มาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542


มาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ

มาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ได้ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2547   เพื่อใช้เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับ คุณลักษณะคุณภาพที่พึงประสงค์  และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาและกำกับดูแลการตรวจสอบ    การประเมินผล  และการประกันคุณภาพทางการศึกษา

มาตรฐานที่  ๑ คุณลักษณะของคนไทยที่พึงประสงค์ ทั้งในฐานะ

                        พลเมืองและพลโลกคนไทยเป็นคนเก่ง คนดี และ

                        มีความสุข

ตัวบ่งชี้          ๑.๑ กำลังกาย  กำลังใจที่สมบูรณ์๑.๑.๑   คนไทยมีสุขภาพกายและจิตใจที่ดี มีพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา  เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ตามเกณฑ์การพัฒนาในแต่ละช่วงวัย

                ๑.๒ ความรู้และทักษะที่จำเป็นและเพียงพอในการดำรงชีวิตและการ

               พัฒนาสังคม                                ๑.๒.๑   คนไทยได้เรียนรู้เต็มตามศักยภาพของตนเอง

                                ๑.๒.๒   คนไทยมีงานทำและนำความรู้ไปใช้ในการสร้างงาน

                                และสร้างประโยชน์ให้สังคม                ๑.๓ ทักษะการเรียนรู้ และการปรับตัว๑.๓.๑   คนไทยสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้ รู้ทันโลก รวมทั้งมีความสามารถในการใช้แหล่งความรู้และสื่อต่างๆ เพื่อพัฒนาตนเองและสังคม๑.๓.๒   คนไทยสามารถปรับตัวได้ มีมนุษยสัมพันธ์ดี และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี                ๑.๔ ทักษะทางสังคม๑.๔.๑   คนไทยเข้าใจและเคารถในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและสังคม มีทักษะและความสามารถที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข๑.๔.๒   คนไทยมีความรับผิดชอบ เข้าใจ ยอมรับ และตระหนักในคุณค่าของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน  สามารถแก้ปัญหาในฐานะสมาชิกของสังคมไทยและสังคมโลกโดย สันติวิธี

                ๑.๕ คุณธรรม จิตสาธารณะ และจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและ

                พลโลก

                                ๑.๕.๑     คนไทยดำเนินชีวิตโดยกายสุจริต วจีสุจริต และมโน

                                สุจริต

                                ๑.๕.๒    คนไทยมีความรับผิดชอบทางศีลธรรมและสังคม มี

                                จิตสำนึกในเกียรติภูมิของความเป็นคนไทย มีความภูมิใจในชน

                                ชาติไทยรักแผ่นดินไทยและปฏิบัติตนตามระบอบ

                                ประชาธิปไตย เป็นสมาชิกที่ดี เป็นอาสาสมัครเพื่อชุมชนและ

                                สังคมในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก

 

มาตรฐานที่ ๒  แนวการจัดการศึกษา 

ตัวบ่งชี้๒.๑ การจัดหลักสูตรการเรียนรู้และสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ๒.๑.๑ มีการจัดหลักสูตรที่หลากหลายตามความเหมาะสมของกลุ่มผู้เรียนทุกระบบ สอดคล้องตามความต้องการของผู้เรียนและท้องถิ่น สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน๒.๑.๒ ผู้เรียนมีโอกาส/สามารถเข้าถึงหลักสูตรต่างๆ ที่จัดไว้อย่างทั่วถึง๒.๑.๓ องค์กรที่ให้บริการทางการศึกษามีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีอาคารสถานที่มีการส่งเสริมสุขภาพอนามัย และความปลอดภัย๒.๑.๔มีการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ สื่อเพื่อการเรียนรู้และการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศทุกรูปแบบที่เอื้อต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม 

๒.๒ มีการพัฒนาผู้บริหาร ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาอย่าง

เป็นระบบและมีคุณภาพ๒.๒.๑ ผู้บริหาร ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง  เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการและวิชาชีพ๒.๒.๒ ผู้บริหาร ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษามีคุณธรรม มีความถึงพอใจในการทำงาน และผูกพันกับงานมีอัตราการออกจากงานและอัตราความผิดทางวินัยลดลง

                                ๒.๒.๓ มีแนวโน้มในการรวมตัวจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อสร้าง

                               เกณฑ์มาตรฐานเฉพาะกลุ่ม และติดตามการดำเนินงานของ

                              บุคลากรและสถานศึกษา   ตลอดจนการสั่งสม    องค์ความรู้ที่

                              หลากหลาย๒.๓ มีการบริหารจัดการที่ใช้สถานศึกษาเป็นฐาน๒.๓.๑ องค์กร ชุมชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ตามสภาพท้องถิ่น สภาพปัญหาและความต้องการที่แท้จริง    ของผู้เรียน๒.๓.๒ ผู้รับบริการ/ ผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่มมีความพึงพอใจต่อการจัดบริการทางการศึกษาของสถานศึกษา

๒.๓.๓มีการกำหนดระบบประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพ และสามารถรองรับการประเมินคุณภาพภายนอก

            มาตรฐานที่ ๓  แนวการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้/ สังคมแห่งความรู้

ตัวบ่งชี้ 

๓.๑ การบริการวิชาการและสร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับ

ชุมชนให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้/สังคมแห่งความรู้๓.๑.๑ สถานศึกษาร่วมมือกับบุคลากรและองค์กรในชุมชนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทุกระดับ ร่วมจัดปัจจัยและกระบวนการเรียนรู้ภายในชุมชน และให้บริการทางวิชาการที่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาคนในชุมชน เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งภูมิปัญญา และคนไทยมีการเรียนรู้ตลอดชีวิต

                                ๓.๑.๒ชุมชนซึ่งเป็นที่ตั้งขององค์กรที่ให้บริการทางการศึกษามี

                               สถานภาพเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้/สังคมแห่งความรู้ มีความ

                               ปลอดภัย ลดความขัดแย้ง มีสันติสุข และมีการพัฒนาก้าวหน้า

                              อย่างต่อเนื่อง 

๓.๒ การศึกษาวิจัย สร้างเสริม สนับสนุนแหล่งการเรียนรู้ และกลไกการ

เรียนรู้

               ๓.๒.๑ ศึกษาวิจัย สำรวจ จัดหา และจัดตั้งแหล่งการเรียนรู้ตลอด

               ชีวิตทุกรูปแบบ๓.๒.๒ระดมทรัพยากร   (บุคลการ  งบประมาณ  อาคารสถานที่  สิ่งอำนวยความสะดวกภูมิปัญญาและอื่นๆ ๓.๒.๓ศึกษาวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และการพัฒนาประเทศ๓.๓ การสร้างและการจัดการความรู้ในทุกระดับทุกมิติของสังคม๓.๓.๑ ครอบครัว ชุมชน องค์กรทุกระดับ และองค์กรที่จัดการศึกษามีการสร้างและใช้ความรู้ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จนกลายเป็นวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้
 
 

 

คำสำคัญ (Tags): #มฐ.
หมายเลขบันทึก: 44548เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2006 12:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2012 09:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท