บทที่ ๓
คำว่า “องค์แห่งความรู้” คือเป็นความรู้ที่เกิดจากการศึกษาเรียนรู้ สู่กระบวนการคิด จนเกิดทักษะในการถ่ายทอดความรู้นั้น ๆ พระเดชพระคุณหลวงปู่ใหญ่ก็เช่นกัน ท่านมีองค์แห่งความรู้ที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน จนความรู้ที่ได้มาตกผลึก เป็นความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวท่าน แล้วกลั่นออกมาเป็นเอกสารตำราทางวรรณกรรมล้านนาอย่างมากมาย ดังจะกล่าวต่อไป
...................................................
๓.๑.ความเป็นนักวิชาการ
...................................................
ความโดดเด่นในเรื่องวิชาการด้านประวัติศาสตร์ล้านนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประวัติศาสตร์ของเมืองพะเยานั้นจะหาผู้ใดที่จะเสมอเหมือนมิได้ จากประวัติและผลงานของพระเดชพระคุณท่านได้ยืนยันในเรื่องนี้ไว้และทำให้เราได้เห็นอย่างชัดเจน ดังเอกสารความตอนหนึ่งว่า
“.....เป็นพระสงฆ์ที่มีความเข้าใจและมีความวิริยะอุตสาหะในการศึกษาค้นคว้าด้านประวัติศาสตร์ / โบราณคดีของอาณาจักรล้านนาและเมืองพะเยามาเป็นเวลานานมากกว่า ๔๐ ปี เป็นผู้เปิดประตูเมืองพะเยาในอดีตให้อนุชนคนรุ่นหลัง ๆ ได้เข้าไปศึกษาโบราณสถาน โบราณวัตถุเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจ ความหวงแหน วัฒนธรรมของตนเองอันเป็นมรดกล้ำค่า โดยได้เก็บสะสมวัตถุโบราณต่าง ๆ มาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๘ มีโบราณวัตถุต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เช่น จำพวกประติมากรรมศิลปะวัตถุ ศิลาจารึก โบราณวัตถุอื่น ๆ อีกมากมาย....”[1]
นั้นก็หมายความว่า นอกจากท่านจะมีความสนใจที่จะศึกษาค้นคว้างานด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่นแล้ว ท่านยังมีความมุ่งมั่นต่อภารกิจนั้น ๆ อย่างต่อเนื่องและจริงจังด้วย
เพื่อให้ความชัดเจนและความเป็นปราชญ์ของท่านจึงนำเสนอผลงานที่พระเดชพระคุณท่านได้ปริวรรตเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความรู้ทั่วๆไปเอาไว้ ดังนี้[2]
๑.ประวัติศาสตร์เมืองพะเยา พ.ศ.๒๕๒๔
๒.ตำนานเมืองเชียงแสน พ.ศ.๒๕๒๔
๓.อัตถคัมภีร์พุทธโฆษาจารย์และพระราชกำหนด(กฎหมาย) พ.ศ.๒๕๒๔
๔.เมืองพะเยา พ.ศ.๒๕๒๗
๕.พระพุทธรูปและเมืองโบราณของเมืองพะเยา พ.ศ.๒๕๒๙
๖.ประวัติศาสตร์เมืองพะเยายุคหลัง พ.ศ.๒๕๓๑
๗.จดหมายประวัติศาสตร์ของพระครูศรีวิราชวชิรปัญญา เรื่อง การสร้างวิหารพระเจ้าตนหลวง พ.ศ.๒๕๓๒
๘.ศรีโคมคำ (พระเจ้าตนหลวง) และพญาเจือง พ.ศ.๒๕๓๖
๙.ความเป็นมาของพะเยาในอดีต พ.ศ.๒๕๓๗
๑๐.ตำนานเมืองเชียงแสน พ.ศ.๒๕๓๘
๑๑.ประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรมเมืองพะเยา พ.ศ.๒๕๓๘
๑๒.เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสเชียงราย-พะเยา พ.ศ.๒๕๓๙
๑๓.คำอวยพรปีใหม่ พ.ศ.๒๕๔๑
๑๔.ประวัติกว๊านพะเยา ๒๕๔๒
๑๕.ความเป็นมาในอดีตของเมืองพะเยา และประวัติพระยายุทธิศเสถียรเมืองสองแคว พ.ศ.๒๕๔๓
๑๖.ตำนานพระแซกคำ พ.ศ.๒๕๔๔
๑๗.ตำนานวัดป่าแดงหลวงดอนไชยบุญนาค จังหวัดพะเยา
๑๘.ประเพณีทำบุญล้านนา
๑๙.บันทึกสถิติน้ำท่วมเมืองพะเยาและค่าวน้ำท่วม
๒๐.คติธรรมคำสอน
๒๑.อนายุสสูตร ที่ ๑-๒ และคติคำสอนโบราณ
๒๒.ประวัติคณะสงฆ์เมืองพะเยา
๒๓.บันทึกและค่าวซอ การท่องเที่ยวเมืองหลวงพระบาง
๓๔.ปรมัตถธรรม
๓๕.๑๐๐ ปีเหตุการณ์เงี้ยวก่อการจลาจลในมณฑลพายัพ พ.ศ.๒๔๔๕
นอกจากนี้แล้ว ยังได้เห็นถึงปัจจัยที่ส่งผลให้ท่านเป็นนักวิชาการทางด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์ในหัวข้อ “พระธรรมวิมลโมลี เพชรแห่งเมืองพะเยา” ว่า
“.....ด้วยความได้เปรียบของการอ่านและการเขียนภาษาล้านนา และด้วยสถานะที่ท่านเป็นนักบวชในพระพุทธศาสนาท่านจึงมีความรู้ความสามารถพิเศษหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบแปลนพระอุโบสถ กุฏิ วิหารแบบล้านนา รวมไปถึงประวัติศาสตร์และโบราณคดีล้านนา ที่ท่านตั้งใจศึกษาค้นคว้ามากว่า ๔๐ ปี โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเมืองพะเยา....”[3]
นอกจากงานปริวรรต และแต่งหนังสือประวัติศาสตร์แล้ว ท่านยังได้เสียสละเวลาทรัพย์สินและความอดทน ในการรวบรวมข้อมูลอันเป็นพื้นฐานทางประวัติศาสตร์เมืองพะเยาเอาไว้อันเปรียบเสมือนตำราเล่มใหญ่ทีเดียว คือ
-วัตถุโบราณประมาณ ๑,๐๐๐ ชิ้น
-ศิลาจารึกประมาณ ๓๐ ชิ้น
-ตำรา / คัมภีร์ใบลาน / สมุดข่อย เป็นจำนวนมาก
จากผลงานดังกล่าวทำให้เมืองพะเยามีสถานที่สำคัญ ๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมายดังหนังสือที่ระลึกงานทำบุญอายุครบ ๘๕ ปี ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ว่า[4]
“....ผลงานทั้งหมดนี้จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดสถานที่ศึกษาประวัติศาสตร์โบราณคดีและที่รวบรวมจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมกับวัตถุโบราณต่าง ๆ ที่จังหวัดในส่วนภูมิภาคของไทยจะมีขึ้นได้โดยไม่ง่ายนัก คือ
-หอวัฒนธรรมนิทัศน์วัดศรีโคมคำ ซึ่งสร้างขึ้นในพื้นที่โฉนดของวัดศรีโคมคำด้านทิศใต้ติดกับชายกว๊านโดยได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จทรงวางศิลาฤกษ์และทรงเสด็จเปิด
-หอจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฏราชกุมารจังหวัดพะเยา ซึ่งจัดสร้างขึ้นในพื้นที่บริเวณดอยพระธาตุจอมทองวัดศรีโคมคำ โดยได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๓๘.....”
ส่วนมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา และมหาวิทยาลัยพะเยา ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ส่วนหนึ่งก็มาจากฐานข้อมูลของพระเดชพระคุณท่านนี้เอง
เราจะเห็นว่า ผลงานของพระเดชพระคุณหลวงปู่นั้น ได้แสดงให้ประชาชนชาวจังหวัดพะเยาและชาวล้านนาได้รู้ได้เห็น ได้ประจักษ์เป็นการเฉพาะก็หาไม่ แท้ที่จริงแล้ว เกียรติคุณมากมายที่ท่านได้รับทั้งระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ดังเอกสารการเสนอขอปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ว่า
“..จากผลงานดีเด่นทั้งด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาการส่งเสริมการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณร กุลบุตรกุลธิดาการสังคมสงเคราะห์ ตลอดจนผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์แก่สาธุชนทั่วไป เช่น ได้รับพระราชทานโล่ผู้อนุรักษ์วัฒนธรรมดีเด่น จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ / ได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ / ได้รับเข็มและโล่ประกาศเกียรติคุณผู้อนุรักษ์มรดกไทยดีเด่นประจำปี ๒๕๔๑ เป็นต้น...”[5]
ดังนั้น ความเป็นนักวิชาการของพระเดชพระคุณหลวงปู่ที่มีผลงานโดดเด่นและหลากหลายนี้เอง สะท้อนให้ท่านเป็นผู้มีวิชชาคือความรู้และจรณะคือความประพฤติอย่างน่าติดตามยิ่ง
.................................................
๓.๒.จรณะ ความประพฤติ
............................................
นอกจากพระเดชพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ จะมีวิชชา ความรู้แล้ว ท่านยังมี จรณะ ความประพฤติด้วย และความประพฤตินี้เองที่สร้างแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลังได้ก้าวเดินอย่างมั่นใจ และยอมรับในจริยาวัตรที่งดงามของท่าน ดังภาษิตที่ว่า ทนฺโต เสฏฺโฐ มนุสฺเสสุ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมนุสฺเส ที่มีความหมายว่าผู้ฝึกตนเองแล้ว เป็นผู้ประเสริฐในหมู่มนุษย์ ส่วนบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ จะประเสริฐในหมู่ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย นั้นสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของความรู้และความประพฤติ ได้อย่างลงตัว
[1] มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา. ประวัติและผลงานพระธรรมวิมลโมลี. เอกสารเสนอขอดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์, ๒๕๔๕.
[2] พระธรรมวิมลโมลี. ๑๐๐ ปี เหตุการณ์เงี้ยวก่อการจลาจลในมณฑลพายัพ พ.ศ.๒๔๔๕. ๒๕๔๒, หน้า จ.
[3] ศิริวรรณ มะโนวงศ์และชัยวัฒน์ จันทิมา. ปราชญ์เมืองพยาว. ๒๕๔๓ หน้า ๑๐.
[4] มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา. ที่ระลึกงานทำบุญครบ ๘๕ ปี. ๒๕๔๕, หน้า ๓๘.
[5] มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา. เอกสารเสนอขอดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์.
ไม่มีความเห็น