เรื่องเล่าระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๔


๒๐  มีนาคม ๒๕๕๔

เรียน เพื่อนครู ผู้บริหารและผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน

วันจันทร์ที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔  ถึงสำนักงานเข้านั่งพักสโมสรเพียงครึ่งชั่วโมง ให้รถไปส่งที่สำนักงาน กกต.จังหวัด ถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว เพื่อรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครเข้ารับการสรรหา กกต.จังหวัด เมื่อคืนนั่งอ่านข้อมูลที่เขาให้มา มีผู้สมัครถึง ๕๑ คน หน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาต้องคัดให้เหลือ ๑๕ คน ส่งไป กกต.ส่วนกลางซึ่งจะคัดให้เหลือ ๕ คนและตามกฎหมาย กกต.อาจสรรหาจากผู้ไม่ได้รับคัดเลือกจากบัญชีจังหวัดหรือจะสรรหามาเองจากบุคคลภายนอกก็ได้  วันนี้ไปนั่งฟังอย่างเดียว ไม่มีการซักการถาม ให้เวลาคนละ ๕ นาที นั่งดูข้อมูลที่เลขานุการเพิ่งให้มา เป็นผู้ชาย ๔๒ คน หญิง ๙ คน อายุ ๖๐ ปีลงมา ๔๐ คน มากกว่า ๖๐ ปี ๑๑ คน  ปริญญาตรี ๑๘ คน ปริญญาโท ๒๘ คน ปริญญาเอก ๕ คน  เป็นข้าราชการบำนาญ ๑๑ คน รับราชการและพนักงานของรัฐ  ๓๐ คน เอกชน ๑๐ คน  ในจำนวนนี้เป็นข้าราชการครูถึง ๑๑ คน  กรรมการสรรหามี ๑๑ คน  เขาให้นั่งประชุมแบบตัวยู ตั้งโพเดี่ยมให้ผู้สมัครมายืนแสดงวิสัยทัศน์ มีการบันทึกเทปวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน  ใช้เวลาทั้งภาคเช้าและบ่ายกว่าจะครบคนก็ประมาณ ๑๕.๓๐ น. นัดหมายประชุมเพื่อชี้ขาดกันในวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๔  กลับเข้าสำนักงานมีแฟ้มเอกสารให้ลงชื่อหลายแฟ้มเหมือนกัน แต่ให้หอบลงมาลงชื่อกันในห้องสโมสร เพราะเย็นแล้ว เหนื่อยมาทั้งวันไม่อยากเดินขึ้นไปชั้น ๓ อีก 

วันอังคารที่ ๑๕  มีนาคม  ๒๕๕๔     เช้าเดินทางไปมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลอลงกรณ์ ตามคำเชิญของคณะครุศาสตร์ เพื่อไปชี้แจงเกี่ยวกับการสอบบรรจุครูประจำปี ๒๕๕๔ ให้นักศึกษาที่จบการศึกษาครุศาสตร์หลักสูตร ๕ ปีฟัง เพื่อเตรียมตัวสอบบรรจุ  ผู้อำนวยการ สพป.ปทุมธานี เขต ๒ นายจำรูญ  พรมสุวรรณ ได้รับเชิญมาร่วมบรรยายด้วย ปทุมธานี เขต ๑ เปิดสอบ ๘ กลุ่มวิชาเอก ได้แก่ กลุ่มวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ สังคมศึกษา พลศึกษา ปฐมวัย/อนุบาล ศิลปศึกษา เขาสนใจฟังกันดีก่อนจบมีคำถามให้ตอบ ๔-๕ คำถาม ที่อยากย้ำ ผู้สมัครสอบแข่งขันต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่รับสมัคร เที่ยงเดินทางกลับมาแวะทานข้าวที่ร้านเพื่อนลุงข้างศาลากลางจังหวัด ข้าวผัดปูของเขาอร่อยเหมือนกัน ลูกค้าส่วนใหญ่สั่งก๋วยเตี๋ยวทาน บ่ายมีประชุม อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ที่ห้องประชุมเล็กติดสโมสรเขต มีเรื่องเสนอเพื่อพิจารณาหลายเรื่อง พอสรุปได้ดังนี้ (๑) แต่งตั้งครูผู้ช่วยที่ผ่านการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มให้ดำรงตำแหน่งครู ๓ ราย คือ นายวันชัย  สุริอาจ โรงเรียนวัดมูลเหล็ก  นางสาววัชรีภรณ์  ดีน้อย โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๖๙ นางศันสนีย์ ยางาม โรงเรียนบางชวดอนุสรณ์  (๒) อนุมัติผลการประเมินด้านที่ ๓ วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ๑๔ ราย คือ นางนพวรรณ  เรืองศรี โรงเรียนวัดนาวง  นางสาวขวัญดาว พลขุนทด โรงเรียนวัดบางคูวัด นางพรพิมล คำเมือง โรงเรียนวัดศิริจันทาราม นางกัลยา  ศรีพร้อม โรงเรียนวัดสุทธาวาส นางสมพงษ์  กลิ่นขจร โรงเรียนบุญคุ้มราษฎร์บำรุง นางจันทรา  ลิ้มทองกุล โรงเรียนวัดเวฬุวัน  นางศิริกุล ใจดี โรงเรียนวัดนาวง นายสถาพร  บุญเรือง นางจีรภัทร์  ทองย่น โรงเรียนอนุบาลปทุมธานี  นายวราเสฏฐ์ เกษีสังข์ โรงเรียนวัดบ่อทอง นางมะลิวัลย์ ศรีเพชร  โรงเรียนวัดมงคลพุการาม นางจิราพร ศรีเพชร โรงเรียนวัดลำมหาเมฆ นางบุญนาค สุริสาร โรงเรียนขจรทรัพย์อำรุง นางอรทัย หวานฉ่ำ โรงเรียนวัดบางคูวัด  กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม นางลัดดา รัฐถานาวิน โรงเรียนวัดสองพี่น้อง  กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพฯ สาขางานเกษตร นายชำนาญ  พึ่งฉิม โรงเรียนวัดตะวันเรือง  กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สาขาแนะแนว นางดารัตน์ ยินดีพบ โรงเรียนชุมชนวัดเสด็จ (๓)  การจัดสรรอัตราที่คืนจากการเกษียณอายุราชการทั้งปกติและก่อนกำหนดให้โรงเรียนที่ขาดครู  (๔) การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ รวม ๒๘ อัตรา มีกลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ  คณิตศาสตร์  วิทยาศาสตร์ทั่วไป ภาษาไทย  สังคมศึกษา คอมพิวเตอร์  พลศึกษา คหกรรมทั่วไป กลุ่มวิชาครู โสตทัศนศึกษา  กลุ่มวิชาครูธุรการ กลุ่มวิชาประมง  การประถมศึกษา กลุ่มวิชาฟ้อนรำ กลุ่มวิชาอนุบาล กลุ่มวิชาศิลปศึกษา (๕) อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการประเมินผลการปฏิบัติงานด้านที่ ๓ ตาม ว.๑๗  เลิกประชุมขึ้นไปทำงานแฟ้มเอกสารที่ห้องทำงานจนเย็น 

วันพุธที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๔  วันนี้ไม่ได้เข้าสำนักงาน เพราะได้รับคำสั่งจาก สพฐ. ที่ ๔๑๐/๒๕๕๔ แต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานประชุมเสวนาเพื่อแต่งตั้ง อ.ก.ศ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ที่มาที่ไปของคณะทำงานชุดนี้ ด้วยที่ประชุม อ.ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปฏิบัติหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวงศึกษาธิการ ในการประชุม เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของ สพฐ. ว่าปัจจุบันไม่มีกลไกให้ สพฐ. ตรวจสอบและกลั่นกรองการทำงานของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานบุคคล จึงตั้งคณะทำงานให้ช่วยกันคิดช่วยกันร่างว่าจะทำอย่างไร อ.ก.ค.ศ. สพฐ. จึงจะเกิดขึ้นได้  เขาเริ่มประชุมกันตั้งแต่เมื่อวาน แต่ไปไม่ได้เพราะติดประชุม อ.ก.ค.ศ. เขต วันนี้พอมีเวลาจึงไปร่วมฟังเขาพูดกัน โรงแรมรอยัล ปริ้นเซส หลานหลวง เยื้องบ้านกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นสถานที่ประชุม  ตั้งใจว่าจะไม่มีความคิดความเห็นอะไรถ้าไม่จำเป็น จะนั่งฟังเขาอย่างเดียว แต่เมื่อมาแล้วก็ถูกบังคับจากประธานการประชุม ท่านชูชาติ ทรัพย์มาก ให้แสดงความเห็น ก็พูดอย่างตรงไปตรงมา อาจจะไม่ถูกใจแต่มีเจตนาดีเต็มร้อย หากจะเปลี่ยนแปลงจริง ๆ ถ้าเลือกได้ทุกฝ่ายเขาก็อยากกลับไปโครงสร้างเดิม เมื่อคิดจะแก้ไขกฎหมายเพื่อปรับฐานอำนาจใหม่ ก็ฝากให้แก้ไขโครงสร้างวิทยฐานะของครูไปด้วย อยากให้นำระบบประสบการณ์และจรรยาบรรณมาใช้เหมือนผู้พิพากษา เช่น เมื่อเป็นครูผู้ช่วยครบ ๒ ปี ประเมินผลการทำงานอยู่ในเกณฑ์รับได้ ความประพฤติดี ก็เลื่อนไปเป็น ครู  เป็นครูครบ ๕ ปี ประเมินผลการทำงานอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ความประพฤติดี เลื่อนเป็นครูชำนาญการ เป็นครูชำนาญการครบ ๓ ปี ประเมินผลการทำงานอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ความประพฤติดี เลื่อนเป็นครูชำนาญการพิเศษ เป็นครูชำนาญการพิเศษครบ ๗ ปี  ประเมินผลการทำงานอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ความประพฤติดี เลื่อนเป็นครูเชี่ยวชาญ ส่วนการเลื่อนเป็นครูเชี่ยวชาญพิเศษจะให้ทำผลงานวิชาการอย่างไรก็ว่ากันไป การเสนอแนวคิดอย่างนี้ เพื่อให้ครูมีสมาธิในการจัดการเรียนการสอน ทุ่มเทเวลาให้นักเรียนเต็มที่  เลิกประชุมกลับแวะเดินพักผ่อนในห้าง Home Pro สาขาราชพฤกษ์ ดูเครื่องใช้ในบ้าน เครื่องมือช่าง และร้านหนังสือ

วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๔  เดินทางไปประชุม ผอ.เขต ทั่วประเทศที่โรงแรมอินทรา ประตูน้ำ รถติดพอสมควร ไม่ค่อยได้ไปย่านนี้นานแล้ว ไม่เหมือนตอนเรียนประสานมิตรเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑  วันหยุดเสาร์อาทิตย์จะนั่งเรือหางยาวมาขึ้นท่าเรือประตูน้ำ เดินเที่ยวเป็นประจำ เพราะประตูน้ำเป็นศูนย์การค้าที่คึกคักที่สุดในสมัยนั้น รวมไปถึงราชประสงค์และสีลม ที่สำคัญมีโรงหนังชั้น ๑ อยู่ที่โรงแรมอินทรา และโรงหนังชั้น ๒ อยู่ฝั่งตรงข้าม พวกเราจะเป็นลูกค้าโรงหนังประเภทหลังเป็นส่วนใหญ่ ค่าตั๋ว ๕ บาท นั่งได้ทั้งวัน ดูจนจำได้ ส่วนมากจะฉายควบ ๒ เรื่องและเป็นหนังจีนกำลังภายใน ที่จอดรถโรงแรมอยู่ชั้น ๓ และชั้น ๔ ทางขึ้นชันมาก เหมือนขึ้นภูเขา นำรถไปจอดชั้น ๔ ใกล้ประตูทางเข้าด้านหลัง ห้องประชุมก็อยู่ชั้นนี้  การประชุมวันนี้แน่นไปด้วย ผอ.รร.ดัง และ ผอ.เขต หาที่นั่งได้ไม่ยากเพราะเขาติดชื่อตำแหน่งไว้หลังเก้าอี้ แบ่ง ผอ.เขตมัธยมกับ ผอ.เขตประถม ไว้คนละส่วน เขากลัวจะชกกันหรืออย่างไรไม่ทราบเจตนา ผมลากมือเพื่อนรักที่ไปอยู่ฟากมัธยมมานั่งคุยกันด้านหลัง คือ ผอ.ทองปอนด์  สาดอ่อน เขตมัธยมเชียงราย-พะเยา ก็ยังพูดกันรู้เรื่องดี ถามทุกข์สุขซึ่งกันและกัน ที่มีอาการคล้าย ๆ กันในวันนี้ คือ อาการเซ็งเป็ด ทำไมไม่เซ็งไก่ก็ไม่รู้  การประชุมเริ่มขึ้นโดยมี ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เป็นประธาน มีเจ้าหน้าที่ สพฐ.เจ้าของเรื่องการรับนักเรียน ดร.กฤษณา สว่างแสง นั่งขวามือ มีผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมดังในกรุงเทพฯนายสุวัฒน์ วิวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) นั่งซ้ายมือ เรื่องแรกที่ชี้แจงกันเป็นเรื่องแนวปฏิบัติในการรับนักเรียน แต่ปีนี้มีนโยบายให้การรับนักเรียนเป็นจุดเริ่มมิติใหม่การบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดโอกาสและคุณภาพการศึกษา สองเรื่องเป็นที่มาของการจัดระเบียบการรับนักเรียนขึ้นใหม่ และเรื่องคุณภาพจะเกิด ถ้าไม่ปล่อยให้มีการรับนักเรียนมากจนล้นห้อง ทุกคนเข้าใจเรื่องนี้ แต่มีแนวปฏิบัติที่ทยอยมาเป็นชุด ๆ จึงขอชี้แจงให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ดร.กฤษณา สว่างแสง  กล่าวว่ามาตรการการรับนักเรียนปี ๒๕๕๔ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประการที่หนึ่งให้สถานศึกษารับนักเรียนตามแผนการรับนักเรียนและปฏิบัติ  ตามกฎ ๙ ข้อ ขณะนี้มีแผนการรับนักเรียนของทุกโรงเรียนขึ้น web แล้ว (๒) การรับรอบเดียวให้ประสานโรงเรียนคู่พัฒนาและเครือข่ายให้ชัดเจนว่ารับร่วมกัน เพื่อให้เขตจัดหาที่เรียนให้เด็กที่สอบไม่ได้ (๓) การขยายถึง ๕๐ คนต่อห้อง ไม่ใช่ให้เพิ่มเพื่อรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ ดังนั้นอาจรับเกิน ๔๐ แต่ไม่เกิน ๕๐ ตามแผนที่แจ้งมา ที่เพิ่ม ๑๐ คนไม่ใช่รับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษเท่านั้น (๔) การรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ ให้ประกาศจำนวนที่ชัดเจน ห้ามใช้รับเพื่อเรียกรับเงิน (๕) รับนักเรียนแล้วส่งรายชื่อนักเรียนที่ประกาศผลสอบ และส่งรายชื่อนักเรียนที่มอบตัวอีกครั้ง ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวม ๒ ครั้ง (๖) เปิดศูนย์ประสานการรับนักเรียนถึง ๓๐ เมษายน ๒๕๕๔  (๗) หากมีผลกระทบต่อการนำนโยบายไปปฏิบัติ แจ้งกระทรวงศึกษาธิการทราบทันที (๘) ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ร่วมมือกับศูนย์ประสานการรับนักเรียน กรณีมีเรื่องร้องเรียน ในการตอบกลับเรื่องต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว และให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนอำนวยความสะดวกคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการรับนักเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้ง ซึ่งมี ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ เป็นประธาน

                หลักการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษต่างจากที่ผ่านมา (๑) ไม่มีการรับฝากเด็กและไม่เรียกรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใด (๒) บุคคลหรือองค์กรที่เสนอชื่อนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ ต้องมีความเกี่ยวพันโดยตรงกับนักเรียน เช่น จะต้องเป็นบุตรของ อบจ.เท่านั้น (๓) ไม่ให้แบ่งโควตาไปรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ

                แนวปฏิบัติการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษรับได้ใน ๗ ประเด็นเท่านั้น โรงเรียนอาจรับไม่ครบทั้ง ๗ ข้อ ก็ได้ (๑) เป็นนักเรียนที่ได้คะแนนสอบเท่ากันในลำดับสุดท้าย (๒) เป็นนักเรียนที่มีข้อตกลงในการจัดตั้งโรงเรียน (๓) เป็นนักเรียนที่เป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาส  (๔) เป็นนักเรียนที่เป็นบุตรผู้เสียสละเพื่อชาติหรือผู้ประสบภัยพิบัติที่ต้องได้รับการสงเคราะห์เป็นพิเศษ (๕) เป็นนักเรียนโควตาตามข้อตกลงของโรงเรียนคู่สหกิจหรือคู่พัฒนา หรือโรงเรียนเครือข่าย (๖) เป็นนักเรียนที่เป็นบุตรข้าราชการครูหรือบุคลากรของโรงเรียน และ(๗) เป็นนักเรียนที่เป็นบุตรของผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ใน ๗ ประเด็นนี้ คณะกรรมการติดตามตรวจสอบการรับนักเรียน ได้ประชุมสรุปให้รับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษตาม ๗ ประเด็นนี้ ดังนั้น ที่ประกาศไปแล้ว ไม่ตรงตาม ๗ ประเด็น ก็ต้องยกเลิกและประกาศใหม่ พอถึงตรงนี้เสียงบ่นของผู้อำนวยการโรงเรียนทั้งหลายดังขึ้นแบบไม่พอใจ เลขาธิการ กพฐ. ต้องให้ ดร.สุวัฒน์ วัฒนานนท์ ชี้แจงเพิ่มเติม ฟังแล้วไม่เป็นที่ยอมรับของผู้อำนวยการโรงเรียนส่วนใหญ่ จากนั้นมีตัวแทนออกมาสะท้อนปัญหา เช่น ผู้อำนวยการโรงเรียนนวมินทร์ สตรีวิทยา ๒  ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ผู้อำนวยการโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ผู้อำนวยการโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง  ฟังเขาพูดกันแล้วจึงรู้ว่าแต่ละคนไม่ธรรมดา ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน  เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน อธิบายเพิ่มเติมให้ทุกคนรับทราบข้อมูลและหาทางคลี่คลายปัญหาต่อไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้เหตุผลว่าต้องประกาศเร็ว เพราะถ้าทิ้งไว้นานจะทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนหนักใจมากขึ้น เพราะคนฝากมักฝาก  หลังประกาศแล้ว สำหรับเงื่อนไขก็พยายามประกาศให้เอื้อกับบริหารจัดการของโรงเรียนด้วย และวันมอบตัวจะทำให้โรงเรียนสามารถใช้จำนวนที่เหลือรับเด็กที่สอบขึ้นบัญชีได้เพิ่มด้วย

               การส่งรายชื่อจะส่ง ๒ ช่วงเวลา คือ ครั้งแรกหลังการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ การสอบและจับสลาก ครั้งที่ ๒ หลังมอบตัว ดร.กฤษณา สว่างแสง  สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ม. ๑ การเรียกสำรองให้เรียกจากบัญชีสอบทั่วไป ประกาศวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๔ หากมีสละสิทธิ์ เรียกสำรองได้อีกวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๔ ม. ๔        ประกาศเงื่อนไขพิเศษ  วันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๔n ประกาศผลนักเรียน ม. ๓ เดิม เรียนต่อ ม. ๔ ภายในไม่เกิน วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๔ การรับนักเรียนเพิ่ม (ไม่เกิน ๒๐%) ประกาศผลวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๔ อาจใช้คะแนน ONET, GPAX หรือเรียกสำรองจากสอบ

                 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่ากระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงที่ต้องดูแลคนส่วนใหญ่ กระทบถึงพี่น้องประชาชน ถ้าทำไม่ดีก็จะถูกฝ่ายค้านอภิปราย ปีนี้เรื่องต่าง ๆ ที่ดำเนินการไปด้วยความช่วยเหลือของทุกท่านผ่านไปด้วยดี แต่ก็ไม่มีเรื่องใดที่ไม่มีอุปสรรคและข้อขัดแย้ง ซึ่งต้องช่วยกันแก้ไข เรื่องการรับนักเรียนเป็นเรื่องใหญ่กว่า ๕ ฟรี ๔ ใหม่ และคุณภาพการศึกษา ตามนโยบายการปฏิรูป เพราะเรากำลังร่วมกันอภิวัตรการศึกษา ใหญ่กว่าเรื่องการปฏิรูป เพื่อเปลี่ยนค่านิยมของสังคมไทย การสร้างทางเลือกตามความถนัดอย่างหลากหลาย สร้างระบบคุณภาพนักเรียนและคุณภาพการศึกษา จึงเชื่อว่าทุกท่านจะเป็นเพื่อนร่วมสมัยในการเปลี่ยนไปสู่การอภิวัตรนี้ เพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ โดย รมว.ศธ.พร้อมจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นจากนโยบายนี้ ด้วยเหตุผลคือ (๑) ต้องการเห็นคุณภาพการศึกษาสูงขึ้น โดยให้โรงเรียนดี ดีมากขึ้น (๒) คุณภาพ คือ สิ่งที่สังคมเรียกร้อง ทำให้คุณภาพโรงเรียนให้ใกล้เคียงกัน เป็นการร่วมพลังเขยื้อนภูเขา เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในโลกนี้ เปลี่ยนได้โดยคนผู้น้อยร่วมกันเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น จากการไปดูงานต่างประเทศหลายแห่งไม่มีการฝากเด็ก เป็นการเรียกร้องจากชุมชน แต่เราเริ่มจากข้างบนลงไป จึงขอความร่วมมือทุกท่าน (๓) ทำอย่างไรให้สังคมตระหนักถึงการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาอย่างเปิดเผย โปร่งใส เชื่อว่ากรรมการต่าง ๆ ครั้งหนึ่งอย่างน้อยไม่มีลูกเรียนในโรงเรียน      แต่อยากเห็นโรงเรียนมีคุณภาพ ซึ่งเราต้องสร้างความตระหนักรู้ สร้างระบบระดมทรัพยากรอย่างโปร่งใสขึ้น ให้ผู้ปกครองยอมรับ (๔) ในฐานะครู เข้าใจผู้บริหาร ครูไม่อยากเห็นหนังสือร้องเรียน ผู้บริหารทุจริตจากการรับเงินฝากเด็ก ซึ่งได้รับหนังสือร้องเรียนแล้วกว่า ๓๐ โรง แต่พยายามให้ความเป็นธรรมทั้ง ๒ ฝ่าย เหตุการณ์เกิดขึ้นจากบริบทเก่า ๆ ที่รับฝากและรับเงินใต้โต๊ะได้ จึงขอให้ทำให้ถูกต้อง โดยให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดูแลให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาช่วยดำเนินการให้เหมาะสม  ไม่อยากเห็นผู้ปกครองต้องให้เงินโรงเรียน เพื่อให้ลูกได้เข้าเรียน แต่ให้ด้วยความตั้งใจพัฒนาโรงเรียน การทำเรื่องนี้ เป็นเรื่องยากในฐานะนักการเมือง เพราะมีเพื่อนจำนวนมาก  ที่เป็นนักการเมืองที่ต้องพึ่งพากัน แต่ทุกวันนี้ทุกคนเห็นดีด้วย และให้ความร่วมมือเพราะทุกคนได้บรรเทาภาระนี้ลงไป เรื่องนี้จึงสำคัญ หวังว่าทุกคนเข้าใจและเลิกล้มแนวทางเก่า ๆ ออกไปเสีย ถ้าเสนอแนะความคิดในกรอบใหม่เพื่ออภิวัตรการศึกษา จะยินดีรับฟัง ถ้าใครไม่พอใจก็ให้ฟ้องร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการผู้เดียว การเปลี่ยนแปลงมักมีแรงต้านทานเสมอ จึงทราบดีว่าปฏิบัติยาก จึงขอให้ ทุกคนช่วยทำความเข้าใจ อย่าเปิดช่องว่าง เพราะเราต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงค่านิยม ถ้าทำได้ ปีหน้าจะเห็นนักเรียนมีทางเลือกที่หลากหลาย และต่อไปรัฐบาลก็จะถูกกดดันให้พัฒนาให้โรงเรียนมีคุณภาพเท่าเทียมกัน เพราะหลายเรื่องเพื่อคุณภาพสถานศึกษาก็ทำไปแล้วในปีนี้ เช่น โรงเรียนวิทยาศาสตร์ ICT สร้างขวัญกำลังใจครู เรื่องเลื่อนขั้นเงินเดือน การตั้งกองทุนครูของแผ่นดิน เราจะทำทั้งองค์รวมเหล่านี้ ไปปรับเปลี่ยนจุดเล็กๆ ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงความคิด ไฉนเลยจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ไฉนเลยจะเปลี่ยนค่านิยมได้ ดังนั้นทุกวันนี้จึงพยายามเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ท้าทายมาก

                ประเด็นปัญหาที่เสนอ (๑) ประกาศผลนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ วันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๔ ไม่ทันก็ให้เลื่อนเป็นภายในวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๔ (๒) การเรียกสำรองแทนผู้สละสิทธิ์ปีนี้จะมีน้อย เพราะระบบสอบรอบเดียวและระบบรับไม่เกิน ๕๐ คนต่อห้อง ทางออกคือ ถ้ามีบัญชีสอบทั่วไปและบัญชีเขตพื้นที่ ให้เลือกสลับกันไปได้เพื่อความเป็นธรรมและเรียงตามลำดับคะแนน ไม่ให้เลือกจากบัญชีใดบัญชีเดียว (๓) เกี่ยวพันกันโดยตรงกับผู้ทำคุณประโยชน์ เพื่อไม่ให้เป็นโควตาและมีจำนวนมากมาย โดยไม่เกี่ยวพันกับผู้ฝาก ต้องพิสูจน์ได้ แต่ยืดหยุ่นให้โรงเรียนสามารถพิจารณาคนที่ทำคุณประโยชน์กับโรงเรียนอย่างต่อเนื่องได้

               วันนี้ ต้องรับภาระหนัก แต่ต้องอธิบายให้เข้าใจ ถ้าไปเรียนโรงเรียนคู่พัฒนา โรงเรียนดีประจำอำเภอ ต่อไปจะมีการพัฒนาให้มีคุณภาพมากขึ้น จึงขอให้ท่านยืดหยุ่นภายในกรอบความคิดใหม่ ไม่ใช่รับโดยอ้างว่าเป็นสมาคมต่าง ๆ จะต้องไม่ใจอ่อน เชื่อว่าเราจะข้ามพ้นจุดนี้ได้ และเชื่อว่าจากการได้รับฟังความคิดเห็นและประชุมร่วมกัน กำลังได้รับการขานรับจากประชาชน ๘๕% เพราะเด็กเข้าเรียน ม. ๑ และ ม. ๔ ปีนี้ส่วนใหญ่กำลังเตรียมปรบมือให้ เพียงแต่ต้องอดทนและเข้มแข็งเพื่อข้ามพ้นจุดนี้ไปให้ได้ จึงต้องขอความร่วมมือเพื่อความภาคภูมิใจว่าเราได้ช่วยกันอภิวัตรการศึกษา นำไปสู่คุณภาพการศึกษา และคนมองด้วยความชื่นชม  ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย (แกนนำเรียนร่วม) ถามว่า (๑) เด็กพิการมาสมัคร ไม่ได้กำหนดไว้ในเงื่อนไขพิเศษ ไม่มีหลักฐานการตรวจจากแพทย์ รมว.ศธ. บอกว่าให้ประสานผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแก้ปัญหา หลักการ คือ ทำถูกต้องตามนโยบาย เอานักเรียนเป็นตัวตั้ง และอธิบายได้ (๒) โรงเรียนมาตรฐานสากล ไม่มีหนังสือเรียนเป็นภาษาอังกฤษ  รมว.ศธ.ตอบว่า เพื่อขับเคลื่อนไปสู่ English Program พร้อมสู่อาเซียน ถ้าอยากมาเรียนก็ต้องยอมจ่ายมากขึ้น เพื่อซื้อเพิ่มจากมาตรฐาน ใช้งบเรียนฟรีซื้อไม่ได้ เป็นการพิสูจน์ฝีมือผู้บริหาร คือ บริหารภายใต้ทรัพยากรจำกัด สามารถระดมทรัพยากรโดยไม่กระทบเด็กที่มีรายได้น้อย และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามบริบทที่แตกต่างได้   ผู้อำนวยการโรงเรียนสมุทรปราการหารือว่าได้รับเงินอุดหนุนจาก อบจ.กว่า  ๕๐๐ ล้านบาท จัดอัตราบุคลากรให้โรงเรียน  มีปัญหาคือการรับเด็กจาก อบจ.ต้องรับแต่ลูกนายก อบจ. เท่านั้นหรือ รมว.ศธ.ตอบว่า  ถูกต้อง แต่ต้องทำความเข้าใจ ไม่ต้องห่วงถ้าเป็นกลุ่มนักการเมือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจะอธิบาย และถ้ายังติดใจก็เชิญพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ เพราะเงินที่อุดหนุนโรงเรียนเป็นภาษีประชาชนทั้งนั้น น้องของท่านเองก็เป็นนายก อบจ. ก็ฝากไม่ได้เหมือนกัน แต่จะให้ตอบแทนเป็นการให้ความร่วมมืออย่างอื่นได้ เช่น พานักเรียนไปแสดงตามงานของจังหวัด เป็นต้น บันทึกไว้ยืดยาวเพื่อเป็นหลักฐานการรับนักเรียนในปีนี้ภาระหนักไปตกที่ ผอ.สพม. อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับ ผอ.สพป. ได้แต่เห็นใจที่เพื่อนลำบาก แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้

               เย็นเดินทางไปเมืองทองธานีเพื่อร่วมงานมงคลสมรสของลูกสาวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นงานช้างหลายเชือก ได้พบเพื่อนชาวใต้หลายคน ทั้ง ส.ส. ผู้บริหารโรงเรียน อัยการ ผู้พิพากษา เป็นงานเลี้ยงแบบค็อกเทล จัดอาหารว่างเป็นจุด ๆ แขกยืนคุยกัน ไม่เน้นการนั่ง ยกเว้นแขกผู้ใหญ่ เครื่องดื่มมีพนักงานมาเสิร์ฟ  แต่มีอาหารหนักประเภทข้าวมันไก่ กระเพาะปลา ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยว อาหารญี่ปุ่น บริการอยู่ด้านข้าง  รัฐมนตรีและ ส.ส.รีบมาและรีบไปเพราะในสภากำลังอภิปรายไม่ไว้วางใจกันอยู่ เดินมาส่งรัฐมนตรีนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติแล้วถือโอกาสกลับที่พักประมาณ ๓ ทุ่ม

 วันศุกร์ที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔  เช้าไปประชุมที่โรงแรมอินทราเป็นวันที่สอง ที่ประชุมไม่หนาแน่นเหมือนเมื่อวันวาน เพราะประชุมเฉพาะผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ภาคเช้าเลขาธิการ ก.ค.ศ. นางศิริพร กิจเกื้อกูล เป็นผู้ให้การอบรม เพราะมีเรื่องมาอธิบายแนะนำและตักเตือน ผอ.เขต หลายเรื่อง ล้วนเป็นเรื่องที่พึงสังวรณ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับเขตและโรงเรียน ได้แต่นั่งฟัง ไม่มีใครซักใครถาม แต่ก็ฟังจนหมดเวลา ก่อนเที่ยงเดินทางกลับปทุมธานี เพราะบ่ายโมงต้องประชุมสรรหากรรมการ กกต. ที่นัดหมายไว้ก่อนแล้ว กรรมการมาประชุมกันครบ ปรากฎว่าผู้สมัครหลายรายขาดคุณสมบัติ เพราะไม่ไปเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา บางรายมีชื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เป็นต้น  การลงคะแนนเป็นการลงคะแนนลับ รอบเดียวได้ครบ ๑๕ คน เป็นอันเสร็จภารกิจ เป็นหน้าที่ของ กกต.จังหวัดและ กกต.ใหญ่ดำเนินการต่อไป
           มุมกฎหมายสัปดาห์นี้เป็นเรื่องการอุทิศเวลาให้แก่ราชการ ผู้อำนวยการโรงเรียน(ผู้ถูกฟ้องคดี) ได้มีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นข้าราชการครูฝึกซ้อมนักกีฬาวอลเลย์บอลชายร่วมกับนาง ม. แต่ต่อมาได้มีคำสั่งให้นาง ม. ไปฝึกซ้อมกีฬาวอลเลย์บอลหญิง ผู้ฟ้องคดีไม่พอใจ จึงยื่นเรื่องขอลาออกจากการเป็นผู้ฝึกซ้อมนักกีฬาวอลเล่ย์บอลชาย ผู้อำนวยการโรงเรียนจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และต่อมามีความเห็นว่าผู้ฟ้องคดีกระทำผิดวินัยฐานขัดคำสั่งหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ เห็นควรลงโทษตัดเงินเดือนร้อยละห้าเป็นเวลาหนึ่งเดือน   ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าตนถูกกลั่นแกล้งลงโทษโดยไม่เป็นธรรม จึงนำคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้เพิกถอนคำสั่งตัดเงินเดือน    ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ผู้ฟ้องคดีในฐานะครูที่ได้รับมอบหมายมีหน้าที่ต้องฝึกซ้อมนักกีฬา รวมทั้งดูแลสวัสดิภาพของนักกีฬาซึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียน และตราบใดที่ยังมิได้เพิกถอนหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งมอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีฝึกซ้อมนักกีฬาวอลเลย์บอลชาย ผู้ฟ้องคดีย่อมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว  การที่ผู้ฟ้องคดียื่นหนังสือลาออกจากการฝึกซ้อมนักกีฬา แล้วไม่ทำการฝึกซ้อมนักกีฬาอีกเลย คงปล่อยให้นักกีฬาซึ่งเป็นเด็กนักเรียนต้องฝึกซ้อมกีฬากันเองโดยปราศจากครูคอยควบคุมดูแล  จึงเป็นการขัดคำสั่งหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ และเป็นการละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร อันเป็นความผิดวินัยตามมาตรา ๘๘ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๙๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งนำมาใช้บังคับแก่ข้าราชการครูโดยอนุโลม  สำหรับพฤติการณ์ของผู้ฟ้องคดีในวันที่ผู้อำนวยการโรงเรียนเรียกผู้ฟ้องคดีเข้าพบ ซึ่งผู้ฟ้องคดีพูดด้วยเสียงอันดัง แสดงกิริยาเกรี้ยวกราด ก้าวร้าว และกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชาโดยมีประจักษ์พยาน ๒ คน ให้ถ้อยคำสอดคล้องตรงกันนั้น ถือได้ว่าไม่สุภาพเรียบร้อยและเป็นการไม่ถือและปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมของทางราชการ อันเป็นความผิดวินัยตามมาตรา ๙๓ และมาตรา ๙๑ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ ด้วยเหตุผลดังกล่าว  คำสั่งลงโทษตัดเงินเดือนจึงชอบด้วยกฎหมาย (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ที่ อ. ๑๗/๒๕๕๐)    

          ก่อนจากสัปดาห์นี้นั่งฟังวาทะท่านผู้ทรงเกียรติในสภาแล้วมีเรื่องสั้น ๆ มาเล่าให้ฟัง

ส.ส. ฉ.ฉิ่ง :   คุณนะไอ้หน้าโง่

ส.ส. บ.ใบไม้ : คุณนะไอ้งี่เง่า

ประธานสภา ช.ช้าง : เอาละเมื่อท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติแนะนำตัวกันเรียบร้อยแล้ว เราจะได้ดำเนินการประชุมกันต่อไป

 กำจัด  คงหนู

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑


 

 

 

หมายเลขบันทึก: 431868เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2011 21:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2014 09:00 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

 
                                                                        ยิ้มเข้าไว้.....แล้วอะไร ๆ จะดีเอง                                      

ขอให้ท่านผอ.เขตฯที่ข้าพเจ้าประทับใจ

จงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงตลอดไป

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท