ความสุขของลูก..คือความสุขของแม่
"ในที่สุด..ลูกชายตัวดีก็แคะกระปุกเพื่อซื้อหนู “แฮมสเตอร์”จนได้ค่ะ"
..
เช้าแก่ๆ วันพฤหัสที่ ๑๐ กุมภา พวกเราแม่ลูกไปเดินออกกำลังกันที่ม.เกษตรฯ
เพราะอยู่ใกล้บ้านและบางครั้งก็พาลูกไปว่ายน้ำที่นั่น ลูกเคยเรียนว่ายน้ำที่นั่นด้วย
เดินกันประมาณ ๑ ชั่วโมง แม่รู้สึกเจ็บขาขวา จึงหยุดเดิน
พวกเราแม่ลูก..มุ่งหน้าไปยังจุดมุ่งหมายต่อไป.. “สวนจตุจักร”
เพื่อดูและเลือกซื้อ “หนูแฮมสเตอร์” นั่นเอง..
..
ละลานตาไปด้วยสัตว์เลี้ยงหลายชนิด..
สุนัข แมว นก ปลาสวยๆ กระรอก กระต่าย ชูก้าร์ไรเดอร์(จิงโจ้บิน)
และหนูสองประเภท “แกสบี้” กับ “แฮมสเตอร์”
เพื่อนลูกชื่อ “น้องขมิ้น” ที่เป็นลูกสาวชาวชุมชนเสถียรธรรมสถาน
แนะนำร้าน บอกเวลาปิดเปิด ให้รายละเอียดการดูแลเลี้ยงอย่างดี
แต่ปรากฎว่าพวกเราหาร้านไม่เจอค่ะ
..
เดินดูหลายร้าน..จนในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกหนูแฮมสเตอร์ที่ร้านใกล้ทางออก
หนู”วินเทอร์ไวท์”ตัวผู้ ตัวสีขาวตัดเทา ตั้งชื่อล่วงหน้าตามการ์ตูน ชื่อ”แฮมแฮมทาโร่”
ส่วนตัวเมีย”ไวท์เพิร์ล” ตัวสีขาวทั้งตัว ลูกก็ตั้งชื่อล่วงหน้ามาแล้วว่า “ริบบิ้น” ค่ะ
ราคาตัวละ ๖๐ บาท สองตัว ๑๒๐ บาท ค่ากรง ค่าอาหารถุงและขี้เลื่อย
ลูกควักหมดกระปุก แม่ต้องเพิ่มให้ แต่ก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกที่สุดแล้วค่ะ
ถ้าเป็นกระต่าย กระรอก สุนัข แมว..แพงกว่านี้มากค่ะ
ถือว่าฝึกลูกให้รับผิดชอบ ดูแลสัตว์เลี้ยง..
..
เมื่อวันงานเกษตรแฟร์วันแรก ๒๘ มกราคม ก็ซื้อ “ปลากัดจีน” ให้เขาหนึ่งตัว
ลูกตั่งชื่อว่า “Blue Fish” เพราะสีของเขาเป็นสีฟ้าน้ำเงิน ตัวละ ๑๐ บาทเองค่ะ
พอแล้ว..สัตว์เลี้ยงของ “นายออม” ..เด็กชายวัย ๑๐ ขวบ
ที่ยอมให้เขาซื้อหนูแฮมสเตอร์ เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาเขารับผิดชอบดูแล
ตั้งแต่แมว(เก็บอึ๊ ให้อาหาร) ต้นไม้(รดน้ำทุกวัน) ปลากัด(เปลี่ยนน้ำ ให้อาหาร)
เพราะรู้ว่าเขาอยากได้มานานมาก ขนาดเก็บเงินซื้อ เลยต้องยอม
แต่คุยให้เข้าใจแล้วว่า..พอแล้วนะ..แค่นี้นะลูก..ประหยัดเก็บออมไว้ใช้ที่จำเป็น
..
เลี้ยงมา ๒ วันแล้ว..เจ้าหนูน่ารัก ชอบบวบ ชอบข้าวสารมากกว่าอาหารเม็ด
แม่ถูกใจมากๆค่ะ เพราะบ้านเราซื้อผักตุนไว้ทำกับข้าวเยอะ
มีที่หนูกินได้ด้วยเช่น บวบ ผักกาด แตงกวา ก็มีติดบ้านอยู่แล้ว
ประหยัดได้เยอะค่ะ หนูตัวเล็กกินไม่จุเท่าลูก..ฮาๆๆๆๆ
ลูกเห่อมากค่ะ..ค้นกูเกิ้ล ดูวิธีเลี้ยง พันธุ์ต่างๆ ก็ถือว่าเป็นการศึกษาค้นคว้า
จากการที่เด็กเลี้ยงจริง เขาสนุก มีความสุขมากๆเลยค่ะ..
ได้ความรู้ทั้งปฏิบัติจริง และทฤษฎีด้วย บอกให้เขาจดบันทึกเอาไว้ด้วย
ทั้งยังคิดประดิษฐ์ของเล่นให้หนู ทำจากวัสดุเหลือใช้
เช่น ท่อให้หนูวิ่งเล่น ทำจากขวดน้ำพลาสติคค่ะ ตัดหัว ตัดก้นออก
..
ขอจบบันทึกค่อนข้างยาวในวันนี้
ด้วยคำถาม-คำตอบจากเวบของเสถียรธรรมสถาน
เกี่ยวกับเด็กสมาธิสั้น
เป็นข้อคิดทางธรรมในการดูแลลูกที่ควรนำมาปฏิบัติ
เพราะความสุขของลูก..คือ..ความสุขของแม่ค่ะ
..
..ดอกไม้ที่เพาะเมล็ดมีแต่ "มอร์นนิ่งกลอรี่" ทีงอกงามค่ะ ดาวกระจาย..กระจุยหมด ..ฮาฮาฮา..
ลูกดิฉันสมาธิสั้น ดิฉันควรทำอย่างไรดีค่ะ และการมาทำกิจกรรมที่โรงเรียนพ่อแม่ จะทำให้ลูกมีสมาธิขึ้นหรือไม่
ตอบ : ให้คุณแม่สังเกตว่า ถ้าเด็กมีความพอใจอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเราเห็นเขามีความสุขกับสิ่งนั้นก็แสดงว่าเด็กคนนั้นนะมีสมาธิ โดยมี "กายอยู่กับกิจ.....จิตอยู่กับงาน" ดังนั้นเราจะเห็นว่าโรงเรียนพ่อแม่ตอบคำถามของพ่อแม่ ที่มักจะถามว่าลูกเมื่อลูกมีสมาธิสั้นควรทำอย่างไร สิ่งง่ายที่เด็กสังเกตและเรียนรู้จากผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ชิดนั้นคือ "การกระทำให้ดูมีความสุขกับการกระทำให้เห็น" นั้นศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าการบังคับให้กระทำในสิ่งที่เขาไม่ได้เลือก แต่ถ้าเมื่อเขาสามารถเลือกกระทำในสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างมีความสุข เมื่อเขาสามารถเลือกทำสิ่งนั้นได้อย่างยาวนาน จนเกิดความสำเร็จ เป็นความภาคภูมิใจในตนเอง และเมื่อเขามีความสุขที่เกิดขึ้นอย่างยาวนานและนั้นก็สามารถเรียกได้ว่าเขามีสมาธิกับการทำงาน
หวังดี..ประสงค์รักจากแม่..ถึงลูกออมค่ะ
ความเห็น (17)
สวัสดีค่ะ
เป็นความรู้สึกเป็นสุขและอบอุ่นมากค่ะ เมื่ออ่านจบ
น้องออมน่ารักค่ะ รักสัตว์หมายถึงมีความเมตตาสูง มีความรับผิดชอบ รู้จักประดิษฐ์ของเล่นได้อีก เกินพอแล้วค่ะสำหรับเด็ก ๑๐ ขวบ
ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจค่ะ
อย่าลืมแวะไปอ่านเรื่องเล่าเกี่ยวกับนักเรียนที่นี่นะคะ
น้องเขามีความสุขกับสิ่งที่เขาทำและทำด้วยใจแสดงว่า
ยังมีความคิดส่วนดีและตั้งใจดีในสิ่งที่ทำ...สบายใจได้ค่ะ
เมื่อเขาได้ทำในสิ่งที่ชอบและมีสมาธิกับสิ่งนั้น จะช่วยดึงอารมณ์ให้เย็นลง...
แอบอ่านบันทึกถึงลูกน้อย
น่ารักจังเลย
คุณแม่ก็อย่างนี้
สวัสดีค่ะ คุณกุลมาตา
meepole เคยเลี้ยง เจ้าhamster สมัยเป็นนักศึกษา (นั่นหมายความว่านานมากกกแล้ว:)
สมัยก่อนยังไม่มีการนำหนูชนิดนี้มาขายเกลื่อนแบบสมัยนี้เพราะที่เลี้ยงนั่นเพราะเป็นหนูที่ใช้ทดลองในห้อง lab และแอบขอจนท.เพิ่มมาเลี้ยงในที่พัก 1 คู่ เขาน่ารักปนงกด้วย อมอาหารในกระพุ้งแก้ม เวลานอนจะน่ารักเหมือนเด็กๆเลยค่ะ น้องออมเขาจะเพลิดเพลินไปกับความน่ารัก ของเจ้า hamster แน่นอนค่ะ
น้องออมลี้ยงสัตว์ชนิดนี้ควรให้ฉีดยากันบาดทะยักไว้ด้วย ลองปรึกษาหมอดูนะคะ ( สมัยเรียน meepole เลี้ยงสัตว์ทดลองกลุ่มหนู ต้องฉีดยานี้ค่ะ เพราะบางทีจับ เขาดิ้น ขีดข่วน)
meepole เอาเรื่องของอาหารที่ควรระวังของเจ้าหนูชนิดนี้มาให้อ่านค่ะ
Owning a pet hamster is a big responsibility and it is important to keep them as fit and healthy as possible. A large part of this is ensuring they get the right food coupled with fresh water and a safe cage with comfy bedding in which to live.
But what foods are the right foods for your pet hamster, and which must you absolutely avoid?
Firstly, do not be surprised if your hamster has their own particular likes and dislikes when it comes to food. The basic diet should consist of ready mixed hamster food, either in pellet form or as a loose mix that will contain seeds and dried vegetables. Ideally try and use a mix of these tow as the staple diet for your hamster and supplement it with smaller amounts of a variety of fresh fruit and vegetables.
Introduce new foods slowly, ideally one at a time, a little piece at a time. Allow a day or two before you try the food again so that they can get used to it and you can spot and adverse reactions.
Your hamster will like seeds, particularly sunflower seeds, peanuts, fruit and vegetables (apple and carrot are popular with most hamsters), but if something is rejected either try it a few days later or try an alternative. Rinse the pieces of fruit and vegetables well before you give them to your hamster and replace any part eaten food so that it does not rot in the cage.
Foods you must absolutely avoid include chocolate and other sweets or candies, raw potatoes and citrus fruit. Apple seeds, which can contain arsenic, should be avoided as although not harmful to us larger humans, to a small hamster they could be very dangerous if consumed over time.
In addition, dwarf hamsters can be prone to diabetes, so do not give them sugary treats including fruit.
Onions and foods from the onion family such as garlic and leeks should also be avoided as must almonds and rhubarb leaves and raw rhubarb
คุณคิม ค.ห.๑
ขอบคุณพี่คิมสำหรับกำลังใจค่ะ
แม่ก็ต้องช่วยแนะนำเขาค่ะ อะไรๆ ก็แพงทั้งนั้น
ถ้าไม่ฝึกให้ประหยัด ต่อไปจะไม่ไหวค่ะพี่คิม
ไปที่เสถียรธรรมฯ ก็เน้นเรื่องนี้ เรื่องมองที่ "คุณค่า" ไม่ใช่ "ราคา"
..
แล้วจะตามไปอ่านนะคะ..
คุณkrugui Chutima ค.ห.๒
เห็นว่าลูกเพลินมาก และรัมวที่เลี้ยงไบผิดชอบดีทุกวันค่ะ
ตื่นนอนแล้ว จะลงมารดน้ำต้นไม้ทั้งที่โตแล้วและที่ลองเพาะไว้
ให้อาหารสัตว์เลี้ยง เปลี่ยนน้ำปลาถ้าสกปรกมาก
แมวที่เคยเลี้ยงไว้ ๓ ตัว มาเองถูกรถทับตายไป ๒ ตัว
เลยยอมให้เขาเลี้ยงหนูแฮมค่ะ..สงสารเขาคิดถึงเจ้า ๒ ตัวที่ตาย
..
สังเกตลูกแล้ว ตรงกับที่เวบเสถียรธรรมฯ ตอบคำถามไว้จริงๆค่ะ
กิจกรรมที่เขาชอบ สร้างสรรค์ เขามีความสุขที่จะทำ ช่วยเพิ่มสมาธิได้
คุณโสภณ เปียสนิท ค.ห.๓
ทำไมต้องแอบอ่านคะท่านโสภณ
เด็กในเมือง ไม่มีธรรมชาติอยู่รอบตัวค่ะ ต้องช่วยลูก
ไม่งั้นจะไปเพลินกับศูนย์การค้า ของเล่น เกมส์คอม ทีวี
การให้เขาเลี้ยงสัตว์ ปลูกต้นไม้ ดีกว่าทุกอย่างค่ะ
แม่ตอนเด็กๆ เคยเลี้ยงเป็ดค่ะ อิอิ เลี้ยงแมวด้วย
ยังมีสวนผลไม้ของคุณป้า ที่คุณพ่อคุณแม่ไปฝากตอนปิดเทอม
เล่นในสวนกับเพื่อนๆแถวนั้น สนุกมากค่ะ..
น่ารักจังนะคะอาจารย์ หลานๆของนีนาถก็เลี้ยงเหมือนกันค่ะ...หลานๆเลี้ยงหนูแฮมเตอร์ต้องรับผิดชอบคนละตัว ...แต่ย่าเลี้ยงกระต่ายค่ะ...เสาร์-อาทิตย์หลานๆจะแวะมาเยี่ยมย่าและมาช่วยให้อาหารกระต่าย และช่วยแปรงขนกระต่ายด้วย...
ปีนี้ถ้า Apple ในสวนหลังบ้านออกลูกดกก็ต้องเป็นอาหารกระต่าย...แต่ตอนนี้ต้นApple ก็ถูกเจ้ากระต่ายทั้งหลายแทะไปแล้ว... มีต้น Apple ประมาณ 12 ต้น Asean Pear 4 ต้น ต้นเชอร์รี่ 5 ต้น....ที่ปลูกเยอะเพราะต้องการร่มเงา...จะเป็นสนามหญ้าทั้งหมดไม่ไหวเรื่องค่าน้ำประปาสำหรับฤดูร้อน.
เป็นกำลังใจให้อาจารย์นะคะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
คุณนีนาถ ค.ห.๕
ขอบคุณคุณนีนาถค่ะ ที่มาเล่าเรื่องหลานๆ
เขาอยู่กับธรรมชาติเพลินดีนะคะ เลี้ยงสัตว์ปลูกต้นไม้ แม่เองก็เพลิน
ขอบคุณมากๆ สำหรับกำลังใจค่ะคุณนีนาถ
คุณยาย ค.ห.๖
ขอบคุณดอกไม้งามๆ เหมือนคนส่งค่ะ..สดชื่นมาก..
แวะมาให้กำลังใจค่ะ สู้ ๆ นะคะ
ลูกชายเคยเลี้ยงเมื่ออายุสามสี่ขวบ จนบัดนี้(สิบสาม) เขายังมีความสุขเมื่อพูดถึง เจ้าแฮมสเตอร์สองตัว สีขาวนวล เจ้าไวท์ และ เจ้าจิ๋ว เพราะตัวเล็ก อยู่เลยค่ะ
มีความสุขไปด้วยเมื่ออ่านบันทึกนี้ค่ะ
คุณภูสุภา ค.ห.๙
ขอบคุณที่มาเล่าเรื่องลูกชายกับหนูแฮมค่ะ
เด็กๆ เลี้ยงสัตว์แล้วมีความสุข..ฝึกความเมตตากรุณารับผิดชอบ
มหัศจรรย์ของชีวิตน้อยๆค่ะ..