สวัสดีท่านสมาชิกทุกท่านครับ ผมเพิ่งกลับมาจากการอบรมพัฒนาหลักสูตรตามนโยบายใหม่มาครับ เดี๋ยวนี้ มีคำอัตตลักษณ์ มาพวกเราก็ต้องพัฒนากันตามระบบของหน่วยงานทางการศึกษากันครับ สนุกดี เช้านี้พี่ ๆ อยากให้ผมทำน้ำพริกกะปิให้ทาน ผมจึงนำเสนอ น้ำพริกกะปิสุดอร่อยนะครับ (อร่อยของใครกันแน่นะ) เริ่มเลยนะครับ
ขั้นเตรียมการ
1.กะปิอย่างดี 2.แมงดา(หากชอบนะครับ)ล้างและเด็ดปีก หัวออกและปลายขาที่คมออก 3.พริกขี้หนูสวน 4.กระเทียมไทยแท้(หัวเล็ก)ปอกแล้วเป็นกลีบสัก 5-10 กลีบเล็ก ๆ นะครับ(แล้วแต่ชอบครับ) 5.น้ำมะนาวคั่นแล้วประมาณ 1-3 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำตาลปีบอย่างดี 7.มะเขือเหลือง ปอกเอาผิวออก สัก 1-2 ลูก(ทำเป็นเมือดครับ) 8.น้ำปลาอย่างดี 9.น้ำสะอาดหรือน้ำที่ต้มสุกแล้ว 10.อย่าลืมครกด้วยนะครับ(กันลืมครับ)
ขั้นลงมือปฏิบัติการครับ
นำกระเทียม5-10กลีบ มาโขลกแล้วแต่ชอบนะครับ ตามด้วยแมงดา(ถ้าชอบนะครับ)ที่ฉีกเป็นชิ้น ๆ ให้ละเอียดพอสมควร แล้วใส่กะปิสัก 1 ช้อนโต๊ะ โขลกให้ละเอียดพอสมควรตามด้วยมะเขือเหลืองที่ปอกผิวออกแล้วประมาณ1-2 ลูกเพื่อทำเป็นเมือดของน้ำพริกโขลกให้เข้ากันพอสมควรแล้วตามด้วยพริกขี้หนูสวนประมาณ 5-10 เมล็ด(ชอบเผ็ดมากก็ใส่มากครับ เผ็ดน้อยลดปริมาณได้ครับ) อย่าโขลกให้ละเอียด พอบุบ ๆ ก็พอครับ ตามด้วยน้ำมะนาวที่คั้นแล้วประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะครับพร้อมกับน้ำตาลปีบ 1-2 ช้อนโต๊ะใส่น้ำปลานิดหน่อยครับ(ตามรสชาดที่ชอบครับ) เสร็จแล้วใช้ช้อนเคล้าให้ทั่วและตักใส่ถ้วยครับ สุดท้ายนำน้ำสะอาดหรือน้ำสุกใส่ลงในครกประมาณ1-2ช้อนโต๊ะ เพื่อคลุกกับน้ำพริกที่เหลือในครก ตักใส่ถ้วยผสมกับน้ำพริกที่ตักไปแล้วตอนแรก ชิมรสชาดอีกครั้ง ชอบรสใดเติมได้ตามชอบอีกครั้งนะครับ น้ำพริกกะปิของไทยเป็นอาหารที่คู่มากับครัวไทยมาตลอดนะครับ รับประทานกับปลาทูกับผักต่าง ๆ เป็นประโยชน์มากครับแถมอร่อยและทำให้สุขภาพดีด้วยนะครับ วันนี้คงจบการนำเสนอเพียวเท่านี้นะครับ ขอให้สมาชิกทุกท่านมีสุขภาพดีกันทุก ๆ ท่านนะครับ
วรกาญจน์
มะเขือเหลืองที่บ้านเรียกมะอึก ใส่ส้มตำก็อร่อยค่ะ
ชอบทานน้ำพริกกะปิ ได้มะเขือสด ผัก ปลาสลิดทอด...แซบหลาย
สวัสดีค่ะ'อ.ดร.วรกาณจน์'
ขอบคุณมากค่ะ
'สูตรน้ำพริกกะปิสุดอร่อย'
ดีใจที่อาจารย์อยู่ไม่ไกลจากผม คงมีโอกาสได้นัดพบกันนะครับ ชอบน้ำพริกแมงดา เดี๋ยวนี้แมงดาหายาก
กะปิ ที่ไร่แม่เอากุ้งมาทำกะปิเอง อร่อยมากครับ...
ชอบน้ำพริก
น้ำพริกปรับสมดุลย์
น้ำพริกพาขึ้น
น้ำพริกพาลง
ล้วนอร่อยทั้งสิ้น