ผมได้คำนี้มาจากหนังสือ “บันทึก นึกได้เอง” ของท่านพุทธทาสภิกขุ
ที่ท่านบันทึกไว้ในสมุดบันทึกประจำวันของท่าน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ สมัยตั้งแต่ผมกำลังหัดเดิน ท่านก็ก้าวมาถึงระดับขั้นสูงมากแล้ว
ท่านได้เตือนว่า เราไม่ควรหลงระเริงกับสิ่ง “ปิดบัง” ความทุกข์ เพราะไม่ว่าจะเป็นจะทำให้เราหลงเข้าใจผิดว่า “ไม่มีทุกข์”
ที่เป็นเครื่องปิดกั้นการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจความเป็นจริงของธรรมชาติ
ฉะนั้น ในการตีความของผมเอง
ผมคิดว่าน่าจะเป็นการใช้สิ่งเหล่านี้อย่างระมัดระวัง
ที่จะไม่ไปรบกวนเส้นทางแห่งความเข้าใจธรรมชาติและการดับทุกข์ ครับ
ธรรมะสวัสดีครับ
อ่านแล้วก็จริงอย่างที่ท่านพุทธทาสภิกขุ อ้างไว้ สิ่งปิดบังความทุกข์
จะก่อให้เกิดทุกในภายหลัง อย่าง สิ่งประดิษฐกรรมสมัยใหม่ ที่มาในนามของเทคโนโลยี กำลังจะก่อให้เกิดปัญยหาสังคม ตามมา เช่น เกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์ และอื่นๆ อีกมายมาย
-ทุกวันนี้ผลิตขึ้นมายั่วกิเลสกันเต็มตลาด...ราคาถูกๆ
ทำอย่างไรเราจะสั่งสอนให้ลูกศิษย์เราไม่งมงาย..และหลงบริโภคสินค้าเหล่านี้ล่ะ
-ห้างสรรพสินค้าก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด
เยาวชน... ต่างก็นิยมชมชอบหนีไปเดืนในห้องแอร์เย็นๆ...
ใครล่ะที่จะช่วยเรารับผิดชอบ???????
คงไม่พ้น อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ครับ