BEST PRACTICE
ชื่อ BP ภาษาไทยกับการแบ่งปัน(แหล่งเรียนรู้จากภายในสู่โลกกว้างทางเว็บไซต์)
ชื่อเจ้าของชิ้นงาน นายสมเกียรติ คำแหง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช่วงชั้นที่ ๔ โรงเรียนสตรีทุ่งสง
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช เขต ๑๒
๑. ความเป็นมา
การแบ่งปันแหล่งเรียนรู้ทางภาษาไทยของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ทางอินเตอร์เน็ต นั้นเริ่มมีมาตั้งแต่ ปีการศึกษา ๒๕๔๒ - ปัจจุบัน เว็บไซต์
http://www.gotoknow.org/blog/som-kiat http://www.gotoknow.org/blog/som-kiat/441191
เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ด้านต่างๆการสอน.เป็นการพัฒนาทั้งด้านปริมาณและคุณภาพด้านเนื้อหา รูปแบบ ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายและกว้างขวางขึ้นไปตามลำดับตามของความต้องการของผู้สนใจ จากประสบการณ์ของผู้จัดทำ อย่างต่อเนื่องไม่เคยหยุดนิ่ง โดยมีมูลเหตุแรงจูงต่าง ๆ ดังนี้
๑.๑ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หมวด ๔ แนวการจัดการศึกษาผู้เรียนสำคัญที่สุด
มาตรา ๒๔ ...ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน อำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ...ผู้สอนและผู้เรียนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกันจากสื่อและแหล่งเรียนรู้ ที่หลากหลาย
มาตรา ๒๕ : บทบาทของรัฐในการส่งเสริมแหล่งเรียนรู้ โดยการส่งเสริมดำเนินงานและจัดตั้งแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต
พระราชบัญญัติได้กำหนดไว้เช่นนั้น แต่ในขณะนั้น ทั้งครูและนักเรียนไม่มีแหล่งเรียนรู้ที่จะมานำจัดกระบวน การเรียนรู้ได้เลย อินเตอร์เน็ตในช่วงนั้นยังเป็นการใช้เพื่อความบันเทิง เพื่อสนทนาพูดคุยมากกว่าจะที่เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์หรือเนื้อหาด้านการเรียน
๑.๒ ความพร้อมด้านโครงสร้างด้านพื้นฐาน และการให้โอกาสของผู้บริหาร ในปีการศึกษา ๒๕๕๔ มีนโยบายในการนำเทคโนโลยี มาใช้เพื่อการบริหารจัดการและการเรียนการสอน จึงได้จัดพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีขึ้น
ด้านการเรียนการสอนในเบื้องต้นเป็นการนำไปใช้เพื่อสอนวิชาคอมพิวเตอร์ซึ่งยังไม่คุ้มค่าและไม่ทั่วถึง เพื่อให้เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยโดย นายสมเกียรติ คำแหงจึงได้จัดทำ
เว็บไซต์ภาษาไทย เพื่อนักเรียนเข้าสืบค้น เนื้อหาความรู้จากใบความรู้ ใบงาน แบบฝึกหัด แบบทดสอบเพิ่มขึ้นใช้ชื่อว่า”การศึกษา” http://www.gotoknow.org/blog/som-kiat
๑.๓ ความต้องการของกลุ่มผู้สนใจ อันได้แก่ นักเรียน เพื่อนครู ผู้ปกครอง ผู้สนใจภาษาไทยทั้งในและนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ได้ติดต่อผ่าน e mail และสมุดเยี่ยม มาเพื่อขอความรู้ คำแนะนำ คำปรึกษาต่าง ๆ เกี่ยวกับภาษาไทยตั้งแต่ช่วงชั้นที่ ๒ – ระดับอุดมศึกษา
เพื่อสนองความต้องการของกลุ่มผู้สนใจ จึงได้เปิดBlogที่ gotoKnow ชื่อ การศึกษาภาษาไทยนำเสนอข้อค้นพบจากห้องสอน การออกแบบการสอนที่http://www.gotoknow.org/blog/som-kiat และ
บริการตอบคำถามที่ http://www.gotoknow.org/blog/users/som-kiat/view
๒. ผลงานความสำเร็จ
ด้านปริมาณ
๑) มีเว็บแสดงจำนวนเรื่องเนื้อหาภาษาไทย และมีผู้เข้าศึกษาดังนี้
ชื่อบันทึก |
อ่าน/คน |
ความเห็น/คน |
49 |
0 |
|
72 |
0 |
|
56 |
0 |
|
70 |
0 |
|
168 |
1 |
|
294 |
1 |
|
96 |
0 |
|
75 |
0 |
|
108 |
0 |
|
206 |
0 |
|
231 |
2 |
|
389 |
4 |
|
440 |
3 |
|
165 |
0 |
|
143 |
0 |
|
332 |
0 |
|
145 |
0 |
|
220 |
0 |
|
374 |
2 |
|
176 |
0 |
|
3678 |
3 |
|
2030 |
7 |
|
1439 |
1 |
|
1451 |
0 |
|
4504 |
5 |
|
412 |
9 |
ด้านคุณภาพ
๑) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยโรงเรียนสตรีทุ่งสงมีแหล่งเรียนรู้ทางเว็บไซต์ที่สามารถบริการแก่นักเรียน ครู ผู้ปกครองและบุคคลทั่วไปค่อนข้างสมบูรณ์และทั่วถึง
๒) เว็บไซต์ http://www.gotoknow.org/blog/som-kiat ที่จัดทำสร้างความพึงพอใจให้กับผู้รับบริการเชิงประจักษ์ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ
๓. วิธีการ / ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ
๓.๑ จุดเริ่มต้นเป็นการทำงานที่สนองตามพระราชบัญญัติ “เพื่อให้มีแหล่งเรียนรู้ที่ไม่จำกัดด้วเวลาและสถานที่”
๓.๒ ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า บนความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยแนวคิด "ถ้าครูคิดผลิตสื่อ ๑ ชิ้น แล้วไม่เผยแพร่ สื่อชิ้นนั้นสอนเด็กได้เพียงปีละ ๑๐๐ คน แต่หากครู นำสื่อชิ้นนั้นมาเผยแพร่สามารถสอนเด็กได้ทั่วประเทศ ทั้งได้ช่วยเหลือครูภาษาไทยรุ่นใหม่ ๆ อีกด้วย"
๓.๓ สนองความต้องการของผู้ใช้บริการ เมื่อไม่มีเนื้อหาคำอธิบาย ก็ทำให้มี เมื่อไม่มีแบบฝึกหัดเว็บเพจที่นำเสนอแต่เนื้อหาขาดความน่าสนใจ ทบทวนความรู้ไม่ได้ ไม่มีแบบทดสอบ ครูมือใหม่ไม่มีแนวทางในการสอน ทำแผนการสอนไม่เป็น เด็กทำการบ้านไม่ได้ หาแหล่งเรียนรู้ที่ครูสั่งไม่ได้ ให้แนวทาง ผู้ปกครองอยากจะช่วยอธิบายลูกแต่ไม่เข้าใจวิธีการ องค์กรทางการศึกษา ต้องการสร้าง
เครือข่ายแหล่งเรียนรู้ภาษาไทยที่เป็นสื่อกลางของครู นักเรียนและบุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นเว็บ
ระดับประเทศ ก็จัดทำให้มีขึ้นเพื่อสนองความต้องการของใช้บริการ
ผลงานทั้งหมดที่เกิดขึ้น เติบโตและขยายอย่างต่อเนื่องล้วนแต่เกิดจากความเป็น “ผู้ให้” โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนในรูปแบบใดๆ
๔ เงื่อนไขความสำเร็จ
๔.๑ ด้วยใจที่มุ่งมั่นปรารถนาให้มีเว็บภาษาไทยที่เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สมบูรณ์ของคนไทย
๔.๒ ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานมีทรัพยากรด้านเทคโนโลยี และบุคลากรที่มีความชำนาญเสียสละคอยช่วยเหลือแก้ปัญหาในการจัดการข้อมูล
๔.๓ การเปิดกว้างและให้โอกาสของผู้บริหารที่อนุญาตให้ครูได้ทำในสิ่งที่รัก ตรงกับความถนัดตลอดจนการให้ขวัญและกำลังใจ
๔.๔ ความต้องการของผู้ใช้บริการที่เข้ามาใช้บริการไม่สิ้นสุด มีมารยาทและรู้จักการให้กำลังใจผู้จัดทำ
๔.๔ นโยบายขององค์กรระดับประเทศคือสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน ของ สพฐ.ที่ต้องการ
จัดทำเว็บภาษาไทยที่เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของครู ช่วยเหลือนักเรียน ให้คำปรึกษาแก่ผู้ปกครองและผู้สนใจในภาษาไทย
๕. ข้อจำกัดในการนำไปใช้
๕.๑ ความสะดวกรวดเร็วของการเข้าถึงข้อมูล
๕.๒ ความเหมาะสมของการออกแบบการสอนที่สอดคล้องกับแหล่งเรียนรู้
๕.๓ ความพร้อมของการบริการอินเตอร์เน็ตของโรงเรียน
๕.๔ ทักษะการสืบค้นการใช้งานอินเตอร์เน็ตของครู นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้สนใจ
๖. บทเรียนที่ได้รับ / ความภาคภูมิใจ
๖.๑ นักเรียน นักศึกษา เพื่อนครู ผู้ปกครอง และผู้สนใจภาษาไทยมีแหล่งเรียนรู้ให้สืบค้น
๖.๒ เว็บไซต์ และบล็อกที่เป็นแหล่งเรียนรู้ภาษาไทยในความรับผิดชอบ พัฒนา เติบโต ขยาย ทั้ง
ด้านปริมาณและคุณภาพ
๖.๓ ความพึงพอใจ กำลังใจ คำชมเชย คำอวยพรจากผู้ใช้บริการที่เขียนส่งมาวันละหลาย ๆ คน
๖.๔ การยอมรับความเชื่อถือจากเพื่อนครูทั่วประเทศ และการยอมรับจากองค์กรระดับประเทศที่
ผู้แบ่งปันแหล่งเรียนรู้ภาษาไทยของโรงเรียนสตรีทุ่งสงซึ่งมีความสุขในการแบ่งปันอย่างต่อเนื่องและยาวนาน มีความความคาดหวังว่าการนำเสนอในครั้งนี้จะเป็นการจุดประกายของการขยายพันธุ์แห่งการแบ่งปันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
BEST PRACTICE
ชื่อ BP ภาษาไทยกับการแบ่งปัน
(แหล่งเรียนรู้จากภายในสู่โลกกว้างทางเว็บไซต์)
ชื่อเจ้าของชิ้นงาน นายสมเกียรติ คำแหง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช่วงชั้นที่ ๔
โรงเรียนสตรีทุ่งสง
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช เขต ๑๒
เป็นแบบให้ครูได้ส่งเสริมนักเรียนให้เรียนรู้อึกวิธหนึ่ง ที่ดีมากค่ะ
เป็นแบบให้ครูได้ส่งเสริมนักเรียนให้เรียนรู้อึกวิธหนึ่ง ที่ดีมากค่ะ