ก่อนจะเล่าเรื่องขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะชื่อสุภามาศ บุญเชิดค่ะ เป็นครูผู้สอนมา 20 ปีแล้วค่ะและขณะนี้สอนเด็กปฐมวัย อยู่โรงเรียนขนาดใหญ่ประจำจังหวัดเด็กน่ารักน่าชังนะคะวัย 4-5 ขวบไร้เดียงสาและจริงใจ
เรื่องมีอยู่ว่าตอนเปิดภาคเรียนใหม่ดิฉันได้รับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 1 เป็นเรื่องธรรมดาที่เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นวันมหาวิปโยคในครอบครัวก็ว่าได้ค่ะเพราะเด็กส่วนใหญ่จะมีความรู้สึกว่าถูกพรากจากอกแม่มาอยู่กับครูซึ่งไม่เคยเห็นหน้าและรู้จักกันมาก่อนซึ่งดิฉันจะชินกับภาพแบบนี้ทุกปีและเด็กพอเห็นเพื่อนร้องก็จะร้องตามกันทั้งห้องบางคนร้องมากเพลียหลับไปเลยก็มีพอตื่นขึ้นมาก็ร้องต่อ
ปีนี้ดิฉันสังเกตเห็นเด็กชายคนหนึ่งนอกจากร้องไห้แล้วยังเหงา เหม่อใจลอย ไม่พูดกับเพื่อน กลัวทุกคนที่เข้าใกล้เมื่อครูถามก็จะตอบเสียงเบาๆหรือไม่ก็ส่ายหน้า บางครั้งจะพูดไม่รู้เรื่องชอบเล่นอยู่คนเดียวเวลาครูพูดด้วยบางครั้งไม่สู้หน้า และบอกว่าไม่อยากมาโรงเรียนอยากไปอยู่กับแม่ บ้าง ไม่รักครูคนใหม่บ้าง
เวลาผ่านไป 1 เดือนหลังจากที่เพื่อนๆในห้องเริ่มปรับตัวเข้ากับเพื่อนและครูได้แล้วดิฉันได้ตั้งหลักมาหาเขาใหม่ จะจ้องเอาไว้เลยว่าแม่จะมาส่งตอนไหนแล้วรีบไปรับจูงมือเดินเข้าห้องทุกวัน พูดคุยกับเขาด้วยประโยคที่ให้เขาตอบสั้นๆ ง่ายๆ เอามือลูบที่ศีรษะเบาๆทุกวัน แต่ก็แปลกค่ะถึงเวลานอนก็ไม่ยอมนอนทั้งห้องมีอยู่คนดียวดิฉันก็คิดหนักว่าจะทำยังไงดี เพราะเด็กคนนี้นอกจากไม่อยากมาโรงเรียนแล้วยังไม่ชอบนอนอีก จึงหยิบนิทานมาเล่าให้ฟังและถามเขาว่าชอบฟังนิทานไหมเขาบอกว่าชอบ
จากนั้นดิฉันจึงเล่านิทานให้เขาฟังทุกวันแล้วจึงให้เขานอน ช่วงสัปดาห์แรก ให้ฟังอย่างเดียวต่อมาก็เริ่มให้เขาเล่าย้อนกลับเรื่องราวเกี่ยวกับนิทานโดยดิฉันก็ช่วยเชื่อมโยงจนจบเรื่องดิฉันสังเกตเห็นว่าเขาก็เริ่มโต้ตอบ และดูเหมือนเขามีความสุขมากยิ่งขึ้น อ้อ.. ลืมบอกไปว่าขณะที่ดิฉันเล่านิทานก็ให้เขาเอามือวางที่ตักดิฉันบ้างกอดเอวไว้บ้างแบบที่เขาไม่รู้ตัวค่ะ
วันที่ดิฉันดีใจที่สุดคือวันที่แม่เขามาบอกว่าลูกอยากมาโรงเรียนเพราะครูเล่านิทานให้ฟังและต่อไปเขาจะเล่านิทานให้ครูฟังบ้าง ดิฉันจึงขอความร่วมมือกับผู้ปกครองให้เล่านิทานให้ลูกฟังแล้วให้เขามาเล่าให้เพื่อนฟังในห้องเรียนจากนั้นเมื่อเขามีเรื่องมาเล่าให้เพื่อนๆฟังเพื่อนคนอื่นๆก็ขอเล่าบ้างจึงมีเรื่องมาเล่าสลับกันทั้งห้อง
สิ่งที่ดิฉันภูมิใจคือเมื่อใช้วิธีเล่านิทานแล้วทำให้เขากล้าพูดมากขึ้น และอยากเล่าเรื่องราวต่างๆ เขาอยากมาโรงเรียนทุกวันพ่อแม่ก็มีความสุขเมื่อเห็นลูกเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นสรุปได้ว่าหลังจากที่ดิฉันดูแลอย่างใกล้ชิดและสร้างความคุ้นเคย กระตุ้นชวนให้พูดคุยและจัดกิจกรรมเล่านิทานพบว่าพัฒนาการทางการพูดของเขามีความก้าวหน้าดีขึ้นเป็นลำดับ มีความมั่นใจที่จะพูดคุยโต้ตอบกับครูและเพื่อนๆมากขึ้น
ไม่มีความเห็น