ในสถานการณ์ปัจจุบัน แทบทั่วทุกภูมิภาคของโลกดูเหมือนว่ามนุษย์โลกเริ่มมีปัญหาและไม่เข้าใจกันมีแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุปัจจัยอะไรก็ยากที่จะเดาใจมนุษย์ได้ ทำให้นึกถึงนิทานเก่าที่เล่าขานกันมา เชื่อว่าหลายท่านคงได้รับรู้มาบ้างแล้ว เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
“นับตั้งอดีตกาลนานมา...ตีนกับตา อยู่กันมา แสนผาสุก จะนั่งลุก ยืนเดิน เพลินหนักหนา มาวันหนึ่ง ตีนเฉลย เอ่ยวาจา ตีนมีค่า กับตา เสียจริงจริง เพราะช่วยพา ตาไป ที่ต่างต่าง ตาจึงได้ ชมนายนาง แลทุกสิ่ง เพราะฉะนั้น เจ้าดวงตา โปรดประวิง ตีนคือสิ่ง ที่ตา ต้องบูชา
พอตาฟัง ตีนคุ้ยโม้ แสนหมั่นไส้ จึงร้องบอก ออกไป ด้วยโทสา ว่าที่ตีน เดินเหินได้ ก็เพราะตา เห็นมรรคา เศษแก้วหนาม ไม่ตำตีน เพราะฉะนั้น ตาจึง สำคัญกว่า ตีนอย่ามา เอ่ยอ้าง คิดดูหมิ่น สรุปแล้ว ตามีค่า มากกว่าตีน ทั่วธานินทร์ ตีนไปได้ ก็เพราะตา
เมื่อตีนฟัง ให้คั่งแค้น แสนจะโกรธ เลยกระโดด ออกไป ใกล้หน้าผา ด้วยอวดดี คุยเบ่ง เก่งกว่าตา ดวงชีวา จะดับไป ไม่รู้เลย
ตาเห็นตีน ทำเก่ง เร่งกระโดด ก็พิโรธ แกล้งระงับ หลับตาเฉย ทำให้ตีนพาตา ถลาล้ม ทั้งก้มเงย ก็ลงเอย ตกหน้าผา ทั้งตาตีนฯ”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...
ผมว่าปัญหาปัจจุบัน เป็นเรื่อง นิทาน ผีจัดระเบียบคนมานอนบ้านร้างให้มันเท่ากันมากกว่า
ซึ่งในที่สุดผีนั้นก็ต้องยอมแพ้สัจธรรม