กุลมาตา
นาง ธันยา พิชัยแพทย์(นามสกุลเดิม) แม็คคอสแลนด์

สรรเสริญ-นินทา..ไม่เพลินชัง-ไม่เพลินชอบ


"สรรเสริญ"..เป็นความจริงอยู่ว่า บุคคลใดแสวงหาการสรรเสริญ ย่อมไม่ได้รับการสรรเสริญแท้จริง บุคคลใดไม่ไยดีกับการสรรเสริญ ย่อมได้รับการสรรเสริญ...."นินทา"...ผู้นินทาคนอื่น คือผู้ไม่พึงใจในตนเอง ไม่มั่นใจในตนเอง การนินทาคนอื่น ทำให้เมตตาลดน้อยลง ยิ่งเมตตาน้อยลงเพียงใด จิตใจก็ห่อเหี่ยวมากเพียงนั้น ยิ่งจิตใจห่อเหี่ยวมากเท่าใด ชีวิตก็หมองเศร้ามากเท่านั้น .

 

 

 

 

บุพการีเราเขาเหยียบย่ำ

คนใจทรามหยามซ้ำทำลอกหลอก

สมองสัตว์เลื้อยคลานมารกลิ้งกลอก

อ้างบิดากล้าอ้างลอกตอกยั่วลวง

 

เอาตัวรอดปลอดภัยปากร้ายชั่ว

มุสายั่วชั่วช้าบ้าน่าห่วง

มิละอายแก่ใจใดทั้งปวง

กุข่าวร่วงลวงตกต่ำหยามน้ำใจ

 

บุพการีท่านเสียนานแล้ว

คนใจทรามต่ำไม่แคล้วแววไม่ใส

เอาท่านมาเหยียบย่ำให้ช้ำใน

ลูกหลานท่านเหมือนใครคนใจทราม

..

กุลมาตา

๒๒ เมษา ๒๕๕๔

แต่งต่อ ๒๖ เมษา ๒๕๕๔

 

ช่วงที่แต่งกลอนบทนี้..

อารมณ์ประมาณ “แค้น” “เอือมระอา”

ต่อใจและปากของผู้คนที่ร้าย โกง

งมงายกับเรื่องบุพการีของเรา..

และยังพาดพิงมาถึงเราอีกด้วย..ทั้งที่เราเป็นคนละคนกับท่าน

ก็ประมาณเดียวกับ..

พวกใจและปากร้าย “อยากแย่งลูก” นั่นล่ะค่ะ..

ลูกเข้า “Facebook” มาเข้าของลูก

แต่ไม่เข้าของแม่..ทั้งที่รู้จักกันดี

ถ้าไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ก็”ขอโทษ” ไว้ ณ ตรงนี้

แต่เพราะกระแส “แข่งแย่งลูก”..”แรง"..จนน่าเกลียด

ทั้งโลทั้งไฮ..เหมือนกัน..ไม่ได้ทำเพื่อเด็กเลย

ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเท่านั้น..

..

ดิฉันก็พยายามทำใจตลอดมาค่ะ..

มีแต่ “ธรรมะ” เท่านั้นที่..เข้าข้างแม่อย่างแท้จริง

ส่วนฝ่าย”อธรรม” นั้นก็เข้าข้าง “กิเลส” ของพวกเขา

ทั้งแช่งแม่ โจมตีแม่ แค่เพราะอยากได้ลูกครึ่งนั่นเอง

..

ดังนั้น..ดิฉันจึงค้นหาอ่าน ”ธรรมะ” ดีๆ มาฝากตัวเอง

และฝากท่านผู้อ่านที่ G2K ด้วย

จาก http://truth-yawaiam.blogspot.com

เรื่อง “สรรเสริญ-นินทา” ตามชื่อบันทึกวันนี้..

...


วันนี้มีเรื่อง"สรรเสริญ - นินทา"
ที่กระทัดรัดเข้าใจง่ายและเป็นของจริงทั้งสิ้น
คัดจากหนังสือ "มนุษย์"ของ "คุณศิวโมกข์ ก้องญาณ" มาฝาก


..........สรรเสริญ..........

สรรเสริญ
ย่อมเป็นที่ชื่นชมของผู้มีอัตตา
และเป็นที่นิยมของคนอ่อนแอ
แต่ย่อมไม่เป็นที่ใยดีของวิสุทธิชน
และไม่เป็นที่แยแสของผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็ง

หลักการมีอยู่ว่า
บุคคลที่ยังมีอัตตา
ไม่ควรได้รับการสรรเสริญ
เพราะการเยินยอทำให้หลงตน
อัตตาเติบโต
ความโง่แผ่คลุมมากขึ้น
ผู้ใดสรรเสริญผู้อื่นด้วยความกลัวเกรง
นับเป็นผู้ทำลายตัวเองด้วยใจเขลา
และทำร้ายผู้อื่นด้วยปัญญาเบา

เป็นความจริงอยู่ว่า
บุคคลใดแสวงหาการสรรเสริญ
ย่อมไม่ได้รับการสรรเสริญแท้จริง
บุคคลใดไม่ไยดีกับการสรรเสริญ
ย่อมได้รับการสรรเสริญที่แท้จริง

..........นินทา..........

ผู้นินทาคนอื่น

คือผู้ไม่พึงใจในตนเอง
ไม่มั่นใจในตนเอง

การนินทาคนอื่น
ทำให้เมตตาลดน้อยลง
ยิ่งเมตตาน้อยลงเพียงใด
จิตใจก็ห่อเหี่ยวมากเพียงนั้น
ยิ่งจิตใจห่อเหี่ยวมากเท่าใด
ชีวิตก็หมองเศร้ามากเท่านั้น

ยิ่งนินทาคนอื่นมากเท่าใด
ตัวผู้นินทาจะมีความระแวงมากเทียมนั้น
ไม่อาจคบหาผู้อื่นให้สนิทใจได้
และความผิดพลาดมากที่สุด
คือการไม่เปิดโอกาสให้ผู้อื่นวิจารณ์ตนอย่างตรงไปตรงมา
จนทำให้เขาต้องนินทาลับหลัง
เกิดผลเสียต่อตนเอง
ด้วยเขาย่อมไม่จริงใจ
เกิดผลเสียต่อผู้นินทา
ด้วยเขาย่อมขลาดกลัวมากขึ้น
เป็นการทำลายตนเองและจิตใจผู้อื่นอย่างเร้นลึก

           



ความเห็น (13)

สวัสดีค่ะ

คนบางคนที่ชอบเอาเรื่องของคนอื่นไปพูดในทางลบนั้น  เหมือนกับเขาเอาตัว

ของเขาเองไปเปิดเผยให้คนอื่นรู้  เพราะบางสิ่งบางอย่างเกิดจากปมด้อย

และจิตใต้สำนึกของเขาเอง  เพราะฉะนั้นยิ่งเขาพูดนินทาคนอื่นมากเท่าไหร่

เขาก็ยิ่งทุกข์มากเท่านั้น

อย่าไปกังวลกับเรื่องที่มีสาระน้อยเหล่านี้เลยนะคะ...

ค.ห.๑ คุณkrugui Chutima

ขอบพระคุณข้อคิดดีๆและกำลังใจที่มีให้ทุกๆบันทึกค่ะคุณครู

การปล่อยวางจาก "เสียงสรรเสริญ-นินทา" ได้ เป็น "มรรค" อันประเสริฐจริงๆค่ะ

ใครทำได้ก็หมดทุกข์ ทุกข์น้อยลง..จ๊ะเอ๋ แล้วบ๊ายบายกับเสียงนั้น

ใครทำไม่ได้ก็แบกทุกข์..เจ็บซ้ำๆ เมื่อปรุงแต่ง..นึกถึง..

คุณป้ากุลมาตาคะหนูชอบคำว่า

จ๊ะเอ๋ แล้วบ๊ายบาย

จังเลยค่ะจำได้ว่าหนูได้ยินครั้งแรกตอนไปปฏิบัติธรรมที่เสถียนธรรมสถาน

แม่ชีท่านชอบพูด

ถูกใจข้อนินทานี้มาก

เพราะปัจจุบันคน

เป็นกันมาก

จนคิดว่าคนไม่นินทาคือคนที่ผิดปกติแล้ว

ค.ห.๒ หนูวิมล๒๑๒

"เยี่ยม"มากค่ะ

ดีใจจังที่ทราบว่าหนูไปปฏิบัติธรรมที่เสถียรธรรมฯ

มิน่าล่ะ..ความคิดหนูที่ถ่ายทอดลงในบันทึก "เยี่ยม"มากค่ะ

น่าภูมิใจแทนคุณพ่อคุณแม่จริงๆค่ะ..

..

ป้าไปเสถียรธรรมฯ มาหลายปี สม่ำเสมอ พาลูกไปค่ะ

ท่านสอนเด็กๆอย่างหนูและลูกชายป้าให้เข้าใจง่ายๆ

เมื่อมีอารมณ์ใดๆมา โกรธ เกลียด ไม่พอใจ..จ๊ะเอ๋มัน แล้วก็รีบบ๊ายบาย ละจากกิเลส ความทุกข์นั้น

เด็กๆก็เข้าใจกัน ทำตามได้

ป้าเองถ้าไม่หลงอารมณ์ก็เตือนลูก แต่ผู้ใหญ่บางทีก็จ๊ะเอ๋ไม่ทัน ใช้อารมณ์ดุลูกไปบ้างค่ะ ป้าก็ขอโทษลูกทุกครั้งค่ะ

ค.ห.๓ คุณโสภณ เปียสนิท

จริงที่สุด เห็นด้วยที่สุด

มิน่าเพื่อนเก่าเลิกคบ เพราะเราพูดแต่เรื่องตัวเอง ไม่รวมกลุ่ม "ฮา" เรื่องคนอื่นเท่าไหร่

แต่ก็ดีค่ะท่านกวีธรรม..ศีลข้อ ๔ ของเรา จะได้มากขึ้นอีกนิด จากที่พูดไม่ดีเวลาโกรธ ขาดสติ

  • ธุ อาจารย์ค่ะ..
  • 

ต้อมผ่านวัน..ผ่านคืน..ที่เป็นช่วงเวลาแห่งการถูก "นินทา" มาประมาณหนึ่ง   สิ่งที่ต้อมทำก็คือ....เงียบ นิ่ง ไม่ตอบโต้   พอหลายๆ ครั้งเข้า "อารมณ์โกรธ" ก็มีมาพอเป็นกระสาย   แต่พอผ่านไปก็ "สงบ" ได้เหมือนกัน    สรุปแล้ว..ต้อมไม่สนใจเสียงนินทาเหล่านั้น  เพราะคนเหล่านั้นไม่ใช่คนที่ต้อมควรแคร์

เพราะด้วยเป็น "มนุษย์"  ก็เลยไม่สามารถหยุดอารมณ์ได้ง่าย (คนอื่นอาจจะง่าย)   อีกทั้งความคิดก็ซนเหมือนลิง (ชอบคิดมาก)   แต่ก็พยายามบอกตัวเองให้อดให้ทน และมีสรรเสริญ จึ่งมีนินทา  สุดท้าย "ช่างมัน" อิอิ  ^^

 

เป็นกำลังใจให้ทั้งตัวอาจารย์ และน้องออมนะคะ ^^

 

ตายล๊ะ!!!!!!!   ทำไมข้อความต้อมขึ้นหลายครั้ง  ก็ตอนกดส่งมันบอกว่า error  นี่นา   รบกวนอาจารย์ลบข้อความสองอันแรกด้วยนะคะ  และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย  คือต้อมไม่ได้เข้า G2K นาน จนไม่รู้ว่าต้องไปกดลบข้อความทิ้งที่ไหนน่ะค่ะ

ค.ห.๓ คุณเนปาลี

สรรเสริญ-นินทา..หนีไม่พ้นทุกผู้คน โลกธรรมจริงๆค่ะ

แก้ไขได้ที่ใจเราเท่านั้น อย่างที่น้องต้อมทำ..ถูกต้องค่ะ

..

ลบให้แล้วนะคะ เคยเจอแบบน้องต้อมด้วย นึกว่าเมนท์ไม่ขึ้น กดซ้ำๆ

ที่ไหนได้ขึ้นมาทุกครั้ง อิอิ

  • ธุ อาจารย์ค่ะ..

เดี่ยวนี้ต้อมชักจะเกิดอาการ "ชิน" กับการถูกนินทา  นึกให้ขำก็ขำ  นึกให้โมโหก็โมโหค่ะ   ^^ 

ต้อมชอบที่อาจารย์ดูแลน้องออมจัง   "เสถียรธรรมสถาน" เป็นที่ที่ต้อมอยากจะไปแต่ไม่มีโอกาส  เคยติดตามบ้างจากสื่อ  เห็นว่าร่มรื่น..ผู้คนยิ้มแย้ม..แจ่มใส..เบิกบาน   ถ้ามีโอกาสจะต้องไปให้ได้ค่ะ ^^ 

 

ขอบพระคุณสำหรับกุหลาบสีสวยที่นำไปฝากกันในบันทึกค่ะ  เช้านี้ของต้อมเลยสดชื่น ^^

ค.ห.๔ คุณเนปาลี

ขอบคุณน้องต้อมเช่นกันค่ะ

ที่อ่านบันทึกและเมนท์ทุกบันทึก

..

มีครอบครัวมากมายค่ะน้องต้อมที่ไปที่เสถียรธรรมฯ

ท่านแม่ชีมีโครงการ "จิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์"

"โครงการรร.พ่อแม่" ซึ่งช่วยพ่อแม่เลี้ยงลูกตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง

เป็นเรื่องที่ดีมากที่แม่จะปฏิบัติธรรม ใจสงบ เพื่อลูกในท้อง

เด็กที่เกิดมามีพื้นฐานดีตั้งแต่แรก เด็กดีค่ะน้องต้อม

..

จะแซวว่า..เมื่อไหร่แต่งงานมีลูก น่าไปเข้าโครงการค่ะ

หรือจะปฏิบัติธรรมที่ไหนที่ชอบก็ดีทั้งนั้น

พี่พาน้องออมไปตอน ๒ ขวบกว่า ยังไม่มีโครงการรร.พ่อแม่

หลังจากนั้นปีหรือสองปีก็มี พี่ชอบฟังธรรมจากท่านและชอบบรรยากาศ

น้องออมก็ชอบค่ะ เลยเป็นวัดที่ไปกันประจำ ทุกวันพระใหญ่ วันพ่อวันแม่ และทุกอาทิตย์

..

อย่างที่คุยกันไว้ล่ะค่ะ

สังคมในด้านไม่ดี ที่แวดล้อมตัวเด็ก ทำให้พ่อแม่ต้องหันมาพึ่งวัดกันค่ะน้องต้อม

ถ้าพ่อแม่ไม่พาลูกไป..ยากมากที่จะสอนเขาให้สวนกระแสสังคมที่ไม่ดีเช่น แข่งกันจนเว่อร์

อย่างที่น้องต้อมเมนท์ ธรรมะจะช่วยเด็กๆให้ "ให้" เป็น ไม่ใช่เอาแต่ตัว "เอา" อย่างเดียวค่ะ

  • อาจารย์คะ..

ต้อมเคยอ่านเจอจากสื่อเรื่องโครงการ "จิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์"  ต้อมว่าน่าสนใจมาก  และชื่นชอบโครงการนี้   รวมทั้งต้อมชอบคำว่า "ให้"  มากกว่าคำว่า "ได้"

อย่าแซว..ว..ว..ว..ว..ว..ว เรื่องแต่งงาน อิอิ  อ้อ อาจารย์ไม่รู้ล่ะสิว่าต้อมเป็นสมาชิกเหนียวหนึบของชมรมรักแห้วคลับ  ภายหลังชื่อนี้ดูไม่งาม  พี่ๆ เลยเปลี่ยนเป็นชมรมคานทอง(ฝังเพชร) จำกัด มหาชน  ขอบอกๆๆ

พี่ขจิตก็เป็น 1 ในสมาชิกด้วยนะคะ  ^^  ส่วนท่านอื่นมิกล้าเอ่ยนาม  แต่สมาชิกเดิมๆ จะรู้กัน อุ๊บ!

ขอขอบพระคุณ คุณป้ากุลมาตาอย่างยิ่งนะคะ

ได้อ่านข้อความที่คุณป้าได้กรุณาชมแล้ว

ลอยเลยในทันทีค่ะ

ยิ่งคุณป้าชมยิ่งอยากกลับไปที่เสถียรธรรมสถานอีก

แต่เด็กต่างจังหวัดอย่างหนูคงไม่ได้มีโอกาสได้ไปบ่อยๆ

เว็บไซต์ GotoKnow ให้หนูมากกว่าความรู้จริงๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท