การจัดการความรู้ของท้องถิ่นในยุคไอที
ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT ) เข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งด้านคอมพิวเตอร์ และระบบสื่อสารที่มีการใช้เครือข่ายเชื่อมโยงในการทำงานต่างๆมากมาย ก่อให้เกิดการแข่งขันและการถ่ายโยง ของสารสนเทศและความรู้ต่างๆ ดังนั้นในยุคของการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและการแข่งขันที่รุนแรงการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่เนื่องจากสารสนเทศมีเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนสารสนเทศ ให้อยู่ในรูปของความรู้แทนและต้องมีการจัดการความรู้ ( Knowledge management ) เพื่อให้สามารถนำความรู้มาใช้ได้ง่าย เรียกใช้ได้ทันทีเมื่อต้องการใช้งาน
การจัดการความรู้ คืออะไร
การจัดการความรู้ ( Knownledge Mangement หรือ KM ) คือ การดึงเอาความรู้ที่กระจัดกระจายอยู่ในคน ฝังอยู่ทั่วไปในองค์กร ออกมารวบรวม และแบ่งกลุ่ม จัดเก็บให้เป็นองค์ความรู้ขององค์กร เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ต่อไป หรือคือการบริหารจัดการเพื่อให้ คน ที่ต้องการใช้ความรู้ได้รับ ความรู้ ที่ต้องการใช้ใน เวลา ที่ต้องการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการทำงานและ/หรือการจัดการความรู้ คือการจัดการความหวัง การจัดการความหวัง คือการตั้งเป้า หรือการกำหนดวิสัยทัศน์ร่วมกัน ( shared vision ) (วิจารณ์ พานิช, 2549 ) ซึ่งเราสามารถแบ่งความรู้ได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. Explicit knowledge ( ความรู้ที่ชัดแจ้ง ) คือความรู้ที่เป็นวิทยาการ หลักการ หลักวิชา ได้มาจากการเรียนที่เราเรียกว่า "ปริยัติ"เป็นเหตุเป็นผล สามารถบรรยาย หรือถอดความมาอยู่ในรูปของทฤษฎี หรือโมเดล ( model )ได้มาจากการวิเคราะห์ วิจัย เป็นความรู้ที่ผ่านการทดลอง ผ่านการพิสูจน์ มีอยู่ในสื่อต่างๆ บันทึกได้ เห็นได้ค่อนข้างชัด
2. Tacit knowledge ( ความรู้ที่ฝังลึกในคน / ความรู้โดยนัย ) คือ ความรู้ที่มีอยู่ในแต่ละบุคคล เป็นภูมิปัญญา เป็นประสบการณ์ เป็นเทคนิคเฉพาะตัว เป็นเคล็ดวิชา เป็นสิ่งที่ได้มาจาก การปฏิบัติ ( pratice ) เป็นความสามารถเฉพาะตัวอยู่ในตัวคน เป็นความรู้ที่ฝังลึก ซ่อนเร้น
ฉะนั้น การจัดการความรู้จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานใช้ความรู้ที่เป็นความรู้ในกระดาษ ( Explict knowledge ) และความรู้ในคน ( Tacit knowledge ) เพื่อให้เกิดผลงานที่มีคุณภาพสูง ( วิจารณ์ พานิช,2547 ) เป็นกระบวนการ (process ) ที่ดำเนินการร่วมกันโดยผู้ปฏิบัติงานในองค์กร หรือชุมชนหรือหน่วยย่อยของชุมชนเพื่อสร้างและใช้ความรู้ในการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ดีขึ้นกว่าดิม เพราะฉะนั้นการจัดการความรู้ คือรูปธรรมของการเคารพความรู้ในตัวคน (ประเวศ วสี )
เป้าหมายของการจัดการความรู้
การจัดการความรู้มีเป้าหมายหลักเพื่อการปรับตัว ความอยู่รอดและการเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง แบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เป็นกิจกรรมที่มีองค์ประกอบสำคัญคือกระบวนการ ( process ) ในระดับองค์กรที่มุ่งสร้างพลัง ( synergy ) ระหว่างความสามาถของมนุษย์ในการสร้างสรรค์และสร้างนวัตกรรมกับเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในกระบวนการประมวลข้อมูลและข้อสารสนเทศ ( Y. Maholtra )
ดังนั้นการจัดการความรู้ในท้องถิ่นจึงมีเป้าหมาย 3 ประการได้แก่
(1.) เพื่อ พัฒนางาน ให้มีคุณภาพและมีผลสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้น
(2.) เพื่อการพัฒนาคน คือผู้ปฏิบัติงานซึ่งหมายถึงประชาชน คนในท้องถิ่น ให้ได้ใช้ความรู้ และ ได้รับประโยชน์จากการจัดการความรู้มากที่สุด
(3.) เพื่อการพัฒนา ฐานความรู้ ของสังคม ของท้องถิ่น เป็นการเพิ่มพูนทุนความรู้หรือทุนปัญญาของสังคม ท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยทำให้สังคมและประชาชนในท้องถิ่นมีศักยภาพในการฟันฝ่าความยากลำบากหรือความเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น
การจัดการความรู้ในท้องถิ่น...ทำอย่างไร
การจัดการความรู้ในท้องถิ่นควรเริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายงานที่ต้องการทำหรือต้องการพัฒนาในชุมชนให้บรรลุผลสำเร็จในระดับภูมิใจร่วมกัน โดยการจัดสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และการสร้างความรู้ จัดให้คนในชุมชนได้มีเวทีมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกันและกัน สร้างบรรยากาศแห่งความป็นมิตร มีความรัก ความเอื้ออาทร ความไว้เนื้อเชื่อใจ ให้เกิดการแบ่งปันและเกื้อหนุน มองเห็นช่องทางที่เปิดกว้างในอนาคตของชุมชน ก่อให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นำไปสู่การกระทำและพัฒนางานร่วมกัน เรียกได้ว่า เป็นบรรยากาศเชิงสร้างสรรค์แห่งการเอาใจใส่ที่ทำให้ทุกคนพร้อมที่จะให้ ยินดีที่จะแบ่งปัน ( caring and sharing ) เพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย โดยใช้การเรียนรู้ร่วมกันตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน ( learning before ) การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างทำงาน ( learning during ) และการเรียนรู้หลังงานนั้นสำเร็จ ( learning after ) เป็นวงล้อแห่งการเรียนรู้ขับเคลื่อนให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย เน้นการทำงานร่วมกันของกลุ่มผู้ปฏิบัติงานหรือคนในชุมชนด้วยกัน เป็นการดึงความรู้ในคน(Tacit knowledge ) ออกมาใช้งานโดยผ่านการปฏิสัมพันธ์ของคนในท้องถิ่นที่หวังผลสุดท้ายคือผลสัมฤทธิ์ของงาน โดยที่ผู้จัดการความรู้คือคนในท้องถิ่นนั่นเอง เป็นการจัดการความรู้ในลักษณะทั้งสร้างและใช้ความรู้ไปด้วยกัน เพื่อการพัฒนาตน พัฒนางาน และพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้มีศักยภาพพร้อมที่จะพึ่งตนเองและแข่งขันในโลกยุคปัจจุบันได้
สรุป การจัดการความรู้เป็นการระดมความรู้ในคน ( Tacit knowledge )และความรู้ในกระดาษ ( Explicit knowledge ) ทั้งที่เป็นความรู้จากภายนอก และความรู้ของผู้ร่วมงานในท้องถิ่นเอามาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการจัดการความรู้ในท้องถิ่นเป็นรูปธรรมของการเคารพความรู้ในตัวคน ส่งเสริมให้ทุกคนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความภูมิใจ มั่นใจในตนเอง ก่อให้เกิดความร่วมมือและการมีปฏิสัมพันธ์อันดีต่อกันส่งให้เกิดผลดี 4 ประการ คือ (1) ผลสัมฤทธิ์ของงานดีขึ้น (2) ผู้ปฏิบัติซึ่งเป็นคนในท้องถิ่นมีความรู้ (มีปัญญา ) สูงขึ้นและมีความเป็นบุคคลเรียนรู้ (3) ความรู้ถูกยกระดับขึ้นและสั่งสมอยู่ในองค์กรในท้องถิ่นและ (4) องค์กรและท้องถิ่นมีความสามารถในการแข่งขันและสามารถปรับตัวเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนในยุคไอทีได้ดีขึ้นนำไปสู่การเป็นองค์กรและท้องถิ่นแห่งการเรียนรู้ โดยรัฐควรมีบทบาทในฐานะเป็นผู้สนับสนุน ผู้ส่งเสริม ผู้เอื้ออำนวยให้ท้องถิ่นมีความสามารถในการจัดการความรู้และพึ่งตนเองได้ด้วยการสนับสนุนด้านงบประมาณและเทคโนโลยีสมัยใหม่เช่นคอมพิวเตอร์มาเป็นเครื่องมือในการจัดการความรู้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
ครรชิต มาลัยวงค์. "เทคโนโลยีสารสนเทศ". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก: http://www.drkanchit.com/ict_idea/it02.pdf
____________. "แนวโน้มด้านไอซีทีที่น่าสนใจ". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.drkanchit.com/ict_idea/articles/ICTred2006.pdf 2549.
ประพนธ์ ผาสุขยืด. "การจัดการความรู้ : สู่อนาคตที่ใฝ่ฝัน". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://kmi.trf.or.th/document/KM2Future.zip
_____________. "หลักการนำทางสร้าง KM". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://kmi.trf.or.th/document/K2_9.doc
_____________. "ICT กับการจัดการความรู้". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://kmi.trf.or.th/document/K2_12.doc
_____________. "KM - ชื่อนั้นสำคัญไฉน?". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://kmi.trf.or.th/document/K2_6.doc 2547.
ยืน ภู่วรรณ. " ไอทีกับแนวโน้มโลก". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.school.net.th/library/f-snet6.htm
วิจารณ์ พานิช. " การจัดการความรู้คืออะไร ไม่ทำ ไม่รู้". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.kmi.or.th/document/KM_HA.doc
___________. " คุณภาพคือวิถีของชีวิต". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.kmi.or.th/document/Qualitylife.doc
___________. " ทศปฏิบัติสู่ความเป็นองค์กรการเรียนรู้ของหน่วยราชการ". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.kmi.or.th/document/10Action.doc
___________. " บทบาทของผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการความรู้". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.kmi.or.th/document/KF_470461.doc
___________. " KM (แนวปฏิบัติ ) วันละคำ : 128 การทำงานอย่างอิสระ". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://gotoknow.org/blog/thaikm/43266 2549.
___________. " KM (แนวปฏิบัติ ) วันละคำ : 130 การจัดการความหวัง". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://gotoknow.org/blog/thaikm/44018 2549.
สมชาย นำประเสริฐชัย. " เทคโนโลยีกับการจัดการความรู้ ". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.kmi.or.th/document/Tech_KM.pdf
สมชาย นำประเสริฐชัยและพสิษฐิ์ กาญจนสัณห์เพชร. " การจัดการความรู้ในมุมมองของไอที ". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.kmi.or.th/document/KMinITview.pdf
"กรณีศึกษาการจัดการความรู้ : Federal Highways". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.tentc.com/tentc/index.php?option=com_content&task=view&id=110&Itemid=11
" การจัดการความรู้เพื่อสังคม ". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.kmi.or.th/document/autopage/file/WedFebruary2006-15-6-57-KM_poverty.pdf 2549.
" ความรู้เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.tkc.go.th/index.aspx?pageid=1568&parent=111
"วรรคทองทฤษฎีการจัดการความรู้ ". [ ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.kmi.or.th/document/autopage/show_all.php?h=20
อ่านแล้วได้ความรู้และได้รู้เพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
ขอขอบคุณค่ะ