การบูรณาการการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน
ผู้วิจัย นางรุ่งทิพย์ กล้าหาญ
ปีที่ทำวิจัยเสร็จ พ.ศ. 2551
ประเด็นการวิจัย รูปแบบการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับปัญหาวิกฤตสังคมไทย
ลักษณะงานวิจัย งานวิจัยหน่วยงาน
ประเภทการวิจัย การวิจัยในชั้นเรียน
ความเป็นมาของการทำวิจัย
ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ส่งผลกระทบต่อสภาพชีวิตและสังคมของคนไทย ดังปรากฏการณ์โลกร้อน การเสื่อมโทรมสูญหายของทรัพยากรธรรมชาติ จนนำสู่ประเด็นปัญหาเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรมหรือการขัดแย้งทางสังคม ซึ่งได้มีความพยายามแก้ไขในหลายลักษณะ ที่สำคัญคือ การใช้กลไกทางการศึกษาเพื่อสร้างความตระหนักและจิตสำนึกต่อการป้องกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มประชาชนทั่วไป และสร้างการเรียนรู้เพื่อนำสู่พฤติกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มเยาวชนในสถานศึกษา หากแต่สภาพปัจจุบันการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมยังคงมีข้อจำกัด ด้วยเน้นสาระทางวิชาการ มีลักษณะแยกส่วน ขาดการเชื่อมโยงบูรณาการ ไม่ตอบสนองความจริงทางสังคมวัฒนธรรมที่เกี่ยวพันต่อสิ่งแวดล้อม จึงไม่สามารถสร้างพฤติกรรม จิตสำนึกและลักษณะนิสัยการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
อนึ่ง พันธกิจของมหาวิทยาลัยนอกจากการจัดการเรียนการสอนเพื่อผลิตบัณฑิต งานบริการวิชาการแก่ชุมชนถือเป็นพันธะสำคัญเช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อชุมชนกำลังประสบปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยจึงต้องช่วยชาติโดยการบูรณาการการเรียนรู้สู่ชุมชน พร้อมกับมีกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้นักศึกษาได้เกิดการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน
โดยนัยนี้ จึงก่อเกิดแนวคิดการบูรณาการการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อมุ่งหวังสร้างประสบการณ์การเรียนรู้และการปฏิบัติที่ต่อเนื่องในสถานการณ์จริง มีการเชื่อมโยงระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้นักศึกษาเกิดความเข้าใจและตระหนักต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อมชุมชน เกิดความรู้สึกว่าต้องการเรียนรู้ เพื่อนำไปบูรณาการใช้ในการดำเนินชีวิต ด้วยการฝึกฝนเชื่อมโยงสาระการเรียนรู้กับสภาพความเป็นจริง ก่อเกิดมโนทัศน์และนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนในสถานการณ์จริง อันเป็นการสร้างจิตสำนึกสาธารณะเพื่อชุมชน
วัตถุประสงค์
แนวคิดที่เกี่ยวข้อง
1.แนวคิดการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ
2.แนวคิดการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน(Community-based learning)
3.แนวคิดการเรียนการสอนตามสภาพจริง (Acthentic learning)
3.1.การเรียนรู้เชิงประสบการณ์
3.2. การเรียนรู้เชิงสถานการณ์
3.3. การเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมแบบค้นหา
3.4. การเรียนรู้แบบโครงงาน
4. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
กรอบคิดในการวิจัย
การเรียนการสอนแบบบูรณาการเป็นการนำความรู้จากเนื้อหาวิชามาผสมผสานเป็นเรื่องเดียวกัน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้แบบองค์รวม และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ซึ่งเมื่อนำมาเชื่อมโยงกับการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน จึงเสมือนผสานพลังการเรียนรู้ ที่ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในชุมชน ทั้งการเรียนรู้จากชุมชนและสร้างให้ชุมชนเกิดการเรียนรู้ จัดเป็นการเรียนรู้ตามสภาพจริง เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง สร้างการมีส่วนร่วมในการวางแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีความหมาย ตรงกับความสนใจของผู้เรียน โดยผู้สอนมีบทบาทเป็นนักจัดการผู้เอื้ออำนวยการเรียนรู้ ผ่านเทคนิควิธีการสอนที่หลากหลายเช่น การศึกษาด้วยตนเอง การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ การเรียนรู้เชิงสถานการณ์ การเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมแบบค้นหา การเรียนรู้แบบโครงงาน และการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา โดยมีเป้าหมายให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง ตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้ ก่อเกิดการพัฒนาในหลายมิติทั้งความจำ เหตุผล ความซาบซึ้งสุนทรียภาพ การติดต่อสื่อสาร การปรับตัวและจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน
ระเบียบวิธีวิจัย ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยมีวิธีการดังนี้
ก. การกำหนดขอบเขตการวิจัย
ด้านประชากร ได้แก่ นิสิตชั้นปีที่ 3 จำนวน 17 รูป สาขาวิชาเอกสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาวิทยาการสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2551
ด้านเนื้อหา ได้แก่ วิชาวิทยาการสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน จำนวน 3 หน่วยกิต
ข. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
1. แผนการเรียนรู้วิชาวิทยาการสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน ซึ่งประกอบด้วยแผนย่อยจำนวน 11 แผน สำหรับการเรียนรู้จำนวน 48 คาบ ดังนี้
1) แผนการเรียนรู้ที่ 1 สิ่งแวดล้อมชุมชน จำนวน 6 คาบ
2) แผนการเรียนรู้ที่ 2 เทคนิคการศึกษาชุมชน จำนวน 3 คาบ
3) แผนการเรียนรู้ที่ 3 การฝึกปฏิบัติงานศึกษาชุมชน จำนวน 6 คาบ
4) แผนการเรียนรู้ที่ 4 เทคนิคการเขียนโครงการพัฒนาชุมชน จำนวน 3 คาบ
5) แผนการเรียนรู้ที่ 5 เรื่องเล่าจากชุมชน จำนวน 3 คาบ
6) แผนการเรียนรู้ที่ 6 ข้อเสนอโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน จำนวน 3 คาบ
7) แผนการเรียนรู้ที่ 7 เทคนิคการวิเคราะห์และประเมินโครงการ จำนวน 3 คาบ
8) แผนการเรียนรู้ที่ 8 การวิเคราะห์และพัฒนาข้อเสนอโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน จำนวน 3 คาบ
9) แผนการเรียนรู้ที่ 9 การปฏิบัติโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน จำนวน 9 คาบ
10) แผนการเรียนรู้ที่ 10 การรายงานโครงการ จำนวน 3 คาบ
11) แผนการเรียนรู้ที่ 11 การเติมเต็มและศึกษาดูงานกรณีศึกษา จำนวน 3 คาบ
11) แผนการเรียนรู้ที่ 11 การสรุปบทเรียน จำนวน 3 คาบ
2. เอกสารคู่มือการปฏิบัติงานชุมชน
2.1.เทคนิคการปฏิบัติเพื่อการทำงานร่วมกับชุมชน
2.2. เทคนิคการศึกษาสิ่งแวดล้อมชุมชน
2.3. เทคนิคการเขียนโครงการ
2.4. แบบวิเคราะห์ข้อเสนอโครงการ
2.5. เทคนิคการเขียนรายงานโครงการ
3. เอกสารแบบบันทึกการเรียนรู้ภาคสนาม
4. แบบทดสอบวัดสัมฤทธิ์ผลการเรียนรายวิชาวิทยาการสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน
5. แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้
ค. ขั้นตอนการวิจัย
1.ขั้นตอนที่ 1 วาดฝันเส้นทางการเรียนรู้ โดยผู้สอนออกแบบแผนการเรียนรู้จำนวน 11 แผน พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจลักษณะกระบวนการเรียนรู้ในรายวิชาแก่นิสิต วิธีการวัดประเมินผล มอบหมายงาน และเอกสารคู่มือการปฏิบัติงานชุมชน
2.ขั้นตอนที่ 2 ปลูกปัญญาวิชาการ โดยผู้สอนดำเนินการสอนเนื้อหาสถานการณ์สิ่งแวดล้อมชุมชน และแนวทางแก้ไข รวมทั้งนำเสนอกรณีตัวอย่างชุมชนที่มีผลงานดีเด่นด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชน ตลอดจนการนำพาศึกษากรณีชุมชนตัวอย่าง ขั้นตอนนี้ใช้เวลา 9 คาบ
3.ขั้นตอนที่ 3 แนะกลวิธีศึกษาชุมชนและการจัดทำโครงการ โดยผู้สอนดำเนินการสอนเทคนิควิธีการศึกษาและวิเคราะห์ชุมชน วิธีการเขียนข้อเสนอโครงการ การวิเคราะห์โครงการ การประเมินโครงการและการเขียนรายงานโครงการ
4.ขั้นตอนที่ 4 ฝึกปฏิบัติศึกษาสิ่งแวดล้อมชุมชน เป็นการมอบหมายให้ผู้เรียนศึกษาชุมชนเป็นระยะเวลา 6 คาบ 2 สัปดาห์และกำหนดให้นำเสนอผลการศึกษาชุมชนทุกสัปดาห์
5.ขั้นตอนที่ 5 ยกร่างและพัฒนาโครงการ เป็นการมอบหมายให้ผู้เรียนจัดทำข้อเสนอโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน และวิเคราะห์โครงการเพื่อการพัฒนาร่วมกัน จนนำสู่โครงการที่มีความเหมาะสมสามารถนำสู่การปฏิบัติจริง
6.ขั้นตอนที่ 6 การขับเคลื่อนโครงการสู่ชุมชน เป็นการมอบหมายให้ผู้เรียน จัดทำโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน เป็นระยะเวลา 9 คาบ 3 สัปดาห์ ทั้งนี้โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน
7.ขั้นตอนที่ 7 สรุปผลแบบมีส่วนร่วมและนำเสนอรายงานผลโครงการ เป็นการมอบหมายให้ผู้เรียนสรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ ต่อชุมชน และจัดทำเอกสารรายงานเพื่อนำเสนอต่อรายวิชา
8.ขั้นตอนที่ 8 การสรุปบทเรียนและการทดสอบ เป็นการสรุปผลการเรียนรู้ของผู้เรียนอันเกิดจากการกิจกรรมที่ปฏิบัติจริงในชุมชน รวมทั้งการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ง. การเก็บรวบรวมข้อมูล
ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลหลายด้านได้แก่ การสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน เอกสารบันทึกการเรียนรู้ภาคสนาม การจัดเวทีการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน การนำเสนอรายงานการศึกษาสิ่งแวดล้อมชุมชน การจัดทำข้อเสนอโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน การสรุปบทเรียน และการทดสอบสัมฤทธิ์ผลทางการเรียน จากนั้นจึงนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ตามจุดประสงค์ สรุปข้อค้นพบรูปแบบ วิธีการและผลการบูรณาการการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน และนำเสนอแบบพรรณา
ผลการวิจัย
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยดำเนินการวัดประเมินผลตามสภาพจริงที่มีการเก็บคะแนนระหว่างเรียน 70 คะแนนและปลายภาค 30 คะแนน ประกอบด้วยคะแนนจากการศึกษาชุมชน 15 คะแนน การจัดทำและพัฒนาข้อเสนอโครงการ 10 คะแนน การปฏิบัติตามโครงการและสรุปรายงานผลโครงการ 25 คะแนน เอกสารบันทึกการเรียนรู้ภาคสนาม 10 คะแนน พฤติกรรมการเรียนรู้ 5 คะแนน การสรุปบทเรียนและนำเสนอรายงานผลโครงการ 5 คะแนน การทดสอบภาคปลาย 30 คะแนน พบว่า มีนิสิตมีระดับผลการเรียนในระดับที่ดีถึงดีมาก คือ มีผลการเรียนระดับ A จำนวน 8 รูป ระดับ B + จำนวน 5 รูป และระดับ B จำนวน 4 รูป โดยทั้งหมดมีความรู้ ความเข้าใจสถานการณ์สิ่งแวดล้อมชุมชน และสามารถดำเนินกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน ทั้งยังสามารถการมีส่วนร่วมจากชุมชนรวมทั้งภาคีภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และเมื่อทำการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยข้อสอบแบบอัตนัยพบว่า นิสิตทั้งหมดสามารถเขียนตอบได้อย่างดี มีการเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนรู้ภาคสนามสู่ภาคทฤษฎี และสะท้อนเจตคติหวงใยต่อสถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ผลการบูรณาการการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ทำให้นิสิตเกิดความตื่นตัว ตื่นรู้ ตระหนักและเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง เนื่องจากการสะท้อนจนเกิดความเข้าใจชุมชนและปัญหาที่แท้จริง มีทักษะการคิดและการสะท้อนคิดที่เป็นระบบ จนสามารถตั้งคำถามที่นำไปสู่การพัฒนาการเรียนรู้ การวางแผนโครงการ การปฏิบัติโครงการ การสรุปรายงานผล แก้ปัญหาที่เผชิญได้จริง ทั้งยังเกิดการทำงานเป็นทีม มีการสื่อสารที่ดีต่อกัน และมีการปรับตัวที่เหมาะสม
ผลเชิงประจักษ์ของการบูรณาการการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ได้ก่อเกิดโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน จำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการขยะเงินผูกร้อยชุมชน โครงการพัฒนากองทุนที่อยู่อาศัย โครงการลดโลกร้อนด้วยพืชสมุนไพร และโครงการสานสายใยพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน ซึ่งแต่ละโครงการมีลักษณะและทำงานกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เป็นไปตามบริบทของชุมชนที่ศึกษา และตอบสนองความต้องการของชุมชน จึงทำให้ โครงการทั้งหมดได้รับการยอมรับจากชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังปรากฏจากจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ การมีส่วนร่วมของชุมชนและองค์กรที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนทรัพยากรเพื่อการดำเนินงาน และการขยายผลโครงการ เช่น การถูกนำบรรจุในแผนพัฒนาขององค์การบริหารส่วนตำบล หรือ พัฒนาเป็นโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อนำเสนอต่อแหล่งทุนให้ชุมชนได้มีการสืบสานพัฒนาโครงการต่อไป
การบูรณาการการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมโดยใช้ชุมชนเป็นฐานครั้งนี้ เป็นการบูรณาการในส่วนเนื้อหาและกิจกรรม ซึ่งมี 4 ลักษณะคือ ระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนเรียนรู้ ระหว่างพัฒนาทางด้านความรู้และทางด้านจิตใจ ระหว่างความรู้และการปฏิบัติ และระหว่างสิ่งที่มีในห้องเรียนกับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตจริง
ขั้นตอนการบูรณาการการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ประกอบด้วย
ขั้นตอนที่ 1 วาดฝันเส้นทางการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 2 ปลูกปัญญา ขั้นตอนที่ 3 แนะกลวิธีศึกษาชุมชนและการจัดทำโครงการ ขั้นตอนที่ 4 ฝึกปฏิบัติศึกษาสิ่งแวดล้อมชุมชน ขั้นตอนที่ 5 ยกร่างและพัฒนาโครงการ ขั้นตอนที่ 6 การขับเคลื่อนโครงการสู่ชุมชน ขั้นตอนที่ 7 สรุปผลแบบมีส่วนร่วมและนำเสนอรายงานผลโครงการ ขั้นตอนที่ 8 การสรุปบทเรียนและทดสอบ
วิธีการเรียนรู้ ประกอบด้วยภาควิชาการที่มีการเรียนรู้ศาสตร์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เทคนิคการศึกษาและทำงานร่วมกับชุมชน การจัดทำโครงการและการประเมินสรุปรายงานผล การศึกษาดูงานกรณีศึกษาชุมชนที่มีผลงานดีเด่นด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน และการฝึกประสบการณ์ผ่านการปฏิบัติจริง โดยแบ่งผู้เรียนให้ทำงานเป็นกลุ่ม ฝึกปฏิบัติในการศึกษาชุมชน ด้วยวิธีการต่าง ๆ อาทิ การสัมภาษณ์ การสังเกต การศึกษาเอกสารและการจัดทำเวทีเรียนรู้ร่วมกับชุมชน .มีการจัดเวทีเรียนรู้ร่วมกันในชั้นเรียนเพื่อนำเสนอผลการศึกษาชุมชนเป็นระยะ เพื่ออภิปรายร่วมกันจนกระทั่งเข้าใจภาพรวมของชุมชนได้ชัดเจน จากนั้นจึงจัดทำและพัฒนาข้อเสนอโครงการที่สอดคล้องกับสภาพจริง มีการนำโครงการสู่การปฏิบัติจริง มีการติดตามประเมินผลและสรุปรายงานอย่างเป็นระบบ
การอภิปรายผล
ผลสมฤทธิ์ทางการเรียนของนิสิตโดยการเรียนการสอนแบบบูรณาการที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน สะท้อนถึงประสิทธิผลการเรียนการสอนตามสภาพจริง เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนการจัดกิจกรรม เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างมีความหมายและตรงกับความสนใจของผู้เรียน โดยผู้สอนมีบทบาทเป็นนักจัดการผู้เอื้ออำนวยการเรียนรู้ รับผิดชอบและวิเคราะห์วิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน โดยมีเป้าหมายให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้ เกิดการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนในหลายมิติ ได้แก่ ความจำ การใช้เหตุผล ความซาบซึ้งในสุนทรียภาพ ทักษะการติดต่อสื่อสาร การสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม การปรับบุคลิกภาพ และความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสังคมสิ่งแวดล้อม
ลักษณะการบูรณาการการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน เป็นความพยายามบูรณาการในสาระวิชา โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ที่หลายหลากได้แก่
1.การเรียนรู้เชิงสถานการณ์ ที่เน้นให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์และลงมือปฏิบัติภายใต้วัฒนธรรมและบริบทที่เป็นจริงของสังคม ที่ต้องอาศัยการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับบุคคล และสภาพแวดล้อมในการสร้างความรู้ให้แก่ตนเอง
2.การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ ที่เน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ของชีวิต ประสบการณ์การทำงานและประสบการณ์อื่น ๆ ที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งเมื่อผู้เรียนได้สะท้อนความคิดเกี่ยวกับประสบการณ์นั้น จะทำให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ได้
3. การเรียนการสอนแบบโครงงาน ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีประสบการณ์จริงในการปฏิบัติงานและแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ได้พิสูจน์สิ่งที่อยากรู้ด้วยตนเอง เกิดทักษะการวางแผนการทำงาน การวิเคราะห์และประเมินผลงานด้วยตนเอง
4. การเรียนการสอนโดยใช้กรณีศึกษา ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าในสิ่งที่ตนเองสนใจจากสภาพที่เป็นจริง ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสภาพปัญหาในชีวิตจริง แล้วนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถทำให้สมาชิกในชุมชนมีส่วนร่วมในการเรียนของผู้เรียน โดยผู้สอนตั้งคำถามหรือกระตุ้นให้ผู้เรียนร่วมคิดแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน
วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการสิ่งแวดล้อมโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน มีลักษณะการเชื่อมโยงแบบเป็นองค์รวม ไม่คิดแยกส่วน แบ่งก่อนทอนหลัง แต่มุ่งให้เกิดการเรียนรู้ที่สมดุลและมีความสุข ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองและทำงานเป็นทีม โดยผู้สอนจัดกิจกรรมกระตุ้นการเรียนรู้ที่หลากหลาย ผ่านการกำหนดเรื่องราวและสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงความสัมพันธ์และหลอมรวมจุดประสงค์ให้เป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์ มีการจัดบรรยากาศในชั้นเรียนที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนกล้าคิดกล้าทำ เสริมสร้างมั่นใจ โดยส่งเสริมโอกาสแสดงออกทางความคิดและการกระทำต่อเพื่อนในชั้นเรียนและสาธารณชน
กลวิธีทำให้เกิดการเรียนรู้ด้วยการบูรณาการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมโดยใช้ชุมชนเป็นฐานคือ การสร้างให้ผู้เรียนต้องเกิด “ความรู้สึก” ว่าต้องการที่จะเรียนรู้ จากนั้นจึงปรับพฤติกรรมผ่านการดู การใช้ความคิด และการกระทำ ลักษณะเช่นนี้จัดเป็นกระบวนการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ ด้วยกระบวนการทางปัญญาที่มีผู้สอนเป็นกัลยาณมิตร โดยการจัดการเรียนรู้ให้ฝึกการสังเกต การฟัง การตั้งคำถาม การบันทึก การตั้งสมมติฐาน การค้นหาคำตอบ การนำเสนอต่อที่ประชุมกลุ่ม การใช้กลไกการวิจัยเพื่อการเรียนรู้ การฝึกเขียนเรียบเรียงทางวิชาการ และการนำเสนอต่อที่ประชุมกลุ่ม ที่สำคัญยิ่งคือ การฝึกความสามารถในการเชื่อมโยงบูรณาการให้เห็นความเป็นทั้งหมดของสิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ระหว่างสรรพสิ่งในสังคม ซึ่งการเชื่อมโยงนี้ทำให้เกิดการตระหนักรู้ถึงบทบาทของตน ซึ่งเป็นมิติทางจริยธรรมต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
การนำเทคนิคการบูรณาการการเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน มาปรับใช้ในการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อม มีความเหมาะสมกับธรรมชาติของวิชาที่เน้นบทปฏิบัติการภาคสนามต่อสถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน จึงมีข้อดีหลายประการ เช่น การถ่ายโยงการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมองภาพสิ่งแวดล้อมแบบองค์รวม สามารถนำความรู้มาผสมผสานเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ สามารถเผชิญสถานการณ์ใหม่ ๆ และแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลูกฝังจริยธรรมต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย
ข้อควรคำนึงการบูรณาการการเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนเป็นฐานคือ การเข้าถึง และการยอมรับจากชุมชน ดังนั้นจึงต้องสร้างให้นักศึกษาเข้าใจบทบาทของตน โลกทัศน์การมองชุมชนและเทคนิคการทำงานร่วมกับชุมชน ซึ่งผู้สอนต้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงติดตามความก้าวหน้าการทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนอย่างสม่ำเสมอ โดยการสรุปทบทวนร่วมกับนักศึกษาถึงสิ่งที่นักศึกษาได้เรียนรู้จากชุมชนและสิ่งที่ชุมชนได้เรียนรู้จากนักศึกษา ตลอดจนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งวิธีการเช่นนี้จะทำให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และกระบวนการกลุ่ม เช่นเดียวกับเครื่องมือและวิธีการวัดประเมินผล ซึ่งควรมีลักษณะที่หลากหลาย เพื่อสอดคล้องกับสภาพจริงและครอบคุลมจุประสงค์การเรียนรู้
ข้อเสนอแนะจากการวิจัย
2. หลักสำคัญของการบูรณาการการเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนเป็นฐานคือ การให้ผู้เรียนได้สัมผัสสภาพจริงของชุมชน การเชื่อมทฤษฎีกับปฏิบัติ การเรียนรู้และการปฏิบัติที่ต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และเกิดจิตสาธารณะ ในลักษณะเช่นนี้ผู้สอนต้องปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการจัดการเรียนการสอน พยายามเชื่อมโยงระหว่างวัตถุประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการสอนและวิธีการวัดผลให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
3.ข้อควรคำนึงในการนำเทคนิคการบูรณาการการเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนเป็นฐานมาปรับใช้ในการเรียนการสอน คือ ลักษณะเฉพาะของธรรมชาติแต่ละวิชาซึ่งอาจจะไม่สามารถใช้ได้ทุกกรณี หากไม่สอดคล้องกลมกลืนและขาดความเป็นเอกภาพของจุดประสงค์การเรียนรู้ อาจทำให้การจัดการเรียนการสอนสับสนและหลงทางได้ หรืออาจทำให้ผู้เรียนขาดความแม่นยำในเนื้อหาและหลักการ ดังนั้นก่อนการบูรณาการควรตอบคำถามว่า ทำไมต้องบูรณาการและแน่ใจเพียงใดว่า บูรณาการแล้วจะได้ผลดี
4. การจัดการเรียนการสอนในลักษณะเช่นนี้ อาจมีข้อจำกัดในการเชื่อมโยงทฤษฎีสู่การปฏิบัติบ้าง แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้เรียนได้รับคือ การคิดวิเคราะห์และการทำงานเป็นทีม ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการเรียนรู้ร่วมกันกับชุมชน อาจจะทำเป็นโครงการต่อเนื่องเพื่อการพัฒนาขยายผลไปเรื่อย ๆ และควรจะมีการบูรณาการแบบสหวิทยาการ
เอกสารอ้างอิง / บรรณานุกรม
2. มนัส บุญประกอบ. 2541. การเรียนรู้เชิงประสบการณ์. สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
3. สุวิทย์ มูลคำและอรทัย มูลคำ. 2543. การเรียนรู้แบบบูรณาการ .กรุงเทพ ฯ สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.
4. สุมน อมรวิวัฒน์ (ไพทูรย์ สินลารัตน์ บรรณาธิการ) . 2544 . ความรู้คู่คุณธรรม : รวมบทความเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม และการศึกษา . กรุงเทพฯ , สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
5. ทิศนา แขมณี .2545. ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ . กรุงเทพ สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.
ไม่มีความเห็น