ปรัชญาเต๋า บอกว่า “คนเราไม่เคยนึกถึงตีน เมื่อรองเท้าไม่กัด”
คนเรามักมองไม่เห็นของดีที่ตนมีอยู่ จนเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว
ไม่เห็นคุณค่าของสองแขน จนกระทั่งมันอยู่ในเฝือก
ไม่เห็นคุณค่าของงาน(ที่เราว่าแย่ๆ) จนกระทั่งเราตกงาน
ไม่เห็นคุณค่าของคนรัก (ที่เราว่าไม่เพอร์เฟ็กท์) จนกระทั่งเธอหรือเขาไปแต่งงานกับคนอื่น
ไม่เห็นคุณค่าของพ่อแม่(ที่เราว่าขี้บ่น) จนกระทั่งไปงานศพของท่าน
ในชีวิตของคนเราเกิดมาเรารู้แต่วันเกิด แต่เราไม่มีทางรู้วันตาย ทุกคนเข้าใจสิ่งนี้ดีแต่จะมีสักกี่คนที่พยายามทำในทุกๆวัน ทุกๆวินาที ให้มีความหมาย หลายต่อหลายคนปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ บางคนไม่เคยบอกรักพ่อแม่เลย ไม่เคยกอดท่านเลย เพราะเกิดความเขินอาย บางคนไม่กล้าที่จะมอบสิ่งดีให้แก่คนอื่นเลย หรือบางทีก็ต้องรอถึงวันพิเศษเท่านั้น จริงๆแล้วเราจะรอไปทำไม เราควรที่จะลงมือทำเลยเพราะเราไม่สามารถล่วงรู้อนาคตได้ เราเกิดมาเราไม่มีอะไรติดตัวมาและพอเราตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้นอกจากความดีงามที่สั่งสมมา บางครั้งเรามองข้ามสิ่งดีๆที่เรามีไปและไม่เห็นคุณค่าของมันจนกระทั่ง เราไม่มีอยู่ข้างๆกายเหมือนเก่า หลายต่อหลายคนเคยเสียใจกับเหตุการณ์แบบนี้มามาก ดังนั้นหากเรายังมีเวลาเหลืออยู่ เราควรทำในสิ่งดีๆที่เราอยากทำโดยไม่ต้องรอถึงวันพิเศษ
จากประสบการณ์จริงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารู้จักกับคุณยายท่านหนึ่ง วันหนึ่งคุณยายไม่สบาย ข้าพเจ้าก็คิดอยู่ในใจว่าจะหาโอกาสไปเยี่ยมท่าน แต่ด้วยภาระหน้าที่บางประการทำให้ข้าพเจ้าไม่สามารถไปเยี่ยมท่านได้ ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ
จนแล้วจนรอดทั้งๆที่บ้านที่ท่านพักอาศัยอยู่ก็ไม่ไกลจากบ้านของข้าพเจ้ามากนักสามารถขี่รถไปได้ จนกระทั่งวันหนึ่งข้าพเจ้าได้ข่าวว่าท่านเสียแล้ว ข้าพเจ้าตกใจมาก รู้สึกเสียใจในใจลึกๆอยากบอกไม่ถูก แต่ก็นั่นแหละเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับชีวิตของข้าพเจ้า สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือเราควรจะบอกรักและทำดีกับทุกๆคนที่เรารู้สึกรักและรู้สึกดี อยากทำอะไรให้ใครก็ทำไปเลย ถ้าสิ่งที่ทำไม่ทำให้ใครเดือดร้อนและไม่เสียชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล ดีกว่าต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
สิ่งที่คนจำนวนมากเลือกทำ คือ บ่นว่าตนเองไม่มีความสุข ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่รวย ไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งนั้นสิ่งนี้ บางที ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่าโลกไม่มีความยุติธรรม ก่อนที่เราจะบ่น ลองมองตัวเราเองดูดีๆ เราจะพบว่าเรามีอะไรดีๆหลายอย่างที่คนอื่นๆไม่มี เราสามารถทำ “หนึ่งวันเดียวกัน” ของเราให้มีความหมายได้ก็ต่อเมื่อ เราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี และใช้วันนี้ วันแรกของวันที่เหลืออย่างคุ้มค่าที่สุด เพราะวันแรกของชีวิตที่เหลือนี้ช่างสั้นเหลือเกิน เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเรามี “วันแรกของวันที่เหลือ” อยู่อีกสักกี่วัน ดังนั้นลองมองย้อนดูตัวเองว่าวันนี้คุณได้ทำดีกับคนที่คุณรักและรักคุณบ้างหรือยัง
ไม่มีความเห็น