เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๔ ทีม ComMedSci ออกไปถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการใช้ชุดทดสอบสเตรียรอยด์ แล้วติ๋วแอบใจดี เพราะมีอสม. อาสากลับไปเอาตัวอย่างที่กินที่บ้าน มาทดสอบ บอกแป๊บเดียว หายไปไม้ถึงครึ่งชั่วโมง กลับมาพร้อมตัวอย่างที่ ตรวจเจอ Steroid แบบจะ ๆ ได้ข้อมูลเพิ่มเติ่มว่า กินกันทั้งหมู้บ้าน ลองอ่านดูนะคะ อะไรส่งผลให้พี่อ้อรู้สึกหมดแรงได้เหมือนชื่อเรื่อง
หลับไปนิดหนึ่งก็ตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้า ลืมตามองเพดานด้วยความสงสัยในตัวเองว่า “เป็นอะไรไปนี่ ทำไมตื่นเร็วจัง” แต่ก็ไม่คิดว่าจะลุกจากที่นอนหรอกน๊ะ คิดว่า “เดี๋ยวนอนไปเรื่อย ๆ ก็คงจะหลับไปเอง” นั่นคือความคิดสุดท้าย แต่......ไม่เป็นอย่างที่คิด คำพูด ๆ หนึ่งก็ดังขึ้นมาในหัวว่า “คุณพ่อเขากลัวจริง ๆ เขาคงเจอหนักอยู่” นี่เป็นคำพูดจากน้องที่ได้ร่วมชะตากรรมกันมา และแล้วสมองที่มีเครือข่ายโยงใยสลับ ซับซ้อนที่ใคร ๆ ก็ทราบว่าสามารถคิดไปเรื่อยจนหาที่หยุดไม่ได้ สุดท้าย.....และในที่สุดก็ผ่ายแพ้กับตัวเอง คิดไปเรื่อยได้ขนาดนี้ ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดคิดไปได้ ก็เลยลุกจากที่นอนดูนาฬิกา “โธ่ ! ตีหนึ่งอยู่เลย พรุ่งนี้เช้าจะเอาแรงที่ไหนไปพื้นที่” (อยากจะร้องไห้ ......เสียดายเวลานอนจัง) แต่ไหน ๆ ก็นอนไม่หลับอยู่แล้วก็เปิดคอมฯสักหน่อย เพื่อที่จะได้เขียนอะไรบ้างคงจะดีขึ้น เมื่อคิดไตร่ตรองถึงประโยคที่น้องบอกก่อนกลับบ้าน ก็พอจะทราบมาบ้างว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็คิดเหมือนคนไม่เคยเจอปัญหาว่า “คงไม่เป็นไรหรอกมั๊ง เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนได้โทรคุยกับคุณพ่อแล้ว ฟังจากน้ำเสียงก็ไม่หน้ามีอะไร และยังได้รับปากกับพ่อไปแล้วว่า ทางเราก็สอนให้ความรู้ ไม่สามารถเอาผิดใครได้ และเรื่องนี้ก็คงจะจบตามที่คุณพ่อได้รับปากกับเขา” นี่คือความรู้สึกที่ได้รับรู้และสรุปเรื่องนี้ไปแล้ว แต่พออาทิตย์นี้คนในพื้นที่ก็โทรมาบอกเหมือนตอบย้ำว่า “ยังไม่จบอย่างที่เราเข้าใจน๊ะ เขาคงได้รับความบอบซ้ำเยอะพอสมควร เราจะทำอย่างไร จะเยียวยาเขาอย่างไร” นั่นนะซิ........แล้วจะทำอย่างไรล่ะ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน ทำงานที่นี่มาก็นาน สอนการใช้ชุดทดสอบมาก็หลายปี ทุกครั้งที่ไปสอนจึงไม่ค่อยห่วง เพราะคิดว่า “สอนให้เขามีความรู้ ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี สิ่งไหนไม่ดีก็หลีก เลี่ยง” ก็แค่นี้เองเพราะคิดว่าสิ่งที่ทำคงไม่ได้ไปขัดผลประโยชน์ใคร แต่.........นะเวลานี้มันไม่ใช่
เรื่องนี้เริ่มมาจากทางเราได้ลงพื้นที่ตามโครงการวิทยาศาสตร์การแพทย์สู่ชุมชน ซึ่งเป็นงานต่อเนื่องมาหลายปี และปีนี้เป็นปีที่ ๒ ที่ทำเกี่ยวกับสมุนไพร การโชว์ในเรื่องสมุนไพรก็คงจะหนีดาวเด่นดวงนี้ไปไม่ได้นั่นก็คือชุดทดสอบสเตียรอยด์ ซึ่งทางพี่ที่อยู่ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ช่วยกันพัฒนาขึ้น จากเมื่อก่อนใช้เป็นทีแอลซี ซึ่งขั้นตอนยุ่งยากกว่านี้ และต้องระวังเรื่องการสูดดมสารเคมี แต่ปัจจุบันง่ายมาก มากเสียจนกระ ทั่งใคร ๆ ก็ติดใจ ชอบมาก ๆ อยากให้เราพัฒนาชุดอื่น ๆ ที่มีขั้นตอนยุ่งยากให้เหมือนชุดนี้ (จะรับเรื่องและส่งข้อความต่อไปให้พี่ที่กรมฯค่ะ)
พื้นที่แห่งนี้ก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เราได้เข้าไปนำร่องในเรื่องสมุนไพร จากนั้นได้นำชุดทดสอบเข้าไป ก็ไปสอนหลายชุดเหมือนกัน แต่ตอนที่เราสอนชุดทดสอบสเตียรอยด์เราได้แจ้งว่า
“ถ้าใครมียาแผนโบราณก็ให้เอามาตรวจด้วย”
และสุดท้ายเราก็ได้ตัวอย่างในพื้นที่จริง ๆ ทุกคนก็ดูตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้เพราะได้เคยใช้ชุดทดสอบด้านอาหารมาแล้ว ๖ ชุด นี่จึงเป็นชุดที่ ๗ ของพื้นที่ที่จะได้ลองทดสอบดู
ตัวอย่างเป็นยาชุดแก้ไข้หวัด แก้ปวดเมื่อย (จริง ๆ ตัวอย่างนี้ไม่เกี่ยว แต่ก็ทำให้เราทราบว่ายังมียาชุดขายในพื้นที่) ตัวอย่างก็เป็นยาน้ำสีน้ำตาล จำนวน ๑ ขวด มีเลขทะเบียนเรียบร้อย ตัวอย่างนี้ถึงจะไม่ตรวจก็ทราบได้ทันทีว่า “มีสเตียรอยด์แน่ ๆ” เพราะผ่านการตรวจมาเยอะมาก เพราะมีเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค ราคาขวดละ ๑๒๐ บาท
ส่วนอีกตัวอย่างหนึ่งบรรจุในซองเดียวกันจะมีอยู่ ๕ เม็ด จะเป็นยาลูกกลอน ๑ เม็ด ยาเม็ดตอกอัดสีแดง จำนวน ๒ เม็ด และยาเม็ดตอกอัดสีน้ำตาล จำนวน ๒ เม็ด ราคาซองละ ๑๘๐ บาท ตัวอย่างนี้เมื่อปีที่แล้วก็มาแรงมาก ตรวจพบสเตียรอยด์เหมือนกัน สรรพคุณของยาทั้งสองตัวอย่างก็คือ แก้ปวดเหมื่อย
ที่นี่ขายดีเพราะชาวบ้านมีอาชีพรับจ้างเป็นรายได้เสริม และเมื่อทานก็หายปวดทันที เหมือนยาหมอเทวดายังงัยยังงั้น ลักษณะของตัวอย่างแพร่กระจายในกลุ่มชาวบ้านโดยมีวิทยุชุมชนและการใช้ดีก็บอกต่อ ใครอยากจะหายจากโรคปวดเหมื่อย ก็จะโทรสั่ง คนที่เราไปสอนก็มีหลายคนที่กำลังรอผู้ขายนำยามาส่ง รวมทั้งคุณพ่อด้วย จากนั้นเราก็แบ่งแต่ละกลุ่มลองทำการทดสอบจากตัวอย่างจริง
พอแต่เห็นเส้นขึ้นเท่านั่นแหล่ะ ทุกคนก็ฮือฮากันใหญ่ จะไม่ให้ตื่นเต้นยังงัยได้ล่ะค่ะ ก็ตัวอย่างจริง ใช้ในชีวิตประจำวันกันจริง ๆ ตรวจเจอซะนี่
จากนั้นแต่ละคนก็จับกลุ่มพูดคุยกันว่า “เจอด้วยจะทำงัยดี”
เราก็เลยสรุปว่า “นั่นนะซิ....เราจะทำอย่างไรดี”
ทุกคนก็มีความคิดหลากหลาย แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ รพ.สต. จึงสรุปประเด็นให้กับทุกคนว่า
“เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียด อ่อน ค่อย ๆ เริ่มจากครอบครัวเราไปก่อนแล้วกัน”
เป็นประโยคเรียบ ๆ ง่าย แต่ความหมายในนั้นต้องมีอะไรแน่ ๆ เพราะจากประสบการณ์ที่ออกพื้นที่มา พอตรวจพบเขาก็จะมีวิธีการแก้ปัญหาแบบฟันธงกันเลย แต่ที่นี่ไม่ จากนั้นเราก็ได้ร่วมทานข้าวด้วยกันและแยกย้ายกันกลับบ้าน เราก็กลับมาด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง สบายใจ
จึงได้โทรไปถามคุณพ่อว่า ได้ยามาจากไหน ทานยังงัย ใครเป็นคนขาย ซักรายละเอียดเพื่อให้ทราบที่ไปที่มา คุยกันก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องสักเท่าไร ขาด ๆ หาย ๆ หลุดก็บ่อย (บ่นโทรศัพท์ ชั่งไม่เป็นใจเลย) แต่สรุปได้ใจความว่า
“คุณพ่อสั่งยาชุด ๕ เม็ดนี้อยู่ รอให้เขามาส่ง เมื่อคุณพ่อทราบว่ามีสเตียรอยด์จึงได้โทรไปยกเลิก และบอกกับเขาว่ายาไม่ดี”
อะไรประมาณนี้ เท่าที่จับประเด็นได้ และมีประโยคแถมท้ายมาจากผู้ขายว่า
“ให้เลิกแล้วต่อกันไปเถอะ อย่าให้เรื่องถึงโรงพยาบาล”
คุณพ่อก็บอกกับคนขายไปว่า
“ครับ ผมไม่เอาเรื่อง จบแค่นี้แล้วกัน”
นี่คือคำพูดที่ได้รับข้อมูลมาจากคุณพ่อ แต่มารู้ตอนหลังว่าคุณพ่อโดนข่มขู่ มันเหมือนกับเราเดินไปวางระเบิดเวลาไว้
ก่อนที่มันจะระเบิดเราก็ออกจากพื้นที่ไปแล้ว แต่คนในพื้นที่นี่ซิ......เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นการได้รับบาดเจ็บทางด้านจิตใจ
แล้วเราล่ะ จะทำอย่างไร จะช่วยอะไรเขาได้บ้าง
ใครก็ได้ช่วยบอกที ช่วยบอกหน่อยเถอะว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
(เคยแต่ทำแลปผิด จากนั้นก็ปลอบใจตัวเอง แล้วก็ไปทำใหม่) งานนี้หมดแรงจริง ๆ
เป็นอีกงานที่ทำแล้วเกิดประโยชน์ตั้งแต่ลงมือทำ แต่ผลกระทบช่างเหมือนระรอกคลื่น ปัญหาสเตียรอยด์ไม่ใช่พึ่งมา มันมีมานานแล้ว แต่ทำไม เรายังแก้ไขไม่ได้สักที มาช่วยกันหาทางออกนะคะ
บอกชื่อยี่ห้อยาหน่อยสิครับ จะได้บอกต่อ...เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านอีกทางครับ
(ทางเมล์ก็ได้)
ทาง อย. หรือ สสจ. ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยหรือค่ะ
เป็นกำลังใจให้กับคนทำงานค่ะ