อาหารมื้อเย็น เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเสมอสำหรับพวกเรา เช่นเดิมเรานัดกันไปออกกำลังกาย โดยปั่นจักรยาน เตรียมเส้นทางกันอย่างดิบดี เปลี่ยนชุดออกกำลังกาย การเดินทางก็เริ่มต้น...
... แต่เดี๋ยวก่อน เรามาพบกับสมาชิกใหม่ของโรงพยาบาลแจ้ห่มเช่นกัน หมอฝน ด้วยความมีมารยาท จึงต่างชวนกันทานข้าวเย็น และด้วยความใหม่กับพื้นที่ จึงต่างไม่รู้ว่าจะไปร้านไหนดี สุดท้ายแล้วเป็นหมอฝนที่ออกไอเดีย " ร้านพยอม " อธิบายทางสำหรับน้องใหม่แบบเราอย่างดี การเดินทางที่แท้จริงจึงเริ่มต้น
ระหว่างทางปั่นจักรยาน ซีวิคขาวขับมาเลียบข้างเราแล้ว ลดกระจกลงมายิ้มทักทาย ผมนั้นจึงได้โบกมือให้นำทางไปก่อนได้เลย เพราะคิดว่าเข้าใจเส้นทางที่จะไปร้านได้ถูกต้อง ผ่านมาถึงหน้าวัดศรีหลวง กลางตัวเมืองแจ้ห่ม หมอฝนจอดรถเพื่อซื้อส้มตำเจ้าอร่อย ซึ่งเราก็ชอบเหมือนกัน
ระหว่างทางไป พยายามปั่นช้าๆ เพื่อไม่ให้เลยร้าน ราว 10 นาที ก็ถึงร้านพยอม จัดโต๊ะเรียบร้อย ก็มานั่ง ดังภาพที่เห็น น้องๆทั้ง 2 ต่างซับเหงื่อ เรานำร่องสั่งอาหารไป 2 อย่างก่อน เพื่อให้ กลุ่มที่ตามมาได้สั่งเพิ่มอีก 15 นาทีผ่าน คะน้าหมูกรอบหอมกรุ่น(ในยามนั้น) ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ(ไม่ใส่ต้นหอม เพราะน้องสองไม่กิน) ก็เสริฟพร้อมข้าวร้อนๆ ตักข้าวเสร็จสรรพ
.... 10 นาทีผ่าน
ไม่มีวี่แวว ของ หมอทั้ง 2 ผมจึงรบเร้าให้น้องสองโทรหาหมอฝน ปรากฏว่าไม่รับสาย อ่าๆๆๆๆ ทำไงดี อ่าๆๆๆๆ หรือว่า เราสื่อสารกันผิดพลาด ผิดร้าน เอ๊ะหรือเค้าแนะนำร้านเรา ยังไงดีๆ โทรอีกทีแล้วกัน ไม่รับสายเช่นเคย อ่าๆๆๆๆ
เหนื่อย..... หิว..... รอ?
ในฐานะเป็นพี่ที่ดี
กินเหอะน้อง.....
จบแล้วครับ
ปล. ค่ำๆคืนนั้น หมอฝนโทรกลับบมา แต่พวกเราก็ไม่ได้รับสาย วันรุ่งขึ้นเจอกันน้องฝนมาขอโทษแล้วก็ได้รู้ว่าน้องฝนเองก็เราเราปั่นจักรยานผ่านหน้าร้านส้มตำ รออยู่นาน สามนาน เราก็ไม่มาซักที จึงซื้อกับข้าวไปกินกันเอง กลับมาบ้าน เอาโทรศัพท์ โทรหา เราก็ไม่รับสายกันอีก
ปล.2 หลังจากนั้นอีกซักหน่อย คะน้าหมูกรอบที่เราว่าอร่อยมาก ไปซื้อกลับบ้าน อ้าว ไหง ก็ธรรมดา หว่า
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า " อะไรก็อร่อยถ้ากินเวลาหิว "
หิว เหนื่อย รอข้าวกล่อง มั้ง คุณหมอ เฮ้อ
สวัสดีครับ
โห มาอย่างรวดเร็ว แบบว่าเน็ต บ้านพักไม่ดี เลยต้องเอารูปมาขึ้นไว้ก่อน ครับ
โปรดติดตาม !!!