O-NET พ่นพิษ


การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้

            มาวันนี้คนทั้งประเทศ เริ่มรู้จักคำว่า o-Net มากขึ้น และเริ่มมีเค้าว่าจะนำผลของมันมาเป็นตัวตีค่าในการวัดด้านต่างๆ เสมือนหนึ่งเป็นอุณหภูมิบอกอาการของคนว่าป่วยเป็นไข้หรือปวดหัวตัวร้อนขนาดไหน

            ข่าว สยามรัฐ http://www.siamrath.co.th/web/?q=node/69278  ที่ระบุว่า นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการขับเคลื่อน เพื่อยกระดับคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของเด็กไทยให้สูงขึ้น โดยได้มอบให้สำนักทดสอบทางการศึกษา สพฐ. ไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดเป้าหมายที่คาดหวังของค่าคะแนน O-NET ในช่วงชั้นที่ 3 และ 4 คือ ม.3 และ ม.6 ใน 3 วิชาหลัก ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ว่าเด็กควรจะได้คะแนน O-NET ไม่ต่ำกว่าเท่าใด โดยให้นำหลักวิชา และข้อมูลสถิติย้อนหลังมาเป็นตัวกำหนดเป้าหมาย ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ สพฐ.ได้กำหนดค่าเป้าหมายของค่าคะแนน O-NET ในช่วงชั้นที่ 2 คือ ป.6 ไปแล้ว ซึ่งเด็กจะต้องได้คะแนนในวิชา ภาษาไทย และคณิตศาสตร์ ไม่ต่ำกว่า 40%

           "การกำหนดค่าเป้าหมาย จะต้องมีความท้าทายควบคู่ไปกับความเป็นไปได้ เพราะหาก สพฐ.ตั้งเป้าที่มีความท้าทายอย่างเดียว ก็จะดูไกลเกินเอื้อม และไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าเป้าหมาย ค่าคะแนน O-NET ของชั้น ม.3 และ ม.6 คงไม่เกิน 50% โดยจะเริ่มนำมาใช้ในปีการศึกษา 2554 และหากเขตพื้นที่ฯ หรือโรงเรียนใดทำคะแนน O-NET ได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ก็จะต้องมีเหตุผลชี้แจง และมีแผนที่จะดำเนินการเร่งรัด ทั้งนี้จะมีการนำผลสำเร็จจาการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวไปใช้ เป็นส่วนประกอบในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายประจำปีด้วย" 

           ซึ่ง สพฐ.ได้เตรียมจัดทำแผนโรดแมป ในการยกระดับคะแนน O-NET ให้สูงขึ้น ใน 5 กลุ่มสาระวิชา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศึกษา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.54 ส่วนเรื่องการนำคะแนน O-NET ไปใช้ในคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อชั้น ม.1 และ ม.4 นั้น ที่ประชุมมีมติ ให้จัดการเสวนารับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสียก่อน

           คงเป็นเรื่องใหม่ที่นำมาเล่าแบบเก่าอีกครั้งว่า คุณภาพของเด็กและเยาวชนในด้านความเก่ง โอเนตจะเป็นคำตอบว่ามีแค่ไหน และด้านความดีก็จะมีมากกว่าความเก่ง การทำให้โอเนตสูงและเป็นเด็กดีด้วย คือสิ่งที่สังคมต้องการ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ จะทำให้คุณภาพสูงขึ้นแน่นอนครับ 

คำสำคัญ (Tags): #โอเนต
หมายเลขบันทึก: 444307เขียนเมื่อ 16 มิถุนายน 2011 19:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 16:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

น่าเห็นใจครู ขณะนี้ครูสอนเด็กหรือครูกำลังสนอง....งบให้เขตใช้....อบรมไม่หยุด....ทั้งผอ.รร. ทั้งครู...ไม่ค่อยอยู่รร. ....ไม่อบรมก็สักเรื่ิองต้องมี...เคยทำวิจัยบ้างไม๊?.....ครูอยู่สอนเด็ก ได้ๆกับ% onet ที่ได้ขณะนี้ไม๊?..สอนน้อย % onet ก็น้อย ธรรมดาๆ ...รู้บ้างไม๊? ขณะหน่วยงานเขตฯ ไร้กระดาษ รร.ต้องใช้กระดาษมากขึ้น....ทุกอย่างรร.ต้องปริ๊น....งานข้อมูลให้รร.ทำเพียบ...ปริ๊นและปริ๊น...งานวิจัย...ครูมัวแต่กรอกข้อมูล ทิ้งเด็ก....ไม่สอน.......?...........?......

น่าเห็นใจครับ ต่างมุมมองที่ต่างกัน สุดท้ายมองที่ผลผลิต "เด็กเก่ง ดี" หรือไม่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท