เมื่อ......ลูกไม้ไกลต้น ตอนที่ 2


สายเลือด...ศิลปิน

                 ทำอย่างไรจะให้ลูกชายคนเล็กของฉันเล่นดนตรีเป็นกับเขาบ้างเชื่อไหมทั้งที่พ่อเป็นครูสอนดนตรีเเละเล่นเครื่องดนตรีได้ทุกอย่าง   เขาสอนลูกศิษย์มานับไม่ถ้วนแต่กับลูกชายเล่นเครื่องดนตรีไม่ได้เลยสักอย่าง  ฉันเคยบอกให้เขาถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับลูกแต่เขาบอกว่าถ้าลูกไม่มาขอให้สอนเขาจะไม่สอนและไม่บังคับต้องเป็นความสมัครใจเท่านั้น     ฉันบอกไม่เห็นว่ามันสำคัญตรงไหนทำไมต้องรอให้ลูกขอร้องด้วยฉันเสียดายคนอื่นๆเขาพาลูกไปเรียนเสียเงินกันคอร์สละตั้งหลายพันลูกฉันมีพ่อเป็นครูแท้ๆ  เขาบอกว่าตอนเด็กพ่อเขาเป็นนักดนตรีและเป็นครูสอนพวกแตรวง     พ่ออยากถ่ายทอดให้พี่ชายสุดท้ายพี่ชายก็เป่าได้แต่ไม่ชอบและไม่ได้สานต่อเจตนารมณ์ของพ่อส่วนตัวสามีเองพ่อไม่ได้ตั้งใจสอนเพราะอยากให้เรียนหนังสือแต่สามีชอบและอยากเล่นก็เลยแอบฝึกแบบครูพักลักจำด้วยความมุ่งมั่นจะเป็นนักดนตรีเหมือนพ่อ  พอโตมาพ่อก็บอกเขาว่าพ่ออยากให้เขาเป็นครูพ่ออยากให้ลูกรับราชการสักคนพ่อบอกว่าถ้าเป็นครูก็เป็นนักดนตรีได้สุดท้ายเขาเลยได้รับราชการเป็นครูสอนดนตรี   เขาเห็นตัวอย่างพี่ชายก็มานึกว่าถ้าคนที่ไม่มีใจรักดนตรีเล่นไปก็เท่านั้นใจจริงเขาเองอยากให้ลูกเล่นดนตรีได้นั่นแหละฉันรู้ดี ตอนที่ลูกชายยังเล็กฉันพยายามให้เขาลองเล่นอีเล็กโทนลูกชายกดเล่นไปพักนึงพอพ่อเริ่มจะสอนเขาๆก็หันมามองฉันน้ำตาไหลบอกว่าแม่หนูเล่นไม่ได้...มันยาก เฮ้อ ! ก็เลยพักยกกันไป   พอลูกเริ่มโตมาหน่อยฉันพยายามพาเขาไปดูหนังเกี่ยวกับดนตรีอยากให้เขาค่อยๆซึมซับมันทีละน้อยแต่ไม่เป็นผล   มีครั้งนึงสามีเปิดคอร์สสอน 15 คนฉันชวนลูกให้ไปสมัครเรียนรวมกับคนอื่นพอจบคอร์สมีแต่ลูกชายฉันที่เรียนไม่ผ่าน   สามีเล่าว่าลูกชายนั่งร้องไห้และบอกกับเขาว่าหนูทำให้พ่อเสียใจใช่ไหมที่เล่นกีตาร์ไม่ได้   สามีเลยบอกลูกว่าไม่เป็นไรไม่ได้ก็ไม่เป็นไรพ่อไม่เสียใจหรอกและพ่อก็ไม่อยากบังคับใคร  ส่วนลูกเพื่อนข้างบ้านชอบกีต้าร์มากเรียนมาพร้อมกันเขาเล่นเก่งทีเดียวเดี๋ยวก็แวะมาให้ช่วยสอนตั้งสายกีตาร์ให้  แม่เขายังพูดกับเราว่าเสียดายทำไมลูกเราถึงไม่ได้สายเลือดพ่อไปสักคน    ใครๆก็พูดกันแบบนี้ทั้งนั้นฉันฟังจนชิน    สายเลือดศิลปินคงหมดสิ้นกันแค่นี้ 

          " แล้วลูกไม้ของฉัน...ก็หล่นไกลต้นอีกครั้ง "

             ปี 2554 ลูกชายอายุครบ 13 ปี วันนึงเขาบอกว่าเพื่อนชวนไปสมัครชมรม ดนตรีสากล ครูให้รวมกันตั้งวงดนตรีวงละ  5 คน ฝึกซ้อมปลายเทอมจะให้ไปเล่นโชว์ที่ลานดนตรี       สุดท้าย....ลูกชายเลยมาขอให้พ่อช่วยเป็นแทรนเนอร์ให้กับวงของลูกชายซะงั้น.

 

               

           

คำสำคัญ (Tags): #สายเลือดศิลปิน
หมายเลขบันทึก: 443954เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2011 23:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ไม่แปลกนะครับ คุณพ่อผมเองก็เล่นดนตรีพื้นเมืองและดนตรีสากลได้หลายอย่าง ยิ่งพักหลังส่งเด็กๆกวาดรางวัลวงดนตรีพื้นเมืองมาทั้งระดับจังหวัดและเป็นตัวแทนเขตการศึกษาไปแข่งได้รางวัลอีกหลายแห่ง จนท้ายที่สุดท่านได้เป็นครูต้นแบบด้านดนตรีพื้นเมือง(สะล้อ ซอ ซึง)...ส่วนผมเหรอครับ ไม่เป็นสักอย่าง..(ฮ่าๆ) มันอาจเป็นเรื่องจิตใต้สำนึกหรืออยากเอาชนะ...ผมก็ไม่แน่ใจ ประมาณว่าถ้าทำได้ไม่ดีแล้วผมจะไม่ทำเลย...อันนี้ไม่ใช่ว่าเกลียดนะครับ แต่เหตุผลเดียวกับน้องเลยครับคือ กลัวพ่อเสียหน้า วิธีแก้(มองจากตัวผมเอง) ผมว่าลองให้คุณพ่อกะคุณลูกลองเล่นดนตรีด้วยกันครับ ไม่ใช่แบบที่เรียนเป็นจริงเป็นจังนะครับ แบบชวนมาเล่น ให้เขาลองทำให้ดูหน่อย อาจจะเตี้ยมกะคุณพ่อก่อนว่าอยากฟังเพลงนี้ ให้ลูกเล่นให้หน่อย หรืออาจชวนกันเล่นเพื่อเตรียมไว้เป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ วันเกิดคุณแม่...อะไรอย่างนี้ครับผม (คืออันนี้ผมคิดจากตัวผมเองนะครับว่า หากบรรยากาศเป็นกันเอง พ่อลูกน่าจะเล่น(ปนเรียน)กันไปแบบไม่ขัดเขิน)

เค้าตกใจน่ะครับ เพราะเค้าไปเริ่มงานยากตอนที่ยังไม่แข็งพอ มันล้ม กำลังใจ พลังใจหล่นตุบ จากนั้นก็เข็ดยาวเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท