิ่นและจังหวัดในภาคใต้(รอบแรก) 14 จังหวัด จังหวัดละ 2 วัน หลังจากนั้นก็รับเป็นประธานติดตามประเมินเขตพื้นที่การศึกษาทางภาคเหนือตั้งแต่กลางกันยายน จนถึงต้นตุลาคม ระหว่างทำงานก็ต้องมีการบ้านให้คิดให้เขียนส่งให้คุรุสภา คือ เขียนประวัติครูตามที่ได้รับมอบหมาย และเขียนต้นฉบับบทความลงวารสารวิทยาจารย์ ที่เขาให้เราเป็นคอลัมน์ประจำมาร่วม 3 ปี ไปช่วย สคบศ.ก็มีการบ้านให้ช่วยทำอีก
      เผลอตัวไปแล้วก็ต้องทำ...แต่ก็ต้องเตือนตัวเองว่า อย่าเครียดเป็นอันขาดๆ เลยขอวางอุเบกขาด้วยการให้อภัยตัวเอง ปลอบตัวเองว่าเราสามารถบริหารจัดการเป้าหมายอีก 4 เรื่องให้ลงตัว อย่างสบายๆหายห่วงก่อนไปแล้วนะ 
      เริ่มจากเรื่องปลูกต้นไม้ ก่อนไปได้ดูแลบำรุง ใส่ปุ๋ย(ชีวภาพ) ต้นไม้ที่เพาะชำไว้ก็นำมาวางเพื่อบริจาคไว้จนเต็มชั้น โชคดีที่ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวัน  ไม่ต้องรดน้ำบ่อยก็หายห่วงไปเปลาะหนึ่ง  แต่ก็ฝากให้เพื่อนบ้านที่น่ารัก(คุณศักดา) ช่วยดูแลรดน้ำ เปิดสปริงเกอร์ยามที่ฝนทิ้งช่วงไว้แล้ว 
      เรื่องปฏิบัติธรรม  นับว่าโชคดีที่ได้ล็อกเวลาไว้ก่อนที่จะรับงานอื่น คือตั้งแต่พรุ่งนี้ 20-31 ก.ค. ผมก็จะไปปฏิบัติธรรมหลักสูตร 10 วัน ที่ศูนย์ธรรมธานี คลองสามวา ต่อเนื่องเป็นรอบที่ 3 ก็จะสามารถตัดขาดจากโลกภายนอกได้ช่วงนี้ เพราะไม่สามารถใช้โทรศัพท์ เครื่องมือสื่อสารใดใดได้  ใจคงไม่ฟุ้งไปไหน
      เรื่องออกกำลังกาย พรุ่งนี้ไปปฏิบัติธรรม 10 วัน ถือว่าเป็นการพักผ่อนทางจิต ร่างกายก็น่าจะเบาสบาย น่าจะทดแทนการออกกำลังกายได้  แต่หลังจากนั้น ไปอยู่ที่ใด จังหวัดใด โรงแรมใด คงไม่เป็นอุปสรรคในการออกกำลังกาย เพราะเราถือว่าเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว (ติดแล้ว) อยู่ตรงไหนก็ออกกำลังกายได้ ปฏิบัติธรรมได้
      เรื่องไปท่องเที่ยว  เมื่อวันเสาร์ที่แล้วก็พาครอบครัวไปเที่ยว ล่องเรือชมธรรมชาติ วิถีชีวิตที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม แถวฝั่งธนฯมาแล้ว เราไปเที่ยวตลาดน้ำในประเทศไทยมาเกือบทุกแห่ง ถ้าประเมินให้คะแนนตลาดน้ำอันดับ 1 แล้ว ครอบครัวเราเห็นตรงกันว่า ยกให้ตลาดน้ำคลองลัดมะยมเลย มีอะไรที่ดีมากๆ  ไม่อยากคุย แนะนำให้ไปเที่ยวกันเองก็แล้วกัน(อย่าลืมล่องเรือด้วย)  ส่วนที่ไปทำงานเกือบทุกจังหวัดทั้งเหนือใต้ของประเทศไทยช่วงนี้นั้นจะเรีอกว่าท่องเที่ยวคงไม่สมบูรณ์นัก เพราะจังหวัดเหล่านี้ล้วนเคยไปมาแล้วหลายครั้ง ไม่ได้ไปกับครอบครัวก็ยังงั้นๆแหละ ถึงอย่างไรก็พอกล้อมแกล้มเข้าเกณฑ์การไปท่องเที่ยวได้เหมือนกัน
       คิดปลอบใจให้อภัยตัวเองเสร็จสรรพแบบเข้าข้างตัวเอง ก็ลองทวนกลับอีกครั้ง เอ๊ะนี่เราจะแก่วิชาการไปหรือเปล่า เลยเอาเรื่องราวที่ดีๆมาทำให้เครียดเสียเอง  อย่ากระนั้นเลย  ปล่อยอะไรให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า  แบบสบายๆ  แต่รู้สึกตัวตลอดเวลา รู้ว่าทุกสิ่งไม่เที่ยงแท้แน่นอน  มีเกิดขึ้น  ตั้งอยู่  ดับไป เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  สาธุ  สาธุ  สาธุ...        

หมายเลขบันทึก: 449977เขียนเมื่อ 19 กรกฎาคม 2011 22:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เห็นด้วยครับ ต่อไปจำเป็นแบบนี้แน่เลยครับ

"เกียรติ" เสริมส่งคงอยู่ผู้รัก"เกียรติ" 

"ศักดิ์" ศรีเบียดเบียฬร้ายให้เสื่อม"ศักดิ์"

"ม่วง" คือสีดีงามในความรัก

"มิตร" ประจักษ์แจ้งใจให้กับ "มิตร" 



พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท