ความประทับใจจากหนังสือ ๒ เล่ม: "คุยเรื่องชีวิตธรรมดา" และ "ชีวิตงามด้วยความดี"


หนังสือแบ่งเป็น ๕ ตอน ตั้งแต่วัยเด็ก และส่งท้าย ๒ บทด้วย การแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อชุมชน สังคม และเพื่อนมนุษย์ สะท้อนความเป็นบุคคลต้นแบบของ "ผู้นำหัวใจอาสา" บนเส้นทางนักพัฒนานานกว่า ๔ ทศวรรษ

 

 

 

 

 

 

 

       

       บทเรียนจากชีวิตจริงไม่อิงนิยายของบุคคล เป็นเรื่องราวที่ข้าพเจ้าเลือกอ่านเป็นลำดับแรกตั้งแต่ปฐมวัยจนถึงปัจฉิมวัย โดยเฉพาะกรณีมีการลำดับเหตุการณ์ทุกช่วงตอนแบบเปิดใจ แฝงข้อคิดเป็นบทเรียนรู้  และปลูกจิตสำนึกอันงดงามฝากไว้เป็นร่องรอยทุกตัวอักษรของแต่ละบันทัด ให้ได้ซึมซับหยั่งลึกยากจะลืมเลือน โดยเฉพาะ หากเป็นคนที่ข้าพเจ้ารู้จักคุ้นเคยและ ได้มีส่วนรู้เห็นตัวตนแท้จริงมาเกือบตลอดชีวิต ย่อมสร้างความมั่นใจในการแนะนำแบ่งปันให้ผู้อื่นได้รับโอกาสดีๆที่จะได้อ่านศึกษาตามบริบทดังกล่าวด้วย

 

   

 

    นี่คือความประทับใจอีกครั้งหนึ่งจากหนังสือ ๒ เล่มชื่อ "คุยเรื่องชีวิตธรรมดา"

และ " ชีวิตงามด้วยความดี"  ของคุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ด้วยวัยครบ ๗๐ ปี ในวันที่ ๒๔ มีนาคมนี้

 

    หนังสือ "คุยเรื่องชีวิตธรรมดา" ได้ถ่ายทอดจากบทสนทนากับ คุณอรอุมา เกษตรพืชผล ผ่านรายการวิทยุ "ห้องรับแขก Sweet FM " คลื่นวิทยุ ๘๙.๕ MHz ระหว่างวันที่ ๖-๑๐ เมษายน ๒๕๕๒

 

คุณไพบูลย์และคุณหญิงชฏา ในวันเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๙ ณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๔

  

   หนังสือแบ่งเป็น ๕ ตอน ตั้งแต่วัยเด็ก และส่งท้าย ๒ บทด้วย การแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อชุมชน สังคม และเพื่อนมนุษย์ สะท้อนความเป็นบุคคลต้นแบบของ "ผู้นำหัวใจอาสา" บนเส้นทางนักพัฒนานานกว่า ๔ ทศวรรษ

 

คุณไพบูลย์ และคุณหญิงชฏา ขณะกำลังเขียนข้อความที่ระลึกบนหนังสือแก่ผู้ซื้อหนังสือที่มาร่วมงานนี้

 

   ลิขสิทธิ์และผลตอบแทนทั้งหมดจากหนังสือเล่มดีมีคุณค่านี้ ผู้เขียนมอบให้ "มูลนิธิหัวใจอาสา" ที่คุณไพบูลย์ เป็นประธานกรรมการ

 

     

  

 

    ผู้สนใจหาชื้อหนังสือนี้ ได้ที่ ร้านหนังสือซีเอดบุคสโตร์ หรือหากสนใจเป็นจำนวนมาก และประสงค์จะร่วมสมทบรายได้เข้ามูลนิธิหัวใจอาสา โปรดติดต่อที่ :

wattpaiboon@gmail.com

Dr.Kittiwat@gmail.com

kanchit@tff.or.th

chatikanon@yahoo.com

 

 

      

 

 

    ส่วนหนังสือ " ชีวิตงามด้วยความดี" ที่ได้บันทึกความดีมีคุณธรรมตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาของ คุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ในเนื้อหาเดียวกันกับหนังสือเล่มข้างต้น โดยจัดอยู่ในชุดบุคคลคุณธรรม เช่น  ศ.นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว ศ.ระพี สาคริก ศ.ธานินทร์ กรัยวิเชียร ศ.เสน่ห์ จามริก ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วสี และ ศ.กิติคุณ สุมน อมรวิวัฒน์ 

 

    หนังสือเล่มที่ ๒ นี้ จัดพิมพ์เผยแพร่โดย ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)

www.moralcenter.or.th

 

หมายเลขบันทึก: 432424เขียนเมื่อ 23 มีนาคม 2011 15:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2013 15:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (47)

สวัสดีค่ะ

หนังสือน่าสนใจมากนะคะ  ติดตามเรียนรู้งานของท่านเสมอค่ะ 

-สวัสดีครับ...

-น่าอ่านครับ...

-ชื่นชม "ลิขสิทธิ์และผลตอบแทนทั้งหมดจากหนังสือเล่มดีมีคุณค่านี้ ผู้เขียนมอบให้ "มูลนิธิหัวใจอาสา" ที่คุณไพบูลย์ เป็นประธานกรรมการ"

-มีก๋วยเตี๋ยวไทยมาฝาก ครับ

น้องคิม ขอบคุณมากค่ะที่ให้ความสนใจหนังสือนี้..เมื่อพี่ใหญ่ได้รับมาจากคุณไพบูลย์ ได้อ่านค่อนคืนจนจบเล่ม..

..อ่านแล้วคิดเลยไปว่า..หากพวกเราทุกคนมีความเรียบง่ายในความเป็นอยู่..แต่อุดมด้วยศรัทธาและการอุทิศตนเพื่อสังคม..แม้เพียงเศษเสี้ยวของคุณไพบูลย์..ประเทศชาติของเราจะมีความเป็นปึกแผ่นและสังคมจะมีความสุขมากกว่านี้..

คุณหลวง ขอบคุณสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกแนะนำหนังสือเล่มนี้ค่ะ..หากมีโอกาสได้อ่านแล้ว..จะประทับใจมากค่ะ..

คุณเพชรน้ำหนึ่ง ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกชื่นชมหนังสือนี้ที่อยากให้พวกเราได้อ่านแบบอย่างดีๆของผู้อุทิศตนเพื่อสังคมด้วยจิตอาสาอย่างแท้จริง..

...คุณไพบูลย์ เคยบอกว่า เกิดมาคุ้มค่าแล้ว..ไม่ต้องการอะไรเพื่อตนเองทั้งสิ้น..

...ก๋วยเตี๋ยวที่นำมาฝากน่ารับประทานมากค่ะ..ไม่ใคร่เห็นห่อด้วยใบตอง..

  • แป๋มเองก็ชอบอ่านหนังสือที่กอรปด้วยเรื่องราวของคนต้นแบบ
  • โดยเฉพาะต้นแบบของคนดี ที่เสียสละความสุขส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
  • เพราะเรื่องราวเหล่านี้จักเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ในการดำรงชีวิตของแป๋มค่ะ
  • ขอบพระคุณพ่ใหญ่นะคะที่นำเรื่องดีๆมาแบ่งปันให้ทราบ..^^

ครูแป๋ม ขอบคุณมากค่ะที่เห็นคุณค่าของหนังสือสะท้อนชีวิตดีๆมีคุณค่าต่อสังคมเล่มนี้..อ่านคนเดียวไม่ได้แล้ว..ต้องแบ่งปันกันค่ะ..

..เริ่มต้นชีวิตชนบทจากท้องนาที่มีความสุขแบบธรรมชาติ..หล่อหลอมด้วยคุณธรรมของบิดา-มารดา..ก้าวสู่การเป็นนักเรียนทุนธนาคารแห่งประเทศไทย..

..ทำงานพัฒนาทางด้านการเงินทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อเป็นรากฐานของระบบ

..ผันตนเองสู่การพัฒนาชุมชนเมืองและบูรณะชนบทอย่างต่อเนื่อง

..ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในทำเนียบรัฐบาล และวุฒิสภา พร้อมไปกับงานด้านพัฒนาสังคมเชิงรุก..

..แม้ปัจจุบันถูกรุมล้อมด้วยโรคภัยไข้เจ็บอย่างที่คนทั่วไปยากจะทนทาน..แต่นั่นเป็นเพียงวิบากทางกาย..หากแต่จิตใจที่เข้มแข็งแกร่งเป็นเลิศ..จึงยังยืนหยัดอุทิศตนเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง..

..เป็นหัวหน้าครอบครัวที่อบอุ่นไอรัก..จากรุ่นหนึ่งถึงรุ่นสามแล้วค่ะ..

       

  • สวัสดีค่ะ พี่ใหญ่
  • ขอบพระคุณตัวอย่างหนังสือดีที่น่าอ่าน
    "ชีวิตผู้ยิ่งใหญ่่ล้วนเรียบง่าย" นะคะ

คุณธรรมทิพย์ ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกแนะนำหนังสือบอกเล่าเรื่องราวของบุคคลหนึ่งที่ทุ่มเทชีวิตเพื่อความเข้มแข็งของชาวบ้านทั่วไปให้พึ่งพาตนเองได้ และสามารถเจือจานซึ่งกันและกันบนรากฐานของความพอเพียงและความมีคุณธรรมอย่างยั่งยืนค่ะ..

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่

สบายดีน่ะค่ะ...แวะมาเยี่ยมอ่านเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่ มาทักทายด้วยความระลึกถึงค่ะ

สวัสดีครับคุณ นงนาท

 คนทำงานชุมนับถืออาจารย์ ไพบูลย์เป็นศาสดาของชุมชน โดยเฉพาะการชวนคิดในการพัฒนาสังคมจากฐานราก

คุณหนูรี ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกตัวตนของ คุณไพบูลย์ ที่ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช มีคำนิยมตอนหนึ่งว่า :

  " หนังสือเล่มนี้ อ่านได้สบายๆ อ่านแล้วสบายใจ ตามสไตล์ของคุณไพบูลย์ที่ ไม่โอ้อวดดี ความเก่ง และผลงานของตนเอง

..แต่ผมเชื่อว่า เมื่ออ่านแล้ว ผู้อ่านทุกคนจะเกิดแรงบันดาลใจ เห็นคุณค่าของการเกิดมาเป็นคนไทยที่มีสังคมเปิดกว้าง ให้โอกาสแก่คนดีมีความสามารถในการสร้างฐานะ โดยไม่มีการปิดกั้นด้านชาติสกุล

..รวมทั้งได้ความเชื่อมั่นในการทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน.."

คุณมณีวรรณ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาทักทาย..อากาศเปลี่ยนแปลง..รักษาสุขภาพด้วยค่ะ..ระลึกถึงเช่นกันค่ะ..

ท่านวอญ่าฯ ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกของชีวิตคนธรรมดาที่มีผลงานทางพัฒนาสังคมที่ไม่ธรรมดาคนนี้ค่ะ..

ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช กล่าวคำนิยมไว้อีกตอนหนึ่งว่า :

" ในสายตาของผม คุณไพบูลย์ เป็นนักสร้างขบวนการ (movement) โดยวางระบบให้เกิด กระบวนการ (process) ของแนวร่วม หรือภาคีเครือข่าย (networking) เพื่อการสร้างสรรค์สังคม ซึ่งสภาพจิตใจเช่นนี้ มาจากการสั่งสมบารมีหลายด้าน โดยเฉพาะ ธรรมะบารมี.."

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่

  • ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆนะคะ
  • มีความสุขมากๆค่ะพี่
  • สวัสดีค่ะ
  • จะติดตามหาอ่านค่ะ
  • ขอบคุณมาก

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่

คนที่จะเปิดเผยเรื่องราวของตนเองคงต้องมีอะไรดีๆและมั่นใจในชีิวิตที่ตนเองใช้อยู่

จนสามารถนำมาถ่ายทอดเพื่อเป็นประสบการณ์ให้กับผู้อื่นได้

ชอบใจกับชีวิตธรรมดาที่ไม่ธรรมดาค่ะ...

คุณยาย ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกความประทับใจในการดำเนินชีวิตอุทิศตนเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องเช่นนี้..

..วันนี้ ๒๔ มีนาคม เป็นวันเกิด ครบ ๗๐ ปี ของคุณไพบูลย์ ผู้ได้รับ คำนิยม จาก ศ.นพ.วิจารณ์ ว่า..

.." คุณไพบูลย์เป็นผู้นำแนวใหม่ ที่ไม่เข้าไปผูกขาดการเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้นำงานใหญ่ที่เป็นนวัตกรรมสังคมที่ท่านเข้าไปริเริ่ม..

.. แต่ท่านจะใช้แนวทางส่งเสริม เอื้ออำนาข (empower) ให้ผู้คนจำนวนมากเข้าร่วมกันเป็นเจ้าของ และเข้าร่วมทำงานใหญ่นั้นอย่างต่อเนื่อง

.. ผมเชื่อว่า แนวทางนี้อาจจะช้า แต่จะมีความยั่งยืนกว่า เพราะมีการวางรากฐานของสังคมอย่างกว้างขวาง..

..จนในที่สุด เกิดโครงสร้างที่มีฐานะทางกฏหมาย ดังกรณีสำนักงานพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)และพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน เป็นต้น

คุณลำดวน ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกเชิดชูคุณงามความดีต่อสังคม ของ คุณไพบูลย์ ..เท่ากับเป็นของขวัญวันเกิด ปีที่ ๗๐ ของท่านนะคะ..

..หนังสือเล่มนี้ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ บริษัท เนชั่น อินเตอร์แนชันแนล เอดดูเทนเมนท์ จำกัด(มหาชน) ใต้สัญญลักษณ์ BIZbook กรุงเทพธุรกิจ..หมวดอัตตะชีวประวัติ..

คุณKrugui ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกแนะนำหนังสือดีในแนวที่ชื่นชอบชีวิตของบุคคลที่เอื้ออาทรต่อสังคมอย่างแท้จริง..เป็นแรงบันดาลใจที่โดดเด่นแก่ผู้ที่ตั้งใจจะดำเนินรอยตามอย่างมั่นคงและต่อเนื่องค่ะ..

  • สวัสดีค่ะพี่ใหญ่  อยากอ่านค่ะ  สงสัยต้องไปหาจาก อ.วิจารณ์ ซะแล้วค่ะ 
  • ชื่นชม อ.ไพบูลย์ มาตั้งแต่สมัยอาจารย์มาเป็นบอร์ดให้ สคส. แล้ว   ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดีมาก ท่าทางที่ท่านแสดงว่าธรรมดา  แต่น่าเคารพศรัทธาด้วยหัวใจค่ะ   
  • ขอบคุณพี่ใหญ่มากครับ
  • อ่านหนังสือของท่านชื่อ ประชาสังคม สมัยอาจารย์หมอประเวศ วะสีเขียน
  • แบบนี้ต้องตามไปหาอ่าน
  • ท่านเป็นแบบที่ดีของการทำงานเพื่อสังคมครับ

น้องอ้อ ขอบคุณมากค่ะที่ให้ความสนใจหนังสือดีๆนี้มีคุณค่านี้..อ่านแล้วจะวางไม่ลงเลยค่ะ..ยิ่งเป็นผู้ที่คุ้นเคยการทำงานเพื่อสังคมของท่านแล้ว..จะประทับใจกับเรื่องราวเบื้องลึกที่ไม่เคยรู้มาก่อน..ได้เห็นถึงพลังจิตที่เข้มแข็ง..น่าชื่นชมจริงๆ

ดร.ขจิต ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกแนะนำหนังสือของคนดีที่มีผลงานด้านสังคมไม่ธรรมดาคนนี้..

...อ่านแล้วน่าถอดบทเรียนอีกเช่นกันค่ะ..อยากให้เผยแพร่ไปมากๆ จะได้เป็นแรงบันดาลใจดีๆของคนที่ตั้งใจอุทิศตนเพื่อผู้อื่นอย่างแท้จริง..

คุณแสงแห่งความดี ขอบคุณสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกชีวิตเรียบง่ายในความเป็นอยู่นี้ แต่ยิ่งใหญ่ในการสร้างผลงานเพื่อความสุขของสังคมนะคะ..

คุณสามารถ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมามอบดอกไม้แก่บันทึกเผยแพร่หนังสือดีๆเล่มนี้..ว่างๆหาโอกาสอ่านแล้วจะได้ความประทับใจหลายๆด้านจากชีวิตจริงที่น่าสนใจทุกช่วงเวลาของ คุณไพบูลย์ นะคะ..

  • ขอบพระคุณเรื่องราวดีดีที่พี่ใหญ่นำมาแบ่งปันค่ะ

สวัสดีค่ะ

อ่านแกนหลักของเรื่องที่พี่ส่งให้ทางความเห็นแล้ว ชอบมากค่ะ

ขอส่งประเด็น การหล่อหลอมสังคมโดยพุทธศาสนามาเพื่อให้พี่พิจารณาดังนี้นะคะ

การหล่อหลอมสังคมไทยโดยพุทธศาสนา

เหตุการณ์ต่างๆในชีวิตที่นำมาร้อยเป็น “เรื่องเล่า” นอกจากจะบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตของบุคคลผู้หนึ่งให้ผู้อ่านได้เห็นภาพและเพลิดเพลินตามผู้เล่าไปด้วยแล้ว ยังเป็นอีกแหล่งของการเรียนรู้ หรือสืบสาวความเป็นไปในสังคม

ดังเช่นเรื่องเล่า “ดังลมหายใจ” ที่ผู้เล่า (อาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์) ได้เรียบเรียงเหตุการณ์ในชีวิตท่านมาเล่าผ่านงานเขียนนี้ ผู้อ่านสามารถเห็นภาพสังคมไทยที่ถูกหล่อหลอมด้วยพุทธศาสนา ความสุขของพุทธศาสนิกชนที่ฉายออกมาจากการดำรงชีวิตโดยนำหลักธรรมมาเป็นแนวทาง ได้จากทั้งภาพวาด และเนื้อความเรียง

พอที่จะเรียบเรียงจากเนื้อเรื่องเล่าได้ดังนี้

1.การเกิดประเพณีเพื่อพระศาสนาโดยเฉพาะ

ดังเช่นที่ผู้เขียนได้เล่าถึงประเพณีการปล่อยโคมลอยเพื่อบูชาพระรัตนตรัย  

เดิมคนในสุวรรณภูมินับถือผี ต่อเมื่อพุทธศาสนาเผยแพร่มาถึง จึงเกิดการผสมกลมกลืนกันระหว่างพุทธกับผี (หรือที่เรียกกันในปัจจุบันว่า “พุทธแบบชาวบ้าน”)  คือมีการนับถือผีและพุทธไปด้วยกัน แต่ยังให้พุทธเป็นประธาน

จึงเกิดความกลมกลืนของประเพณีดั้งเดิมต่างๆกับพิธีกรรมทางศาสนา และเกิดประเพณีต่างๆเพื่อการในพระศาสนาขึ้น

ดังที่เห็นได้จากประเพณีปล่อยโคมลอยดังกล่าว

2.การสร้างเครือข่ายทางสังคม อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากประเพณีทางศาสนา

ในประเพณีการปล่อยโคมลอย ผู้เขียนได้เล่าว่า

“เมื่อโคมลอยลอยขึ้นไปจนถึงลมบน ก็จะมีลมส่งลอยไปไกลได้หลายวัน บางครั้งจากบ้านผมที่ชุมชนบ้านตาลิน อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ดังในปัจจุบันนี้ ก็อาจลอยไปตกถึงจังหวัดพิจิตรและพิษณุโลกบ้าง ........ การรู้กันว่าบนโคมลอยมีสตางค์ อีกทั้งข่าวสารงานบุญ ..... ชาวบ้านปลายทางวิ่งตามเก็บโคมลอยและเปิดจดหมายออกอ่าน เมื่อรู้ข้อมูลที่ส่งและเสี่ยงทายโคมลอยแล้ว ชาวบ้านและชุมชนปลายทางก็จะมีธรรมเนียมนับความเป็นญาติพร้อมกับหาทางส่งข่าวกลับไปยังแถวบ้านผม จองกฐิน หรือขอเดินถือจดหมายกลับไปสร้างความคุ้นเคยเป็นญาติ คอยช่วยเหลือเกื้อกูลและทำบุญด้วยกันในอนาคต ...”

นั่นคือจากประเพณีทางศาสนา ได้ก่อให้เกิดความเชื่อมโยงถึงกันของชุมชนหนึ่งกับชุมชนอื่นๆ สร้างเครือข่ายเพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆของกันและกันทั้งในปัจจุบันและอนาคต

3.ลักษณะของสังคมที่มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอันเนื่องจากการมีวัดเป็นศูนย์กลาง

ในวัฒนธรรมไทยนั้น ชุมชนผูกพันกับวัดและพระอย่างแนบแน่น เนื่องจากวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน พระจึงไม่ได้สอนธรรมแต่เพียงอย่างเดียว หากยังสอนวิชาทางโลกด้วย เช่น วิชาช่าง ศิลปะ การรักษาโรค และมักเป็นผู้นำในการพัฒนาชุมชนด้านต่างๆ เช่น การขุดบ่อน้ำ สร้างสะพาน ผู้ระงับกรณีพิพาทในชุมชนเหล่านี้เป็นต้นอีกด้วย จากการที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เดียวกัน ทำให้เกิดความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจในชุมชนเพื่อกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งอันเกิดประโยชน์ต่อชุมชนโดยส่วนรวม

ในชุมชนที่ผู้เขียนได้เล่าไว้ ก็พบความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยมีวัด หรือ กิจกรรมทางศาสนาเป็นศูนย์กลางได้เช่นกัน ดังเช่น การปล่อยโคมลอยซึ่งไม่สามารถทำได้โดยบุคคลใดเพียงบุคคลเดียวเนื่องจากความยุ่งยากเกินกำลังทั้งกำลังแรงงาน และกำลังทรัพย์ จึงต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชน,  การสร้างโรงเรียนวันครู (๒๕๐๔) ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายๆฝ่าย, การขุดสระน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำบริโภคหลังโรงเรียน เป็นต้น

(อย่างไรก็ดี จากเรื่องเล่านี้ ก็ยังเห็นการเปลี่ยนแปลงในสังคม ที่วัดในชุมชนถูกลดความสำคัญลงด้วย เช่น ศึกษาที่แยกตัวออกจากออกจากวัด จากการจัดการโดยพระ มาเป็นการศึกษาที่จัดการกันเองโดยฆราวาส ซึ่งก็เป็นลักษณะเดียวกับที่พบเห็นได้ในวัดอื่นๆทั่วประเทศ)

4.ลักษณะของอุปนิสัย หรือวิถีชีวิตของคนในชุมชน

หลักธรรมในศาสนาพุทธมีส่วนในการหล่อหลอมลักษณะนิสัยของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากในศาสนาพุทธมีทั้งหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ในทุกแง่มุม เช่น การพัฒนาจิตใจ การดำรงชีวิตให้เหมาะสม และมีความสุขตามฐานะทางสังคม (เช่น ในฐานะผู้ปกครอง ในฐานะแม่ ลูก เป็นต้น) การเกื้อกูลกัน รวมไปถึงความมีระเบียบเรียบร้อยในสังคม

ดังในเรื่องเล่าเรื่องนี้ สามารถพบลักษณะนิสัยที่ถูกหล่อหลอมด้วยพุทะศาสนาได้ในหลายแง่มุม เช่น

-การมีจิตใจที่ดี เช่น หลักพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) เป็นต้น

-การครองชีวิตอย่างสงบสุขในฐานะฆราวาสและเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในสังคม เช่น หลักฆราวาสธรรม (สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ) หลักสังคหวัตถุ 4 (ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตา) หลักสัปปุริสธรรม 7 (รู้จักเหตุ รู้จักผล รุ้จักตน รู้จักกาล รู้จักประมาณ  รู้จักบุคคล รู้จักบริษัท)

-การนำธรรมะมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ชีวิตเพื่อความสุขตามเหตุปัจจัย เช่น หลักปัจจุบันธรรม ชีวิตจึงผ่านความยากลำบากไปอย่างมีความสุขเพราะมอง และ ยอมรับโลก อย่างถูกต้องตามพื้นฐานความเป็นจริงในปัจจุบัน จึงมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่จริงในปัจจุบัน หรือ หลักสันโดษ ยินดีตามที่มี ที่หาได้ จึงไม่ริษยาใคร เป็นต้น

-การถือเอาประโยชน์ที่เลยตาเห็น หรือ สัมปรายิกัตถะ และ ปรมัตถะ นอกเหนือไปจากประโยชน์ปัจจุบัน หรือ ทิฏฐธัมมิกัตถะ ของพุทธศาสนิกชน

 

(ต่อ)

-การดำเนินชีวิตตามมรรคมีองค์ 8 ที่นำมาจัดในลักษณะของบุญกิริยาวัตถุ 10 เพื่อให้เหมาะกับวิถีชีวิตฆราวาส(ทานมัย สีลมัย ภาวนามัย อปจายนมัย เวยยาวัจจมัย ปัตติทานมัย ปัตตานุโมทนามัย ธัมมัสสวนมัย ธัมมเทสนามัย และ ทิฏฐุชุกัมม์)

ดังมีตัวอย่างอย่างมากมายที่พบได้จากเรื่องเล่าค่ะ เช่น การขายผัดไทยแบบเงินเชื่อ ที่ผู้ซื้อนำเงินมาชำระภายหลัง (สัจจะ) การคิดและทำกิจกรรมเพื่อเด็กๆที่ขัดสน (พรหมวิหาร ประกอบกับธรรมอื่นเช่น สังคหวัตถุ) การแบ่งเฉลี่ยความดีให้ผู้อื่น โดยแบ่งหน้าที่กันทำกิจกรรมเพื่อชุมชน เช่น การเลี้ยงอาหาร การขุดบ่อน้ำ  (ปัตติทานมัย) ซึ่งนอกจะเป็นการแบ่งเฉลี่ยความดีกันแล้ว ในส่วนตัวผู้ทำ ยังถือว่าได้บำเพ็ญประโยชน์ (อัตถจิรยา) การยินดีกับความดีของผู้อื่น เช่นการที่ผู้เขียนยินดีกับมารดาที่จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารเด็ก (ปัตตานุโมทนามัย) เหล่านี้เป็นต้น 

ต้องขอบคุณพี่ค่ะที่กระตุ้นให้นำเรื่องดังลมหายใจนี้ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง

จึงทำให้ได้เห็นความงามมากมายที่แฝงอยู่ในเนื้อเรื่องค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่

หนังสือน่าสนใจมากค่ะ

ท่านมีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ดีงาม เรียบง่าย นำไนำมาเป็นแนวทางในการดำรงตนค่ะ

คุณอุ้มบุญ ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกแนะนำหนังสือของบุคคลเพื่อสังคมท่านนี้ค่ะ..หลังจากนี้แล้วคงเริ่มวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไปแล้ว..ลองหาเวลาอ่านนะคะ..จะได้บทเรียนชีวิตดีๆมากมาย..

คุณณัฐรดา ขอบคุณมากค่ะที่ทำการบ้านได้อย่างสมบูรณ์และรวดเร็วมาก..สะท้อนภาพของศาสนธรรมและศาสนพิธีต่างๆที่ผสมผสานเป็นเนื้อเดียวกันกับวิถีชีวิตของปัจเจกและชุมชนประดุจ "ดังลมหายใจ" อย่างชัดเจน และได้เนื้อหาธรรมในเชิงลึกที่น่าสนใจมาก..ขอชื่นชมค่ะ

..พี่ขอนำบันทึกบทนี้ ไป post ที่บันทึกน้องมะปราง และกลุ่มสมาชิก เพื่อแสดงความเคลื่อนไหวของการถอดบทเรียนในกลุ่มของเรานะคะ..

ครูใจดี ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกเล่าความประทับใจชวนกันไปอ่านหนังสือดีๆเล่มนี้ด้วยกัน..รับรองว่าจะวางไม่ลงเลยค่ะ

..วาวๆๆ..ดีใจๆๆ....ที่ น้องครู มาเยี่ยมพี่ใหญ่หลังจากห่างหายไปนาน..รู้ไหมว่า..พี่ใหญ่เวียนเข้าไปทักทายหลายครั้งที่บันทึก..เป็นห่วงและคิดถึงมากๆ..เดี๋ยวจะเข้าไปอีก..หวังว่าจะสุขสบายดีนะคะ..

คุณอ.นุ ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกที่ตั้งใจเผยแพร่หนังสือดีนี้ให้ทราบอย่างแพร่หลาย..เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการทำความดีต่อสังคมค่ะ

สวัสดีค่ะ  พี่ใหญ่

มาส่งความระลึกถึงค่ะ

นำดอกฟักข้าวมาฝากค่ะ

โชคดีมีความสุขค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่

  • สุขสันต์วันหยุดนะคะ

                        

 

***  คงจะมีโอกาสได้รับอรรถรสของหนังสือเล่มนี้ จากการอ่าน...สักครั้งหนึ่ง...ขอบคุณ " พี่ใหญ่ "  นะคะที่กรุณาแนะนำ  *** 


                                                                    

คุณmena ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาทักทายส่งความระลึกถึงกัน พร้อมดอกฟักข้าวสวยงาม..รอผลสีแดงๆห้อยระย้านะคะ..

..ที่สวนบ้านพี่ใหญ่ เมล็ดพันธุ์ที่ได้รับมาจาก ดร.ขจิต มีแต่ใบ ไม่เห็นดอกเลยค่ะ

คุณยาย ขอบคุณมากค่ะที่มาเยี่ยมกันอีกรอบหนึ่งพร้อมภาพดอกกุหลาบสดชื่นหอมหวาน..ขอให้น้องรักมีความสุขมากๆเช่นกันนะคะ..

คุณK.Pually ขอบคุณมากค่ะที่ให้ความสนใจหนังสือดีมีคุณค่าเล่มนี้..เพิ่งเปิดตัวหนังสือไปเมื่อวานนี้(๒๗มีค.)ที่งานแสดงหนังสือแห่งชาติที่ศูนย์ประชุมสิริกิตติ์

..สามารถหาชื้อหนังสือได้ที่ ร้านหนังสือซีเอดบุคสโตร์ หรือหากสนใจเป็นจำนวนมาก และประสงค์จะร่วมสมทบรายได้เข้ามูลนิธิหัวใจอาสา โปรดติดต่อที่ :

wattpaiboon@gmail.com

Dr.Kittiwat@gmail.com

kanchit@tff.or.th

chatikanon@yahoo.com

  • สวัสดีครับ ป้าใหญ่
  • มาอ่าน มาชื่นชม อ.ไพบูลย์  วัฒนศิริธรรม
  • "คุยเรื่องชีวิตธรรม"
  • ขอให้ป้าใหญ่ มีสุขภาพแข็งแรง ครับผม

ครูฐานิศร์ ขอบคุณมากค่ะที่เห็นคุณค่าของหนังสือเล่มนี้..หาโอกาสอ่านนะคะ..จะได้บทเรียนชีวิตดีๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากมาย..

...เมื่อวาน คุณไพบูลย์ขึ้นเวทีเสวนาเปิดตัวหนังสือนี้..ท่านเข้มแข็งและมุ่งมั่นต่อประโยชน์สุขของสังคมอย่างน่าชื่นชมค่ะ..

คุณยาย ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้งามๆที่ส่งมาทักทายกันเสมอ..พี่จะไปเยี่ยมอ่านเรื่องราวของน้องนางบ้านนาที่ส่าสนใจตอนต่อไปอีกค่ะ..

สวัสดีครับ พี่ใหญ่

ดีใจที่พี่ได้สัมผัสกับ

อาจารย์ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม

อาจารย์ผมเองครับ

อาจารย์ตัวเล็ก ๆ แต่มีมุมมองที่ยิ่งใหญ่

เฉียบคม...ลึกซึ้ง...งดงาม

คนอะไรก็ไม่รู้...

เหมือนก้อนหินก้อนเล็ก ๆ

ที่ปากระทบกับพื้นน้ำ 

สามารถก่อแรงกระเพื่อม

ลั่นคลอนทั่วมหาสมุทรครับ

พีใหญ่สบายดีนะครับ 

 

เรียนพี่ใหญ่ที่นับถือ

  • ✿อุ้มบุญ✿มาเรียนให้พี่เป็นแกนนำ รวมพล เขียนถอดบทเรียน " กลุ่มปลูกผักกินได้ "
  • แล้วจะไปเรียนท่านอื่นนำเนื้อหามารวบรวมให้พี่ใหญ่ได้สกัด นะคะ
  • ✿อุ้มบุญ✿ไปเรียนพี่ครูคิมแล้ว

บล็อก "สวนผักข้างบ้าน"  ✿อุ้มบุญ✿ http://gotoknow.org/blog/pukpuk?page=1 "สวนผักข้างบ้าน"

 

คุณทิมดาบ ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกเล่าสิ่งดีๆในหนังสือของคนดีที่น่านับถือในแวดวงการพัฒนาสังคมอย่างต่อเนื่อง..

..ท่านตั้งใจทำหนังสือนี้เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวแบบ "คนธรรมดา" ที่พวกเราสามารถซึมซับความแข็งแกร่งมุ่งมั่น เพื่อความสุขของสังคมอย่างยั่งยืนค่ะ..

คุณอุ้มบุญ ขอบคุณสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกนี้ ที่เป็นกำลังใจแก่คุณไพบูลย์เจ้าของหนังสือค่ะ.พี่ใหญ่ภูมิใจเสนอแบ่งปันทุกคนค่ะ..

..เรื่องการถอดบทเรียนของ "กลุ่มคนปลูกฝักกินได้"..พี่เข้าใจจากบันทึกน้องมะปรางว่า อยากได้ ดร.ขจิต มาเป็นผู้นำกลุ่ม ซึ่งพี่เห็นด้วยค่ะ เพราะเธอคือผู้สร้างแรงบันดาลใจแก่พวกเราหลายคนด้วยการแจกเมล็ดพันธุ์ พร้อมทั้งหมั่นโชว์ผลผลิตงามๆจากไร่พนมทวน

...อย่างไรก็ตาม..ได้เห็น ดร.ขจิต เข้าไปแสดงความขัดข้อง เพราะเธอบอกยุ่งๆกับงานวิจัย..ทำยังไงดีหนอ ??

...เมื่อ น้องอุ้มบุญ ได้ไปชวนน้องคิม มาร่วมด้วย ก็จะเป็นที่น่าดีใจหากเธอตอบรับเพราะเธอที่ผู้ที่ปลูกผักงามมากมาย และมีประสบการณ์ถอดบทเรียนได้น่าอ่านจริงๆ..

....ฝากคุณอุ้มบุญ เชิญ น้องคิม เป็นแกนนำได้ไหมคะ ?..

..พี่ใหญ่อยากกระจายบุคคลอื่นให้ทำหน้าที่นี้บ้าง..ส่วนพี่ใหญ่ยินดีช่วยสกัดในประเด็นที่ถนัดคือ "การปลูกผักในกระถางแบบสวนสวยกินได้"

 

การได้มีโอกาสพบกับบุคคลทีประกอบคุณงามความดีจนเป็นสิ่งสามัญในชีวิตของท่านเช่น อาจารย์ไพบูลย์นั้นเป็นสิ่งน่าปลื้มใจนะคะ

วันนี้อากาศที่อยุธยาดีมากค่ะ ฟ้าโปร่ง มีแดด แต่ไม่ร้อน หวังว่าวันงานบุญที่โรงพยาบาลบ้านแพรกจะอากาศดี จะทำบุญเผื่อพี่ใหญ่และผู้ที่ไปร่วมงานไม่ได้ด้วยค่ะ

คุณนายดอกเตอร์ ขอบคุณมากค่ะที่เห็นคุณค่าของนักพัฒนาสังคมเช่น คุณไพบูลย์ เธอมีกำลังใจที่เข้มแข็งมากๆในการยืนหยัดเพื่อความสุขของสังคม

....พี่ใหญ่ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับ คุณนุช ในงานกุศลครั้งนี้ด้วยนะคะ

ว๊าวววว น่าสนใจมากค่ะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท