อันตรายจากสัตว์
ความไม่รู้ เป็นบ่อเกิดของอันตราย เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เวลา ๑๖.๔๕ น. ได้ให้อาหารสัตว์ที่น่ารักคือกระรอก ที่เป็นสัตว์ป่า ที่วิ่งไปมาข้างบ้าน ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยง แต่เป็นสัตว์ที่มีความเชื่องมาก โดยหั่นผลไม้เป็นชิ้นแล้วนำมายื่นให้ กระรอกเมื่อเห็น ก็จะวิ่งมารับผลไม้ที่ยื่นให้จากมือ ซึ่งได้กระทำมาเป็นประจำทุกวันเสาร์อาทิตย์ เมื่อพักอยู่ที่บ้านสระบุรี วันธรรมดาจะพักอยู่ที่บ้านอยุธยา แต่วันนี้เกิดความผิดพลาดในการให้อาหาร ปรากฏว่ากระรอกคาบผลไม้ คาบเลยมาโดยปลายนิ้วชี้ เราตกใจ ก็กระชากมือออกทำให้เกิดบาดแผลยาว เลือดไหลออกมามาก รีบบีบเลือดออกให้มากที่สุดและก็ล้างด้วยน้ำสบู่ ทุกคนในบ้าน(ภรรยา ลูก)บอกไปพบหมอเพื่อฉีดยากันบาดทะยัก เราก็บอกว่าคงไม่เป็นอะไรหรอก จนวันรุ่งขึ้น มาทำงานเพื่อนร่วมงานมาพูดเน้นย้ำอีกว่า อันตรายนะเพราะสัตว์โดยทั่วไปจะมีเชื้อสุนัขบ้าอยู่ในตัวอยู่แล้ว ต้องรีบไปพบหมอ เผอิญตอนเช้าก็มีการประชุมประจำเดือนก็ต้องเข้าร่วมประชุมตามหน้าที่ เมื่อหมดภารกิจการก็ต้องเข้าร่วมประชุมตามหน้าที่ เมื่อหมดภาระกิจ ประชุม เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น.ก็ไปพบหมอ ทางเจ้าหน้าที่ก็ส่งไปที่ห้องฉุกเฉิน ผลสรุป ต้องฉีดยา กระตุ้นบาดทะยัก ปรากฏว่าในวันนั้น โดนหมอฉีดยาถึง ๘ จุด โดยฉีดหน้าแขนทั้งสองข้างเพื่อทดสอบยา ๒ จุด(ว่าแพ้ยาหรือไม่ ๑๕ นาที) จากนั้นก็ฉีดนิ้วที่โดนกัด ๒ จุด หัวไหล่ ๒ จุด บริเวณสะโพกอีก ๒ จุด และต้องไปตามหมอนัดอีก คือ ยากันบาดทะยัก ๓ ครั้ง (ป้องกันได้ ๑๐ ปี แต่ถ้าเกิดบาดแผลต้องไปฉีดยากระตุ้นบาดทะยักนะครับ ไม่เช่นนั้นมีสิทธิ์เป็นบาดทะยักได้) ยาวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ๔ ครั้ง ต้องไปตามหมอนัดไม่เช่นนั้นต้องเริ่มต้นใหม่
โชคดีจังเลยค่ะที่เคยได้ยินท่านเล่าให้ฟังจากปาก ตอนที่ท่านเป็นวิทยากรเรื่องการนำจุดเน้นคุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตร 2551 สู่การปฏิบัติ ณ สนามกีฬากลาง พรุ่งนี้หนูสอบสัมภาษณ์กับท่านด้วย ตื่นเต้นจังค่ะกลัวตอบไม่ได้
สวัสดีค่ะ
ตามไปอ่านเพื่อนช่วยเพื่อน....
จากลำดวนด้วยนะคะ