สุนทรียศาสตร์..เพื่อการเยียวยา


สุนทรียศาสตร์ การเยียวยา

อีกครั้งหนึ่ง.17..มีนาคม2554.ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม...สุนทรียศาสตร์..หลังจากที่พลาดเวิร์คชอปนี้ไปหลายครั้ง..

แรกสุดเคยเข้าเวิร์คชอปสุนทรียสนทนา..การสือสารอย่างกรุณา.ที่หน่วยชีวันตาภิบาลนำโดยอาจารย์สกลอาจารย์เต็มศักดิ์และน้องแยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดอบรม...ประมาณ..ตค.2550..

..ฮือ......นึกถึงบรรยากาศนั้นคราใดแล้วหัวใจจะอบอุ่น..เต็มตื้น..มีความสุข.สุขและสุข..ความรู้้สึกดี..ดี...และดี..มีความรักในมวลมนุษยทั้งมวล.รักทุกอย่าง.พร้อมที่จะให้..ให้..อย่างไม่มีที่สิ้นสุด..จนนำมาถึงซึ่งการจัดเวิร์คชอปเล็กๆ ในหน่วยงานอีกหลายครั้งหลังจากนั้น....

...ครั้งกระโน้น..กลุ่มที่เข้าเวิร์คชอปด้วยกันยังคงมีการติดต่อพูดคุยกันผ่านอีเมล์ที่อาจารย์สกลเรียกว่า ชุมชนสายฟ้าของเรานั่นเอง ได้ทราบข่าวของสมาชิกภายในกลุ่ม สายใยความระลึกถึงยังมีมากมายไม่เสื่อมคลาย..ณ จุดนี้ต้องกราบขอบพระคุณ รศ.พญพรรณทิพย์ ฉายากุล ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นแม่ของชุมชนนี้ที่เชื่อมพวกเราด้วยอีเมล์ดีๆ......ทุ้กวัน..

......แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งแวดล้อมเดิม...บรรยากาศเดิมๆ..ก็ชักพาเราไปสู่สิ่งเดิม..แอลฟ่าไม่ค่อยมี มีแต่เบต้าจัดๆๆทั้งนั้น เราไม่สามารถคงความรู้สึก เตือนตนได้เท่าที่ควรจะเป็น..ทำไมเราไม่..ตนเตือนตนของตนให้พ้นผิิด..ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน..ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน.อย่าแชเชือนเตือนตนให้พ้นภัย...

จริงๆ..ตนเตือนตนไม่ได้แล้ว จึงต้องพยายามมาให้อาจารย์วิธานและอาจารย์สกล. ฮา..เตือน .... ที่มาของการเข้าเวิร์คชอปในครั้งนี้....ก่อนหน้านี้เข้าประชุมSHA contestเมื่อธันวา53 ไม่ทราบว่ามีรายการนี้ เห็นปุ๊บวิ่งรี่เข้าไป ปรากฎว่าโดนตอกหงายเก๋งกลับมา เต็มแล้วค่ะ..ไม่ลงทะเบียนมาก่อนเข้าไม่ได้นะคะ...

เฮอ..ไม่เป็นไร ไปหาหนังสือมาอ่านก็ได้(วะ)..ได้มาหลายเล่ม เล่มหนึ่งที่อ่านแล้วรักจังคือหัวใจใหม่ชีวิตใหม่ของ อ.วิธาน พิมครั้งที่3 แล้ว วันนั้น พยายามเดินหาอ.วิธานหลายครั้งด้วยความคิดถึง..วนเวียนหน้าห้องหลายรอบก็ไม่เจอ อยากได้ลายเซนด้วยนะ.พลาด....

เมื่อได้รับอนุมัติให้เขา้HA forumครั้งนี้ รีบเปิดรายการแต่ละวันดู เห้ย....มีเวิร์คชอปสุนทรียฯ ด้วย..ว้าว........ดีใจจัง..ดูรายชือวิดยากร อ.วิธาน อ.สกล .อวรวุฒิ..ยิ่งดีใจขึ้นไปอีก ต้องรีบลงทะเบีบยจองแล้ว..เปิดลงทะเบียนวันแรกก็จัดการเลย faxเอกสารเรียบร้อย บอกตนเองว่า เที่ยวนี้ อวยพร  ต้องไม่พลาด..ขอบูสเตอร์ตนเองสักครั้งนึงเถิด ก้อ...ตนเตือนตน..ไม่ได้แล้วนี่...

สมใจ...ช่วงแรกอ.สกลให้ฟังดนตรี..หลายๆรูปแบบ ฟังแล้วสะท้อนความรู้สึก..จริงๆนะ ฟังเพลงหรือดนตรีบรรเลงคราใด จะมีความสุขทุกครั้ง บางครั้งฟังแล้วดื่มด่ำ.. เศร้า เหงา อ้างว้าง โดดเดี่ยว บางครั้งฟังแล้วตื่นเต้น สนุกสนุก..คึกคัก ..เมื่อปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกตามไป เราก็จะ..ได้ยิน....สิ่งที่เรา..ฟัง..ยิ่งหลับตาฟัง..ยิ่งได้ยิน..ชัด..ใช่ที่ผ่านมา บางครั้งเราฟัง แต่เราไม่ได้ยิน....

จากนั้น..ให้หยิบของใกล้ตัวมาชิ้นนึงแล้วก็เขียนถึงสิ่งนั้น...ตนเองได้หยิบมือถึิอขึ้นมา ก็เขียนรำพึงรำพันเสียมากมายถึงความเป็นมา....สุดท้ายจึงได้รู้ว่า มือถืออันนี้แม้ราคาถูกๆ  แต่มันก็รับใช้เรามาอย่างซื่อสัตย์..ไม่เคยเกเรหรือรวนเร.. แต่เราก็ทิ้งๆ.ขว้่างๆ..มัน ไม่ดูแลมัน...(ใช้คำว่ามัน..พูดไม่เพราะนะ)..เราไม่ได้รักมันไม่เอาใจใส่เท่าที่ควร แต่ขาดเขาทีไรก็รู้สึกทุกที.........นี่แหละน้า ทำให้รับรู้ความจริง...ที่มีคนบอกว่า...คนเราไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือคุณค่าของสิ่งใกล้ตัว เราไม่ค่อยเกรงใจคนใกล้ชิดที่สุดไม่ว่าจะเป็นสามี ลูกหรือเพื่อนรักของเรา แต่เราไปเกรงใจคนอื่น ที่ไม่คุ้นเคย ใครก็ไม่รู้บางครั้งเพิ่งเจอด้วยซ้ำ...จำไว้นะทีหลังอย่าทำ..หุหุ..

บ่าย..ได้ดูคลิบ departure 3 ตอน ดูหนังเรื่องนี้มาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งที่1-2 ไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะมัวแต่ร้องไห้ น้ำตาไหลพรากๆ...ฮา..ร้องไห้แล้วก้อดีนะ...ครั้งนี้ก็เช่นกันพี่ติ๊กซับน้ำตาบ่อยครั้ง ..กินใจทุกครั้งที่ดู..คลิบสุดท้าย พระเอกแต่งศพพ่อ...หลังจากที่อาจารย์ให้สะท้อนคิด พี่ติ๊กเขียนได้สั้นๆว่า แท้จริงความรู้สึกดีๆๆนั้นคงอยู่กะเราตลอด แต่ทำไม่คนเราชอบเอาความรู้สึกทางลบมาบดบังความาู้สึกดีๆ ยิ่งใครด่าว่าเรา แล้วเรายิ่งจำ ยิ่งตอกย้ำอยู่นั่นแหละ ..บ้าป่าว...(ว่าตัวเองนะ)

..สุดท้ายต้องลาจาก..พี่ติ๊กเขาไปลาอาจารย์วิธาน ด้วยความรู้สึกขอบพระคุณ รัก คิดถึงดีใจ...เต็มๆ  อีกหลายความรู้สึกบอกไม่ถูก..พี่ติ๊กได้สวมกอดอาจารย์หลายครั้งด้วยความรู้สึกดีนี้.......

นี่เป็นการบูสเตอร์ที่คุ้มแสนคุ้ม  นี่เป็นการเยียวยาความรู้สึกพร่องของตนเอง..ขอบคุณ..ขอบคุณและขอบคุณ..

หลังจากที่ร่ำลาอ.วิธาน เห็นผู้เข้าอบรมรุมถ่ายรูปกับทีมวิทยากร พี่ติ๊กจึงได้รำพึงกะน้องที่มาด้วยกันว่า กอดอ.วิธานแล้ว อ.สกลค่อยไปกอดที่มอ.ก็แล้วกัน..น้องบอกว่า นี่ไง..พี่พูดอยู่หยกๆว่า..คนใกล้ตัวแล้วไม่สนใจ พี่เป็นจริงๆนั่นแหละ...น้องเตือนสติ จริงด้วย..นะ งั้นก็เลยไปลาอ.สกล และสวมกอด อ.สกล แรงๆอีกทึนึง...

ขอบพระคุณเวิร์คชอปนี้อย่างสุดซึ้ง

จบตอนที่...1..........

 

คำสำคัญ (Tags): #สุนทรียฯ
หมายเลขบันทึก: 431802เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2011 08:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 กันยายน 2013 16:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

ไม่ได้เข้าร่วมประชุม เหมือนได้เข้าประชุมเลยค่ะ พี่ติ๊ก จะรออ่านอีกนะคะ

ดีใจที่ได้พบพี่ติ๊กด้วยค่ะ

แก้ว

ขอบคุณมากค่ะพี่ติ๊กที่เขียนเล่าพร้อมทั้งลิงค์มาให้อ่าน เสียดายมากที่ไม่ได้เข้าทั้งที่ขอช่วยพี่ติ๊กให้สมัครแล้วด้วย เพราะตอนสมัครไม่ได้คิด ( ไม่มีสติ ) ว่าตนเองจะต้องพูดบรรยายในวันที่ 17 มี.ค. บรรยายเสร็จมีน้องเข้ามาสอบถามวิธีการพร้อมข้อข้อมูลต่างๆ พี่จุดก็เลยไม่ได้เข้าไปฟังอาจารย์บรรยาย ( ไม่มีสติรอบ 2 )

อาจารย์วิธานจะมาเป็นวิทยากรเรื่องจิตตปัญญา ให้เครือข่ายPalliative care โรงเรียนแพทย์ ที่นครปฐมปลายเดือนนี้ เสียดายอีกที่พี่จุดไม่ได้เข้า เพราะติดเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม 2 วัน แต่ได้บอกที่ประชุมของฝ่ายบริการพยาบาลว่าต้องส่งน้องเข้า เพราะวิทยากรดีมากๆ ( ฟังเขาบอก รวมทั้งพี่ติ๊กด้วย ) จนตัวเองรู้สึกว่าดีมากๆเหมือนเข้าฟังเอง ที่ประชุมเลยอนุมัติให้น้องเข้า รวมทั้งกรรมการ Palliative ด้วย รวมเป็น 13 คน มาวันนี้พี่ติ๊กบอกว่าเจอ อ.เต็มศักดิ์ อาจารย์บอกว่าให้โควต้า รพ.ละ 2 คนเอง อ้าว! ก็ไม่ทราบแล้วน้องๆบางคนก็ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว ต้องรีบสื่อสารเรื่องนี้ให้น้องๆทราบ เขียนเสียยืดยาวเพื่อให้ทราบว่ามีคนอีกเยอะที่เสียดายการเรียนรู้ที่ดีๆ แต่คิดว่าคงมีโอกาสได้เรียนรู้แน่ แต่ช้ากว่าคนอื่น

         ขอขอบคุณพี่ติ๊กอีกครั้งค่ะที่เขียนเล่า

พี่จุดขา น้องๆเราได้เข้าทั้งหมดค่ะ ถามน้องมุ้ย(นุชระพี)แล้ว โอเคยังมีที่ว่างค่ะ

สักวันพี่จุดคงได้เข้าWSดีๆเช่นนี้ค่ะ

ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้เหมือนกันค่ะชอบมาก ม๊ากๆ ได้อะไรหลายอย่างในครั้งนี้และก็นำสิ่งที่ได้รับมา นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในโรงพยาบาล ว่าใครเข้าประชุมHA.ปีนี้ใครได้อะไรมาบ้าง เรียกว่าส่งมาประชุมแล้วต้องคุ้มค่า ปีหน้าถ้ามีคงขอเข้าห้องนี้อีก แต่ต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าไปด้วย อบรมอะไร้ซึ้งจัง  ( เจ๊ไก่ค่ะ )

จริงด้วยค่ะ   น้ำตาร่วงไปหลายรอบค่ะ อิอิ

เพิ่งได้อ่านเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นจริงๆ ขอบคุณทุกคำบอกเล่านะคะ

คนเกาะขอบเรียนรู้ขออนุญาตอ่านหลายๆครั้งค่ะ

และประโยคนี้สื่อสารกินใจมากค่ะ

"แท้จริงความรู้สึกดีๆๆนั้นคงอยู่กะเราตลอด แต่ทำไม่คนเราชอบเอาความรู้สึกทางลบมาบดบังความรู้สึก"

พี่ก็เป็นเช่นประโยคนี้แหละเมื่อก่อนเป็นมากเลย

แต่หลังจากได้อ่านคำบอกเล่าถึงอ.ทั้งสามท่านจากหลายๆบันทึก

มันก็สะท้อนใจตัวเองได้เช่นกันที่ชอบเอาความรู้สึกดีๆไปแอบไว้แล้ว 

จนความรู็สึกลบโผล่ขึ้นมาผงาด และหลงลืมความรู็สึกที่ดีที่มีอยู่ก้นบึ้งหัวใจไปเลย

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท