ขอรับฉัน (เล่นคำตาย)


แถมขอให้ เปลี่ยนกฎ ลดอายใจ

Recently, writing กลอน is a hit in g2k. I love this creative art form. I like seeing more นักรักกลอน. I think Thai language is better promoted by กวี and their work such as กลอน. I am putting a another stick into the fire ;-)

ขอรับฉัน (เล่นคำตาย)

ขอรับกัน มันสนุก ในยุคนี้
ขอกันที หลายล้าน หน้าบานใส
แถมขอให้ เปลี่ยนกฎ ลดอายใจ
งานนี้ใหญ่ ขอปรับ รับอีกที
คนขอรับ จับทาง ระหว่างช่อง
ยกเรื่องร้อง ก้องเกิน เงินภาษี
อ้างผลลัพท์ กำไร ทันใจดี
ชุมชนมี งานเงิน ใช้เกินพอ

น้ำท่วมใต้ ไฟป่า ฝนนาแล้ง
ข้าวของแพง โรคร้าย ไม่มีหมอ
โรงเรียนวัด ตัดถนน งานต้นตอ
มีเรื่องล่อ มากหลาย จนลายตา
ตั้งโครงการ งบประมาณ ประมูลจัด
ใช้ทางลัด จัดสรร ลดปัญหา
รีบรับของ เซ็นผ่าน ก่อนงานมา
เรื่องราคา คุณภาพ ตามกาพย์กลอน

ขอรับกัน นั้นแปลก ตีแตกหมด
เปิดทางคด ย้อนปัน ดันตามศร
กระจายเส้น แยกผลส่ง ตามวงจร
มีอุปกรณ์ ลดเสี่ยง เลี่ยง-กำจัด
ขอรับฉัน วันนี้ เห็นมีมาก
มีรอยลาก จากสภา ถึงหน้าวัด
จากข้างบน ถึงข้างล่าง มีทางตัด
มีเชือกมัด รัดต่อ ทั้งกอเลย

...สร...
สุนทร รัตนมนัส เดือน ๕ ปีเถาะ ๕๔

NB. I had in mind a new Thai word for a common and (now) socially acceptable practice. I played around with คำใหม่ and ended up with คำตาย because Thais would be far better off not adopting this practice at any level -- not at all. ขอรับฉัน creates a positive feedback loop that eventually sucks in and burns out everything -- just like a black hole.

หมายเลขบันทึก: 435036เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2011 05:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2017 18:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

"ลูกช่างขอ" ในไทยใช่เรื่องแปลก

งบฯกระแทก แหกตา น่าบัดสี

คอรัปชั่น ระดับโลก โศกทวี

ถดถอย ลงทุกที คุณธรรม

มันขบเขี้ยว เลี้ยวลด คดในข้อ

จิตหักงอ ฉัอฉล  คนใจต่ำ

งบประมาณ ชอบผลาญจวก  พวกระยำ

ประมูลต่ำ กำไรมาก พวกลากไป

ขอทีเถอะ อสุรกาย ภัยน้ำท่วม

งบฯบานบวม เลิกฉก โยกยกไหล

เถอะ...ทุกบาท  เช็ดหยาดหยด น้ำตาใคร

รีบส่งไป ให้ถึงมือ  อย่ายื้อยึด

Thanks for your poetry view.

We know what ขอรับฉัน does to our community. We try various ways (in our power) to reduce it -- to bring หิริ โอตัปปะ into mind.

So far we know we have failed. But we are looking at our new generations, they will be better served with clear consciences (in regards to ขอรับฉัน). And when these "old" ขอรับฉัน die, they will not take a baht with them to Hell. Only spits on their grave from passer-bys.

It's New Year, we have a day to celebrate, a culture to promote and a life to muse over. ;-)

Metta

วันก่อน คิดวนเวียน อยู่กับ เหตุการณ์ เรื่อง เป็นไป ในการเมือง ในประเทศไทย

ใช้เวลา หลายชั่วโมง แล้วต้องกลับมา ยอมรับอีกครั้ง

"ขอรับฉัน" เป็นต้นตอ ของความชั่วร้ายระดับประเทศส่วนใหญ่

เฮ้อ อีกกี่นาน จะถึง วันดอกไม้บาน.

"ขอรับกัน คอรัปชั่น" คอรับฉัน"

ความหมายมัน" คอ"พวกเดียวกัน

รับ-พา-ชวน ฉันคือกิน ไปด้วยกัน

คอรับฉัน ความหมายมัน ชวนกันกิน"

I would to share good news, knowledge and happiness for life is too short.

But late I see more bad news (the cause of dukkha to be eliminated), avija and sadness.

Here is an excerpt form

ยิ่งลักษณ์ 'ผู้แสนรัก-แสนสงสาร'

http://www.thaipost.net/news/100312/53773

เปลว สีเงิน 10 มีนาคม 2555 - 00:00

"...การเอาเงินภาษีประชาชนไปจ่ายด้วยถือดีในอำนาจ "มติ ครม.รัฐบาลทักษิณสั่ง" กันทีละ ๒,๐๐๐ ล้านง่ายๆ โดยไม่มีหลัก-มีเกณฑ์อย่างนี้ละก็ พินาศแน่...ประเทศนี้ อย่างกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีนั่นเหมือนกัน มันก็ใช้ภาพรวมของคำว่าสตรีฉาบทาเพื่อโชว์เท่านั้น

แต่เจตนา มีใครบ้างล่ะที่ไม่รู้ว่า เนื้อในของเป้าหมายคือการเอาเงินงบประมาณไปแจกจ่าย "โครงข่ายแดง" ทำนองตกเบ็ด-ตกรางวัล-ซื้อใจ-ซื้อเสียงกันล่วงหน้าประมาณนั้น ทุกอย่างมันง่ายๆ เงินของพ่อแม่กูที่ไหน เงินภาษีประชาชนทั้งนั้น มีอำนาจกูก็ยักเยื้องเอาไปจ่าย ไม่ต้องควักกระเป๋าเอง ใครจะทำไม

ไม่ถูกกฎหมายเรอะ....

ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกกู "แก้รัฐธรรมนูญ-แก้กฎหมาย" ให้ถูกเอง!!!..."

Please see http://www.oknation.net/blog/cleanpolicy/2013/03/07/entry-1  วันพฤหัสบดี ที่ 7 มีนาคม 2556
วิธีทุจริตแบบกินยกก๊วน...นายทุนธุรกิจกับนักการเมือง..โครงการของรัฐ..เขาทำกันอย่างไร?

From http://thaipost.net/news/080313/70601

ทุจริต กลโกง หมกเม็ด เบ็ดเสร็จForm
ทำได้ง่าย คือ อำนาจที่มีแบบไม่มีใครตาม
การไร้การตรวจสอบก็คือความอหังการที่กล้าทำ กล้าโกง
ของนักการเมืองและข้าราชการที่เลวๆ
ยิ่งนักการเมืองที่ทำธุรกิจยิ่งหนักตามูปแบบของนายทุน
คิดได้แต่กำไรสูงสุด ผลประโยชน์ตนมาก่อน
จึ่งมองไม่เห็น"คำว่าเพื่อประชาชน"
ถึงเวลาหรือยังที่"ไม่เอานักการเมืองเพือธุรกิจ"
จิตอาสาเพื่อสังคมที่ทุมเท โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกเรื่อง
ทางออกมิติการเมืองสีขาว วทีให้คนธรรมดาทำงานเพื่อชาติได้
จิตอาสาเพื่อสังคมไม่ใชนักการเมือง แต่อาสาทำงานกรเมืองแบบทุกเท เพียงระยะด้วยกายกำลังความรู้
ไม่ยึดเป็นอาชีพ เป็น"ผู้ให้กับประชาชน  บูรณาการความสุขทั้งแผนดิน"

...ขอรับฉัน วันนี้ เห็นมีมาก

มีรอยลาก จากสภา ถึงหน้าวัด
จากข้างบน ถึงข้างล่าง มีทางตัด
มีเชือกมัด รัดต่อ ทั้งกอเลย...

จัดระเบียบวัด-พระสงฆ์ ทำแบบลูบหน้าปะจมูก     ต้องปฏิรูปสงฆ์ ขจัดอลัชชี ไพบูลย์ นิติตะวัน
    Sunday, October 8, 2017 http://thaipost.net/?q=node/36...
 สิ่งที่ มส.และ พศ.ควรต้องทำมี 2 เรื่องใหญ่ ดังนี้ คือ 1.ควรให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพระธรรมวินัย คล้ายๆ กับคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยให้มีพระภิกษุที่ทรงคุณวุฒิ ร่วมกับฆราวาสเป็นกรรมการที่จะมาวินิจฉัย เช่นมีคนร้องถามไปว่าการปลุกเสกวัตถุมงคล การทำยันต์ เป็นการล่วงละเมิดพระธรรมวินัยหรือไม่ โดยหากกรรมการชุดดังกล่าววินิจฉัยว่าเป็นการล่วงละเมิดพระธรรมวินัย ก็จะได้เป็นแนวทางให้พระสังฆาธิการ หรืออุบาสก อุบาสิกา จะได้มีแนวทางในการตรวจตราดูว่ามีพระภิกษุรูปไหนล่วงละเมิดพระธรรมวินัย...เรื่องที่ 2 ที่ควรทำ คือ การทำบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด และการจัดการเรื่องทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุ ก็ต้องมีระบบบริหารจัดการที่เปิดเผยโปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่ใช่ว่าไปบอกให้วัดต้องทำบัญชี แต่ไม่ได้บอกแนวทาง แล้ววัดก็ไปทำบัญชีกันแบบง่ายๆ ทำแล้วก็ไม่ให้ใครดู บอกแค่ว่าวัดทำแล้ว เป็นลักษณะลูบหน้าปะจมูก ไม่ได้ตั้งใจจริงทำให้การบริหารกิจการพระพุทธศาสนาโปร่งใส สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเกรงว่าหากทำบัญชีวัดและพอเปิดเผยออกมา จะมีภิกษุที่หวังรวยทุจริตในกิจการพุทธศาสนา เอาเงินวัดออกไปไม่ได้...

...ขอรับฉัน วันนี้ เห็นมีมาก

มีรอยลาก จากสภา ถึงหน้าวัด
จากข้างบน ถึงข้างล่าง มีทางตัด
มีเชือกมัด รัดต่อ ทั้งกอเลย...

จัดระเบียบวัด-พระสงฆ์ ทำแบบลูบหน้าปะจมูก     ต้องปฏิรูปสงฆ์ ขจัดอลัชชี ไพบูลย์ นิติตะวัน
    Sunday, October 8, 2017 http://thaipost.net/?q=node/36...
 สิ่งที่ มส.และ พศ.ควรต้องทำมี 2 เรื่องใหญ่ ดังนี้ คือ 1.ควรให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพระธรรมวินัย คล้ายๆ กับคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยให้มีพระภิกษุที่ทรงคุณวุฒิ ร่วมกับฆราวาสเป็นกรรมการที่จะมาวินิจฉัย เช่นมีคนร้องถามไปว่าการปลุกเสกวัตถุมงคล การทำยันต์ เป็นการล่วงละเมิดพระธรรมวินัยหรือไม่ โดยหากกรรมการชุดดังกล่าววินิจฉัยว่าเป็นการล่วงละเมิดพระธรรมวินัย ก็จะได้เป็นแนวทางให้พระสังฆาธิการ หรืออุบาสก อุบาสิกา จะได้มีแนวทางในการตรวจตราดูว่ามีพระภิกษุรูปไหนล่วงละเมิดพระธรรมวินัย...เรื่องที่ 2 ที่ควรทำ คือ การทำบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด และการจัดการเรื่องทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุ ก็ต้องมีระบบบริหารจัดการที่เปิดเผยโปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่ใช่ว่าไปบอกให้วัดต้องทำบัญชี แต่ไม่ได้บอกแนวทาง แล้ววัดก็ไปทำบัญชีกันแบบง่ายๆ ทำแล้วก็ไม่ให้ใครดู บอกแค่ว่าวัดทำแล้ว เป็นลักษณะลูบหน้าปะจมูก ไม่ได้ตั้งใจจริงทำให้การบริหารกิจการพระพุทธศาสนาโปร่งใส สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเกรงว่าหากทำบัญชีวัดและพอเปิดเผยออกมา จะมีภิกษุที่หวังรวยทุจริตในกิจการพุทธศาสนา เอาเงินวัดออกไปไม่ได้...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท