ความเป็นมา
เกริ่นมาสามตอนแล้วเพื่อเรียกน้ำย่อยและให้เกิดความสนใจ ซึ่งไม่รู้ว่าสำเร็จหรือไม่ เอาเป็นว่าถ้ายังตามอ่านกันอยู่ก็มาเข้าเรื่องกันดีกว่า อย่าเพิ่งถามว่าคริกเก็ตเล่นกันอย่างไร เร็วไป มาดูกันก่อนว่าคริกเก็ตกำเนิดมาได้อย่างไร ที่ไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ขอบอกถึงฉายาของคริกเก็ตที่ได้รับซะก่อนว่า คริกเก็ตเป็นกีฬาที่ได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่าเป็นกีฬาสุภาพบุรุษ Gentleman’s Sport เพราะค่อนข้างโหด (เหนื่อย) ใครอยากเป็นสุภาพบุรุษ ก็ลองอ่านกันต่อไปนะครับแต่สุภาพสตรีจะอ่านด้วยก็ไม่ว่ากัน
กำเนิดของคริกเก็ตจริงๆ ยังสรุปกันไม่ได้เพราะยังไม่มีหลักฐานว่าเริ่มมาอย่างไร ใครเป็นผู้คิดและพัฒนากฏกติกาต่างๆ มีแต่เพียงสันนิษฐานกัน แต่ที่นักวิชาการยอมรับก็คือตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 16 มีหลักฐานว่า ปี คศ. 1550 มีการเล่นคริกเก็ตกันแล้วที่ Guildford, Surrey ในอังกฤษและในหลายประเทศยุโรป
ข้อมูลบางแห่งบอกว่าคริกเก็ตน่าจะมีต้นกำเนิดมาจากการโยนลูกหรือขว้างไปโดยมีอีกคนหนึ่งคอยตีหรืออาจเป็นไปได้ว่าคนขว้างขว้างยังเป้าอะไรสักอย่าง และมีคนตีคอยตีลูกไม่ให้ถูกเป้าหมาย ไปๆ มาๆ ก็เลยกลายเป็นกีฬาและการตั้งกติกากันเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ตั้งแต่ 1550 เป็นต้นมา คริกเก็ตก็แพร่หลายไปทั่วยุโรป จากที่เคยเป็นกีฬาเล่นฆ่าเวลาของคนเฉพาะกลุ่มในอังกฤษก็กลายเป็นกีฬาที่นิยมเล่นกันโดยเฉพาะในโรงเรียนมัธยม และคนทั่วไป เล่นกันแต่เช้า เล่นไปหยุดพักไปและเล่นต่อ ทานอาหารกลางวัน ทานเสร็จเล่นต่อแล้วก็หยุดดื่มน้ำชาแล้วก็เล่นต่อจนถึงเย็นค่ำและเล่นกันหลายวันกว่าจะรู้แพ้รู้ชนะกัน
ในศตวรรตต่อมา คริกเก็ตแพร่หลายจากอังกฤษไปยังประเทศต่างๆ ทั้งในยุโรปและทวีปอื่นๆ และเมื่ออังกฤษไปครอบครองอาณานิคมในทวีปต่างๆ คนอังกฤษก็นำเอากีฬานี้ไปเล่นด้วย เช่นบริษัทอีสต์อินเดีย มีการนำมาเล่นในอินเดียและเอเชียจนเป็นที่รู้จักแพร่หลายและนิยมกัน แม้ต่อมาประเทศต่างๆ จะได้รับเอกราชจากอังกฤษแล้ว แต่ก็ยังนิยมเล่นคริกเก็ต ในปัจจุบันมีประเทศต่างๆ มากกว่าร้อยประเทศเล่นกันโดยเฉพาะประเทศในเครือจักรภพ ออสเตรเลีย ศรีลังกา และอินเดีย
ภาพยนตร์อินเดียเรื่อง Lagaan เป็นภาพยนตร์ที่บอกถึงความเป็นมาของคริกเก็ตในอินเดียในยุคที่อังกฤษปกครองอินเดียได้ดี ใครยังไม่ได้ชม ก็ไปหามาชมกันซะ จะทำให้ประทับใจในกีฬาคริกเก็ตได้เป็นอย่างมากโดยเฉพาะเมื่อชาวบ้านตาดำๆ เอาคริกเก็ตเป็นการต่อสู้กับมหาอำนาจผู้ปกครองที่ข่มขู่ด้วยการเรียกเก็บภาษี Lagaan จะเรียกว่าคริกเก็ตเพื่อเสรีภาพก็ไม่ผิด
คริกเกคคือ...
เมื่อทราบถึงความเป็นมาสั้นๆ แล้ว มาดูกันว่าคริกเก็ตคืออะไรและเล่นอย่างไร
คริกเก็ตคือ
คริกเก็ตไม่ใช่เป็นญาติกับแร้กเก็ตแน่นอน แต่เป็นกีฬากลางแจ้งชนิดหนึ่ง ที่ใช้ไม้ตีกับลูกบอลเป็นสำคัญ ลูกบอลมีขนาดเล็กเท่าประมาณลูกเทนนิสแต่ทำด้วยหนัง การเล่นก็คือขว้างลูกบอลเล็กๆ นี้ไปยังเสาไม้ 3 อันที่ปักในปลายลานสี่เหลี่ยมผืนผ้าอีกด้านหนึ่ง ในขณะที่คู่แข่งขันที่ยืนอยู่หน้าไม้ 3 อันนั้นต้องใช้ไม้ตีลูกบอลที่ขว้างมานั้นให้พ้นออกไป ดังนั้นคำอธิบายสั้นๆ ก็คือ ขว้างลูกบอล ตีลูกบอล วิ่งรับลูกบอลและวิ่งทำคะแนน ใครได้คะแนนทั้งจากการตีและการวิ่งมากกว่าก็ชนะไป
สั้นไปไหม คำอธิบายแค่นี้ อาจจะยังไม่เข้าใจนัก คงต้องติดตามอ่านกันต่อ...........เพราะตอนหน้าจะเริ่มเข้าสู่รายละเอียดของเกมส์แล้ว
ก่อนจะอ่านต่อต้องบอกว่าการหาข้อมูลเกี่ยวกับคริกเก็ตในภาษาไทยในอินเตอร์เน็ตหายากมากๆ เพราะไม่มีใครจัดทำไว้ ที่เห็นก็จะมีของสมาคมคริกเก็ตแห่งประเทศไทยซึ่งก็มีสั้นๆ และยังไม่สมบูรณ์และในเว็บของสมาคมคริกเก็ตตามเมืองเมืองใหญ่ที่สนใจกีฬานี้ ได้แก่เชียงใหม่ ภูเก็ต และอีกบางจังหวัดเท่านั้น
มิน่าล่ะ คนไทยจึงไม่สนใจคริกเก็ตเพราะไม่สามารถที่จะรู้และทำความเข้าใจเรื่องคริกเก็ตได้
ตอนหน้ามาเริ่มเข้าใจคริกเก็ตกัน.............
ไม่ต้องใช้สนามเลยเหรอค่ะ อย่างนี้ก็เล่นตามถนนหมู่บ้านได้ซินะค่ะ น่าสนุกดีค่ะ
คริกเก็ตเล่นในสนามครับ เป็นสนามรูปทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 22 หลา ตอนหน้าจะได้นำภาพมาให้ดูกันครับ แต่ที่เหลือเชื่อก็คือ เด็กิเดียที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักคริกเก็ตที่มีชื่อเสียงเช่นซาชิน เทนดุลการ์ต่างฝึกเล่นคริกเก็ตในทุกที่ที่ว่าง ในทุกสวนสาธารณะในอินเดียเราจะเห็นแต่คนเล่นคริกเก็ต พวกที่ไม่มีที่ก็ใช้ข้างถนนหรือแม้แต่ใถนนนี่ละครับเล่นคริกเก็ต ทำให้เกิดคำใหม่ขึ้นมา(ศัพท์ใหม่โดยผมเอง)ว่ากีฬาพื้นถนน เพิ่มจากกีฬาพื้นบ้านที่เรารู้จักกันดีแล้ว
การเล่นตามสวนหรือที่ว่าง ก็คือการฝึกขว้างและฝึกตีลูกน่ะครับ ตอนต่อไปจะได้อ่านวิธีการเล่นกันครับ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจและแวะมาทักทายกันครับ