หลังจากผมนำเสนอประโยชน์ของการพึ่งพา ที่มีหลายมิติยังประโยชน์เหนือกว่าการแข่งขัน
ก็มีเสียงสะท้อนว่า
การพึ่งพาก็อันตราย ถ้าไม่ระวัง และก้าวล้ำไปถึงการ "เสพติด" อย่างที่มีการพัฒนาการเกิดขึ้นอย่างมากมาย และเป็นเครื่องมือทางการค้า การแสวงหาผลประโยชน์กันในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็น
เพื่อความเบาของชีวิต เราจำเป็นต้องพัฒนาการพึ่งพาเพื่อความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชน
แต่ถ้าก้าวเลยถึง "การเสพติด" กลับจะทำให้ระบบเปราะบาง อ่อนแอ ถูกเอาเปรียบ ไม่เป็นธรรม และล่มสลายได้ง่าย
จึงต้องกลับมาพิจารณาทางสายกลาง
ว่า การพึ่งพาอย่างไร ไม่อันตราย ไม่เดือดร้อน ไม่ทุกข์
เช่น โดยการพัฒนาการพึ่งตนเองต่อเชื่อมเข้าไปในระบบของการพึ่งพา เป็นทางเลือกสำรองไว้ทันที ที่ต้องรีบเรียนรู้ให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ภายใต้กฏของ "อนิจจัง"
วันหนึ่ง ถ้าแม้ไม่มีสิ่งที่เราพึ่งพาอยู่ในวันนี้ เราก็ยังมีทางเลือกที่สามารถดำเนินชีวิตตามปกติได้
ที่ต้องอาศัย "สติ" ความรู้ ความสามารถ และ "ปัญญา" มากพอสมควร
อยู่กับการเรียนรู้ และการจัดการความรู้ ปลอดภัยกว่า แน่นอนกว่าครับ
เพิ่งได้คิด และคิดได้จึงรีบบันทึกไว้
ขอให้โชคดี มีที่พึ่งแต่ไม่ติดยึดครับ
มีที่พึ่ง แต่ไม่ยึดติด ......... ชอบวลีนี้มากครับอาจารย์
ที่พึ่งเป็นภายนอก และเก็บไว้ข้างนอกเลยครับ อย่านำมาเก็บไว้ในใจ
ติดยึดเป็นภายใน ก็อย่าเก็บไว้เช่นเดียวกันครับ
ถ้านำมาปนกัน หรือเก็บไว้ ชีวิตจะยุ่งยากและสับสนครับ
การพึ่งพาจนติด(และหวังจะรับ)การช่วยเหลือ(ตลอดเวลา)
เป็นจุดอ่อน ให้ถูกใช้อย่างกว้างขวาง (เขาเรียก โรค modern populism)
มีคนมาช่วย เรา (ให้ช่วยเขา ให้)ได้ผลสำเร็จ เยอะ