รัฐมนตรีคลังมั่นใจ จัดเก็บรายได้ปีนี้ไม่กระเทือน แต่พร้อมลดรายจ่ายปีหน้า หนุนขาดดุลลดลงอีก 7 หมื่นล้าน
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีคลัง กล่าวว่าการจัดทำงบประมาณในปีงบประมาณ 2555 อาจต้องพิจารณาทบทวนรายจ่ายต่าง ๆ โดยจะขาดทุนลดลงอีก 7 หมื่นล้านบาท ดีขึ้นจากปีงบประมาณ 2554 ที่ขาดดุล 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลยืนยันนโยบายจัดทำงบประมาณสมดุล ภายใน 4 ปีข้างหน้า
รัฐมนตรีคลังเชื่อว่า การจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2554 จะไม่มีปัญหา แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิจากประเทศญี่ปุ่น จนไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ได้ตามกำหนด แต่ไม่กระทบการจัดเก็บรายได้ในครึ่งปีงบประมาณ 2554 เชื่อว่ายังจัดเก็บได้เกินเป้าหมาย ทำให้เพียงพอต่อการเบิกจ่าย
ด้านบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าหากกำหนดการทางการเมืองเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คือ ภายในวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 และการจัดการเลือกตั้งทั่วไปปลายเดือนมิถุนายน ถึงต้นกรกฎาคม ภาวะสุญญากาศทางการมืองที่เกิดขึ้นไม่น่าจะกระทบสถานะทางการคลัง หากการจัดเก็บรายได้ยังสามารถทำได้เกินเป้าหมาย สำหรับการบังคับใช้กรอบงบประมาณ 2555 อาจจำเป็นต้องเลื่อนออกไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามา ซึ่งจะกินเวลาเบื้องต้นไม่เกิน 1 ไตรมาสนั้น มองว่าการเบิกจ่ายของหน่วยงานภาครัฐที่ยังดำเนินการได้ ภายใต้กรอบงบประมาณปี 2554
นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร MPA คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า พ.ร.บ.งบประมาณปี 2555 มูลค่า 2.25 ล้านล้านบาท ซึ่งปกติจะเสร็จสิ้นในเดือนสิงหาคม อาจจะต้องยืดเวลาออกไป ไม่ทันประกาศใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้สะดุดได้ แต่ข้อดีก็คือการมีรัฐบาลใหม่เข้ามา ก็อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายใหม่ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเชิงจิตวิทยา และเป็นแรงส่งทางเศรษฐกิจไปถึงปลายปีนี้ได้
รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจึงต้องดูแลปัญหาข้าวของแพง รวมถึงต้องกระจายและจัดโครงสร้างการส่งออกให้ดี เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยต้องเน้นไปยังจีน อินเดีย และกลุ่มอาเซียน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมาก และมีศักยภาพการเติบโตสูงเป็นเป้าหมายในการส่งออก
หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 28 เมษายน 2554
ไม่มีความเห็น