สะ-บาย-ดี ที่ปากเซ


เคยเพียรถามเพื่อนคนหนึ่งว่าไปทำอะไรที่ปากเซ เห็นไปบ่อยต่อบ่อย คำตอบคือ ไปเล่น รำคาญมากๆ ก็จะตอบเสียงสะบัดว่า ไปทำงาน และวันนี้ไม่รู้ว่าอะไรหมุนมาให้เราได้ไปปากเซด้วยกัน

และแล้วก็มีเหตุได้ติดสอยห้อยตามคุณเพื่อน จากคำถามที่ลอยมาทางโทรศัพท์ว่า ไปเล่นปากเซไหม?  บ๊ะ...เป็นช่วงผิดคิวหลายคิวแถมถูกอิทธิพลการเมืองเรื่องหัวใจ (ของคนอื่น) มาแพ้วพาน หวังจะหาที่หลบลี้หนีภัยการเมืองอยู่พอดี  จะให้ไปด้วยก้อมารับ

  • ไอ้คนชวนก็คงจะ งง งง ว่าเอ๊อะ มันไปจริงดิ 
  • ส่วนไอ้คนไปด้วย ก็คง งง งง ว่าเราไปกะเค้าจริงดิ

ด่านช่องเม็กในวันอาทิตย์เงียบเหงาจนน่าแปลกใจ  เราแอบค้อนในใจว่า แล้ววันเสาร์ มันจะคึกคักกว่านี้หรือเปล่า ก้อไอ้เจ้าของทริปนะดิ  แจ้งว่าจะข้ามไปปากเซตั้งแต่วันเสาร์ แต่ต้องติดอยู่กับพลพรรครักเอยที่ไม่รู้จะเป็นวาระกินข้าวร่วมกัน ทวงหนี้ หรือเลี้ยงต้อนรับ ทำให้เวลาของเราขยับ....ขยับ...ไปเป็นวันอาทิตย์แทน…งานนี้ไม่ว่ากัน ทริปมันนี่นา ให้มาด้วยก็บุญเท่าไหร่แล้ว

สาวน้อยเสื้อชสีชมพูกำลังสร้างสะพานรักกับหนุ่มไทย

ขอให้มีภาคต่อของหนังเรื่องสะบายดีหลวงพระบาง สะบายดีปากเซ

และสะบายดีวันวิวาห์ ด้วยเหอะ

 

อ้อ รวมทั้งขยับคิวจิบกาแฟยามบ่าย จากร้าน Moon Lover ที่เจ้าของร้านเป็นน้องชายเพื่อน ออกไป ออกไป โดยไม่มีกำหนด แม้เกือบจะทุ่มของวันอาทิตย์ที่เดินทางจากช่องเม็กเข้ามาที่อุบล พลขับยังหันมาถามว่า จะแวะไหม...ดีนะยังแวะให้ ถ้าไม่ปากร้าย จะได้แวะหรือเปล่านี่...ที่แวะนี่สงสัยกลัวถูกด่าตลอดทาง (ร้านกาแฟเล็กๆ แต่งร้านน่ารัก ริมน้ำมูล มีอาหารจานเดียว คอกเทล และอินเตอร์เน็ตบริการด้วย)

ที่หน้าด่านช่องเม็ก รักชาติ  เพื่อนเก่ารุ่น 6/12 SPK และภรรยาเปิดบริษัททัวร์อยู่แถวๆนี้ ชื่อ ร้าน “สวัสดีอินโดจีน”   ซึ่งทำให้เราตัดสินใจในการมาเที่ยวลาวใต้ ถูกบรรจุไว้ในแผนทันที ผาส้วม คอนพะเพ็ง รอก่อนนะ เคลียร์แค่อุปสรรคอย่างเดียวคือ การเดินทางที่ยาวนานจากขอนแก่นไปอุบลราชธานี เพราะส่วนตัวคิดว่าระยะที่น่าเบื่อหน่าย ไม่มีอะไรที่น่าสนใจให้แวะชม ช้อบ ชิม ระหว่างทางเลย ทั้งที่หากมาถึงเมืองอุบลแล้วมีที่เที่ยวอีกมากมายที่อยากไป นอกจากพระธาตุก่องข้าวน้อย๑ยโสธร อิอิ นี่ก็เรียนมาตั้งแต่เด็ก ได้แต่ผ่านไปมาไมเวลาได้แวะสักที

แล้วหนุ่มๆ พวกนี้เค้าเที่ยวแบบไหนกันนะ เรายังอยากจะไปสามพันโบก ภูจองนายอย ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาชะนะได บ่ายแก่ๆ เค้าอยากไปนั่งจิบกาแฟให้ตาตื่นพร้อมแอบมองสาวๆ ที่มาสั่งลาเต้เย็นสักชั่วโมงสองชั่วโมงบ้างรึเปล่า  รึเค้าชอบแบบนั่งคุยกันกินเหล้ากันไป อันนี้หนักไปก็ไม่สู้ไม่ไหวนะคะ  จูนกันได้แค่ครึ่งก็จะไม่มีใครงอแง อิอิ น่าจะไปกันได้ เพราะโลกของเค้าเป็นโลกใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเรา

 

 

ดอกไม้บ้านๆ ที่สวยงามริมตลิ่งหลังฝนตก

 

ปากเซยังใหม่และสดในอารมณ์ แต่ไม่แปลกหูแปลกตา นั่นเพราะว่าเรามีเวลาเพียงครึ่งวันในเมืองปากเซ หรือ เซโดน  ซึ่งเป็นเมืองโบราณได้รับวัฒนธรรมมาตั้งแต่สมัยเขมรเรื่องอำนาจ ดังจะเห็นได้จากร่องรอยวัฒนธรรมของวัดพู ที่เพื่อนผู้ชายของเราสนใจที่เช่ารถจักร หรือมอเตอร์ไซค์ขี่ลัดเลาะไป...อยากมีโอกาสแบบนั้นจัง

สะ-บาย-ดี ปากเซ วันนี้ ทำให้ได้รับรู้ความเป็นมาเป็นไปของเพื่อนบ้านที่อยู่แค่แม่น้ำโขงคั่น และแปลกใจ ที่การข้ามไปลาวไม่ว่าจะไปเวียงจันทน์ หรือ สะหวันเขต ต้องข้ามสะพานมิตรภาพไทยลาว  แต่สำหรับปากเซแห่งแขวงจำปาสักนี้ ต้องข้ามแม่น้ำโขงด้วยสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น ทำให้สับสนว่าไทยและลาวอยู่ฝั่งไหนของแม่น้ำโขงกันแน่

แม่น้ำโขงสีขุ่นหลังฝนตกหนักมา 2 วัน

รถตู้เช่าตระกูลเกาหลีที่เช่าในราคา 1,500 บาท  อาจจะต่อรองได้ตามหน้าตา แบบว่าดูรวยก็อาจได้ราคาเต็ม อิอิ พาเราออกเดินทางจากด่านไปปากเซ ด้วยถนนหมายเลข 14  ระยะทางเกือบ 45 กม. ทำให้เราหายใจช้าขึ้น ด้วยลาววันนี้ยังเป็น Slow town  ภาพคนดำนาปักกล้าแบบสบายๆ เห็นได้ทั่วไป เรื่องเล่าของคนขับรถและเรื่องอำของเพื่อนฝูงที่มาก่อน ทำให้สมองน้อยๆ ของเราจะแตกปริ อะไรจริง อะไรเท็จ

มองจากสายตาปากเซเป็นเมืองเศรษฐกิจ  บ้านช่องร้านรวงใหญ่โต ร้านกาแฟแห่งดาวเรือง ผู้ที่ถูกกล่าวขวัญว่าร่ำรวยเป็นลำดับสามของประเทศลาว จัดเสิร์ฟกาแฟและราคาในระดับโรงแรม 5 ดาวเชียว  แพอาหารขนาดใหญ่ที่เรียงรายริมน้ำโขงและริมแม่น้ำเซ แสดงให้ความต้องการตอบสนองลูกค้า

เสียดายที่ปากเซ ฝนพรำ เลยไม่ได้เดินตลาด ขนาดนั้นจากการช้อบผ่านกระจกรถตู้....ยังทำให้ร่ำร้องในใจว่า ฉ้านอยากได้กล้วยไม้

สัมพันธภาพระหว่างเพื่อนเก่า  การปรับตัวในรูปแบบการเดินทางที่ไม่คุ้นเคย การเอาอกเอาใจของเพื่อนฝูง(ป้องกันการวีนแตก) โลกธุรกิจ และความรักของหนุ่มสาว เรื่องราว 2 วันและคนมากหน้าหลายที่ผ่านเข้ามา ทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ไม่ "หัวซา" ปัญหารอบด้านที่เกิดจากคนรอบตัว แม้ปัญหาเหล่านั้นจะมาข้องแวะ สรุปสั้นๆ “ปัญหาของสู ไม่ใช่ปัญหาของตรู”

ความรัก ทำให้โลกเป็นสีชมพู อยากให้ยั่งยืนและยืนนาน ความชัดเจนคำว่าสะใภ้ และกรอบสังคม  ทำให้หลายคนเริ่มถามถึงการแต่งงาน  รัก...ยังงัยก้อรัก คนอื่นๆ เค้ารักกันมากกว่านี้ตั้งเยอะ แต่งงานวันนี้วันพรุ่งก้อได้   หากแต่ไม่รู้จักปรับเปลี่ยนและรักษาไว้    อย่าแต่งดีกว่า ดังภาษาอีสานที่ว่า มันสิยากพระ ยากเจ้า ยากผู้เฒ่า ยากหมู่ (หมู่แปลว่าเพื่อน)

โลกธุรกิจการเลี้ยงปลาในกระชัง...

 

โลกที่เดินช้า ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างช้าไปด้วย (Slow town=Slow life) นั่นไม่ได้หมายความคุณภาพชีวิตจะต่ำลง เพียงแต่หมายถึง สิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตทำให้เรามีเวลาอยู่กับตัวเอง ทบทวน คิดพิเคราะห์ในบางอย่าง  และมองธรรมชาติจากใจ ไม่หงุดหงิดกับสายฝนที่ตกแบบไม่เกรงใจนักท่องเที่ยว  ไม่รำคาญกับการนั่งรอ หรือไม่อี๊ส์เวลาเจอห้องน้ำที่ไม่ใช่  เพราะทุกอย่าง มันเป็นเช่นนั้นแล

และเป็นที่น่าแปลกใจที่ทริปนี้ไม่ค่อยได้ยกกล้องขึ้นถ่ายรูป ทั้งนี้เพราะวงสนทนาน่าสนใจกว่าเสียงชัตเตอร์

ขอบใจ๋ วันฝนพรำ วงสนทนา และระยะที่ยาวไกล ทำให้ได้เรียนรู้ผู้คนและโลกใหม่อีกหลายต่อหลายเรื่อง  

วันนี้ยังสะ-บาย-ดี ที่ปากเซ ค่ะ

หมายเลขบันทึก: 446058เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2011 21:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ผมรักลาวใต้ ณ ปากเซ ครับ ;)...

@คุณ Wasawat Deemarn

  • ยังไม่ได้รักลาวใต้เลยค่ะ แต่คิดว่าคงหลงรักได้ไม่ยาก
  • ปกติอยู่ขอนแก่น จะถนัดเวียงจันทน์ วังเวียงและหลวงพระบางมากกว่า
  • วันนี้ไปพอแค่เป็นน้ำจิ้ม...แต่แพลนเริ่มมาแล้วค่ะ อาจจะได้รบกวนขอข้อมูลนะคะ

สวัสดีค่ะพี่ตุ่น

ปากเซ ยังอยู่ในใจเสมอค่ะ

มาทบทวนความทรงจำ

สมัยเคยไปเที่ยว

  • ขอบคุณการทักมายจากน้อง POO และคุณโสภณ เปียสนิท นะคะ
  • อยากมีวันแห่งความทรงจำที่ปากเซค่ะ
  • แพลยที่ว่ามีแล้ว แต่ยังหาคนไปด้วยไม่ได้ อิอิ
ผ้ชายตัวเล็กของโลกใบโต

ไปปากเซ เพราะเซซัง นางห่างหนี

ไหนบอกพี่คือความหวังของนางเจ้า

มาบัดนี้หนีหายทั้งกายเงา

รักแสนเศร้าเราเซซัง ยังปากเซ...

กลอนพาไป หรือใจมีความหลัง

 พี่ถึงยังวอนเว้าเฝ้าคิดถึง

อยู่ในห้วงแห่งรักหวนคำนึง 

ไป่นี้จึงต้องเซซังยังปากเซ

ฟังกลอนนี้แล้ว...ต้องฟังเพลง คิดฮอดของบอดี้แสลม

หากนางห่างหายไปทาง เวียงจันทน์ ต้องฟังเพลง ตามน้องกลับสารคาม...อิอิ

 

ขอบคุณ คุณผู้ชายตัวเล็กของโลกใบโต ที่แวะเวียนมาเสมอ...

เห็นสำนวนกลอนแล้ว อดคิดถึงพี่ชายคนหนึ่งที่อยู่ชมรมไผ่เขียวไม่ได้ ซึ่งมักจะมีบทกลอนมาฝากอยู่เนืองๆ

คุณผู้ชายตัวเล็กของโลกใบโต สบายดีนะคะ

ผู้ชายตัวเล็กของโลกใบโต

...กายสบายแต่กายนี้มีรุ่มร้อน

แม้นนั่งนอนห้องแอร์เย็นมิเย็นได้

เหงื่อกาฬใจไหลล้นท้นท่วมกาย

อยากให้เป็นทุกข์สลายจากใจจัง...

กายร้อน ใจร้อน ไม่ผ่อนคลาย

ดูสบายแต่ไม่เสบยเลยฟุ้งซ่าน

หยุดและทิ้ง ไม่หวนคิด จิตสำราญ

สุดเบิกบานทุกข์สลายจากใจเอย

พึ่งได้เวลามาตามอ่าน blog ของพี่ตุ่น นานมากแล้วที่ห่างหายไปค่ะ

ลำนำปากเซ : ผู้ชายตัวเล็กในโลกใบโต- สิริพร ทิวะสิงห์ tuk-a-toon

ไปปากเซ เพราะเซซัง นางห่างหนี

ไหนบอกพี่คือความหวังของนางเจ้า

มาบัดนี้หนีหายทั้งกายเงา

รักแสนเศร้าเราเซซัง ยังปากเซ...

กลอนพาไป หรือใจมีความหลัง

 พี่ถึงยังวอนเว้าเฝ้าคิดถึง

อยู่ในห้วงแห่งรักหวนคำนึง 

ไป่นี้จึงต้องเซซังยังปากเซ

กายสบายแต่กายนี้มีรุ่มร้อน

แม้นนั่งนอนห้องแอร์เย็นมิเย็นได้

เหงื่อกาฬใจไหลล้นท้นท่วมกาย

อยากให้เป็นทุกข์สลายจากใจจัง...

กายร้อน ใจร้อน ไม่ผ่อนคลาย

ดูสบายแต่ไม่เสบยเลยฟุ้งซ่าน

หยุดและทิ้ง ไม่หวนคิด จิตสำราญ

สุดเบิกบานทุกข์สลายจากใจเอย

@น้องอ้อม

ขอบคุณที่แวะมา g2k ยังเป็นแหล่งพักพิงและแสวงหาอยู่เสมอจ้า

แม้ว่าวันนี้จะมีสื่อใหม่ๆ โผล่เข้ามาอย่างแรง แต่  g2k ยังอยู่ในใจป้าตุ่นเสมอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท