บันทึกจากปู่ถึงหลาน(๒)


เมื่อวานปู่เห็นหลานยิ้มแต่ปู่ไม่รู้หรอกว่าหลานยิ้มเพราะอารมณ์ดีหรือยิ้มเพราะอะไร แต่โบราณบอกว่าแม่ซื้อหยอก เออ..ทีแม่ซื้อหยอกแล้วยิ้ม แต่ปู่หยอกทำไมไม่ยิ้มล่ะ...แฮ่....

เมื่อวานปู่กับย่าไปรับหลานกับพ่อเนติ์แม่หนอมให้มาพักที่บ้านปู่ย่ากันก่อน เพราะอากาศที่นี่สบายดีกว่า ออกซิเจนมากกว่า มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าและไม่ค่อยร้อน หลานร้องกินเก่งมาก กินเสร็จเรอมั่ง แหวะมั่ง ตดมั่ง อึมั่งสารพัด พอได้อิ่มก็จะเงียบไม่โยเยไม่กวนหลับสบาย แต่เท้าเตะหมอนข้างหล่นประจำ อิอิ

ปู่ย่าเฝ้ามองดูพ่อเนติ์แม่หนอมชุลมุนชุลเกกับหลาน ย่าทนไม่ได้เข้าช่วยบ้างบางครั้ง แต่พยายามให้ทำกันเองเพราะเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูก ต้องอดทนอดกลั้นต้องยอมทุกอย่างให้กับลูกเพื่อให้ลูกเติบโตมาอย่างมีความสุข อยู่อย่างสมบูรณ์และอบอุ่น แต่พ่อกับแม่ต้องยอมเหนื่อย..ล้า...อดหลับอดนอน แต่นั่นเป็นเรื่องดีสำหรับคนเป็นพ่อแม่ที่จะได้ทบทวนบทบาทตัวเองในฐานะพ่อแม่กับในฐานะลูก

“ถ้าเราเป็นลูกที่ไม่ดี เราจะเป็นพ่อแม่ที่ดีได้อย่างไร” ปู่ทวดย่าทวดสอนปู่มาอย่างนี้ ปู่ก็ต้องสอนพ่อเนติ์แม่หนอมต่อไป และเป็นหน้าที่ของพ่อเนติ์แม่หนอมที่จะต้องสอนหลานต่อไปอีกเป็นทอดๆ

ปู่รู้สึกว่าหลานกินจุ เอ...แล้วเราจะตัดสินการเลี้ยงลูกของคนโบราณกับวิชาการของคนรุ่นใหม่อย่างไรดี ปู่กับย่าเป็นคนทันสมัยแต่ไม่ละทิ้งของเก่า ดังนั้นจึงดูว่าวิถีของคนเก่าแก่ที่ใช้ในการเลี้ยงดูมันมีอะไรเป็นเหตุเป็นผลในทางวิชาการบ้าง ถ้าสมัยใหม่มีเหตุผลในทางวิชาการก็เชื่อวิชาการที่ควรจะเป็น ถ้าของเก่าเขามีเหตุผลที่ควรรับฟังเพราะไม่งั้นเด็กก็ต้องตายเพราะการเลี้ยงดูแบบสมัยก่อนและการเลี้ยงดูแบบสมัยใหม่ทำให้เด็กมีปัญหาปู่กับย่าก็จะเลือกแบบเก่า...

เขียนอย่างนี้เดี๋ยวคุณป้าคุณน้าคุณอาที่เป็นพยาบาลจะค้อนปู่เอา...ปู่คงต้องยกตัวอย่าง เช่น สมัยใหม่บอกว่าเด็กต้องดื่มนมแม่อย่างเดียวน้ำก็ไม่ต้อง นมผสมไม่ควรให้หรือให้ก็น้อยที่สุด แต่ปู่ย่าเห็นเด็กรุ่นใหม่ตัวเหลืองต้องเข้าตู้อบต้องโน่นนี่นั่น...แต่ปู่ย่าเลี้ยงพ่อเนติ์อานิวไม่มีตัวเหลืองแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งสองคน นอกจากดื่มนมแม่ นมผสม น้ำอุ่นเพื่อล้างปาก น้ำผสมน้ำผึ้งเพื่อให้ขับขี้เทา เช้ามาแดดอ่อนพาพ่อเนติ์อานิวออกมาโดนแดดอ่อนๆ สุขภาพดีทั้งสองคน แต่ปู่เห็นเด็กเดี๋ยวนี้ทำตามที่หมอสั่งแต่..ทำไมตัวเหลืองกันเยอะจังใครผิดใครถูกกันแน่ ปู่เลือกเชื่อแบบที่ปู่เห็นผล เรื่องนมผสมปู่เห็นด้วยที่ว่าควรไม่ให้หรือให้น้อยที่สุดควรเป็นนมแม่ดีที่สุดเพราะปู่ดูดนมย่าทวดจนโตเหมือนกัน ดูดเป็นปีจนในที่สุดก็ต้องเปลี่ยนเป็นนมผสมเพราะย่าทวดบอกว่านมแห้งหมดแล้ว...555 ส่วนน้ำผสมน้ำผึ้งบ้านปู่ย่ากินกันแบบนี้มาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว แต่พอขี้เทาหมดแล้วก็ค่อยๆห่างไป ย่าอารีย์ห้ามไม่ทันแล้วเพราะย่าให้ดูดน้ำผสมน้ำผึ้งขับขี้เทาไปก่อนแล้ว อิอิ...

สังเกตดูหลานจะตัวเล็กลงกว่าวันที่คลอดวันแรกซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเพราะแรกคลอดใหม่ๆเขาว่ากันว่าเด็กพองลม อิอิ...แต่หน้าตาหลานน่ารักขึ้นขาวขึ้น ลืมตาได้มากขึ้นมองโน่นมองนี่ โบราณเขาไม่ให้พูดว่าน่ารักเพราะกลัวยักษ์มารจะมาแย่งเอาไป ต้องพูดว่าน่าเกลียดน่าชังเขาจะได้ให้อยู่ในโลกใบนี้ต่อเพราะมีแต่คนน่าเกลียดน่าชัง รึว่าเพราะเหตุนี้เราถึงมีคนเกลียดชังกันมาก็ไม่รู้ อิอิ...เมื่อวานปู่เห็นหลานยิ้มแต่ปู่ไม่รู้หรอกว่าหลานยิ้มเพราะอารมณ์ดีหรือยิ้มเพราะอะไร แต่โบราณบอกว่าแม่ซื้อหยอก เออ..ทีแม่ซื้อหยอกแล้วยิ้ม แต่ปู่หยอกทำไมไม่ยิ้มล่ะ...แฮ่....

วันนี้หลานดูดนมแม่ด้วย ดูดนมขวดด้วย ปู่กลับไปทานข้าวตอนเที่ยงหลานยังไม่ตื่น ปู่กลับมาทำงานบ่ายหลานก็ยังไม่ตื่น ถามแม่หนอมก็บอกว่าลูกหลับสนิทตอนประมาณตีสามจนเจ็ดโมงครึ่ง แล้วตื่นมาร้องกินนม พ่อเนติ์จับอาบน้ำแต่งตัววันนี้แต่งตัวด้วยชุดของอานิว คับพอดีเลย ตอนนี้เสื้อผ้าหลานมากมายใส่ไม่ทัน ตอนนี้มีทั้งผ้าอ้อมและผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งย่าพยายามให้ใช้ผ้าอ้อมธรรมดา ผ้าอ้อมที่ใช้ดีที่สุดเท่าที่ย่าเคยใช้คือผ้าอ้อมจากฮ่องกง ซึ่งพ่อเนติ์ก็ได้ใช้ อานิวก็ได้ใช้ ลองไม่ใช้ดูสิย่าอุตส่าห์เดินหาซื้อแทบพลิกฮ่องกง ฮ่าๆๆ ได้มาสี่โหลเหมาหมดร้าน ฮ่าๆๆ การใช้ผ้าอ้อมธรรมดาดีกว่าหลายอย่าง การระบายอากาศก็ดีกว่า ใช้ทนกว่า ประหยัดกว่า ที่สำคัญหลานจะได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยนะ เพราะไม่เป็นขยะให้ทิ้ง นี่เห็นไหม...เราต้องช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกันตั้งแต่แรกคลอดเลยนะเนี่ย...

เช้านี้ย่าทวดก็โทร.มาถามถึงหลาน ปู่ทวดก็เฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์รอดูภาพหลานจากการปรับปรุงข้อมูลของพ่อเนติ์ที่นำรูปขึ้น FB ทุกวัน น้ำนมแม่หนอมก็มีมากขึ้นแต่ก็ยังไม่ค่อยพอสำหรับหลาน พ่อเนติ์กับย่าก็ยังต้องเตรียมน้ำอุ่นไว้ชงนมผสมไว้ด้วย ไม่งั้นพอน้ำนมไม่พอก็ชักจะมีฤทธิ์แถมยังเริ่มรับรู้ว่านมแม่ไม่พอดูดไม่ออกก็จะร้องหานมขวด ก็เลยอาจจะต้องปรับวิธีการใหม่อีกปล่อยให้ร้องสักพักเพื่อให้รู้จักอดทนอดกลั้น อยากจะกินนมก็ดูดนมแม่ดูดไม่ออกก็ต้องยอมรับว่าหมดแค่นี้ อิอิ...ไม่รู้พ่อเนติ์แม่หนอมกับย่าจะทนฟังเสียงร้องได้แค่ไหน แต่ปู่ทนได้เพราะปู่ไม่ได้ยิน ปู่อยู่ที่ทำงาน แฮ่...

หมายเลขบันทึก: 434211เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2011 14:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • สวัสดีค่ะ
  • ได้วิธีดูแลลูกหลานค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณท่านศน.ลำดวน ที่แวะเข้ามาเยี่ยมบันทึกครับ

สวัสดีค่ะ

  • แหะ  แหะ  คงต้องขอตัวไปอ่านตอนที่ 1 ซะแล้วสิคะ
  • สันนิษฐานว่า คงมีใครสักคนได้หลานปู่ หลานย่า
  • ไปอ่านตอนที่ 1 เผื่อจะเฉลยได้ชัดเจนขึ้น อิ..อิ..อิ...
  • ขอบพระคุณค่ะ ที่แบ่งปันเรื่องราวความรักความอบอุ่นในครอบครัว
  • อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นไปด้วยค่ะ

ขอบคุณนะครับคุณอิงจันทร์

คนเห่อหลานคนแรกก็ยังงี้แหละครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท