๒๓ มกราคม ๒๕๕๓ ( วันที่ ๓)
๔ .๐๐ น. ตื่นนอน
๗.๑๕ น. รับประทานอาหารเช้า ปฏิบัติกรรมฐานต่อ รู้สึกง่ายและดีขึ้นมาก เริ่มสัมผัสความสงบสุข
๒๒.๒๐ น. เข้านอน
๒๔ มกราคม ๒๕๕๓ ( วันที่ ๔)
๔ .๐๐ น. ตื่นนอน
๔.๓๐ น. ทำวัตรเช้า
๗.๑๕ น. รับประทานอาหารเช้า เดินจงกลมสลับกับนั่งสมาธิสองครั้ง วันนี้ไม่เจ็บหลังแล้ว แต่รู้สึกตัวหนักราวกับว่าตัวติดกับพื้นดิน รู้สึกเหมือนว่ากายแยกจากจิต
๑๑.๐๐ น. หลังอาหารกลางวันเดินจงกลมและนั่งสมาธิอีกหนึ่งครั้ง น้ากรองทองและน้าพนธ์มาเยี่ยม น้าทั้งสองนำอาหารมาถวายและได้มานมัสการหลวงลุง
๑๘.๓๐ น. หลวงลุงให้คำสอนแต่ละคน เสร็จแล้วทำวัตรเย็นพร้อมกัน
เริ่มการเดินจงกลมสามจังหวะ ยกหนอ ย่างหนอ เหยียบหนอ ครึ่งชั่วโมง และนั่งสมาธิเหมือนเดิมอีกครึ่งชั่วโมง
หลวงลุงพูดถึงความรู้สึกที่โอนไปข้างหน้า แต่ข้าพเจ้าไม่รู้สึกเลย หลวงลุงสั่งให้ทำกรรมฐานไปจนถึงเที่ยงคืน ซึ่งก็หมายความว่าวันนี้จะได้นอนแค่สี่ชั่วโมงเท่านั้น
คำถามต่อหลวงลุง
ถาม อะไรคือ สัมมาถะ อะไรคือวิปัสสนา
ตอบ วิปัสสนา คือความระลึกรู้ทั้งภายในและภายนอก ส่วนสมาธิคือการเพ่งในสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นอารณ์
ถาม ปฏิบัติหมายความว่าอย่างไร
ตอบ หมายถึงการกระทำ
ถาม ปล่อยวางอารมณ์ หมายความว่าอย่างไร
ตอบ กำหนดรู้ แล้ว พูดว่า รู้หนอ แล้วปล่อยวางอารมณ์นั้นไปเสีย เช่น ถ้าโกรธหนอ แล้วทิ้งความโกรธไปเสียจากใจ
หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ไปทำกรรมฐานต่อ ก่อนเวลาเที่ยงคืนเล็กน้อย ศรีษะของข้าพเจ้ายื่นไปข้างหน้าตอนนั่งสมาธิตรงกับความคำพยากรณ์ของหลวงลุงที่มีแก่ข้าพเจ้า
เที่ยงคืน เข้านอน
ยอมรับและชื่นชมในความอดทน และความเพียรพยายามของลูกสาว "คุณคนบ้านไกล" จริงๆ ค่ะ ตัวเองอายุปูนนี้ยังไม่คยทำได้สำเร็จ มีแต่ลูกสาวที่ปฏิบัติเป็นประจำ
ส่งอีแมลไปให้คุณพี่แล้วครับ