ในช่วงเวลาไม่นานมานี้ ที่โรงเรียนได้มีการจัดการเรียนรู้แบบใหม่ที่เรียกว่า BBL (Brain Based Learning) คือการเรียนรู้ด้วยสมอง 2 ซีกไปพร้อมๆกัน เด็กสามารถเรียนรู้จดจำจากการเล่น และกิจกรรมที่ไม่ได้มาจากเรียนบนกระดานอย่างที่ผ่านๆมา ซึ่งได้ทดลองสอนในชั้นอนุบาล และ ประถมปีที่ ๑
ทุกเช้าเด็กๆจะทำกิจกรรมการออกกำลังกายด้วยเครื่องเล่นต่างๆ มีทั้งกระโดด ปีนป่าย หมอบคลาน แล้วแต่ว่าโจทย์ของการเล่นวันนั้นจะเป็นอย่างไร เด็กจะรู้จักการสรางภาพในสมองเพื่อกะ ระยะของสิ่งที่อยู่ตรงหน้าประสาทสัมผัสทุกส่วนจะถูกควบคุมด้วยสมอง และทำตามที่สมองสั่งการ กล้ามเนื้อหมัดเล็กและหมัดใหญ่ถูกใช้งานในเวลาเดียวกัน เด็กได้ใช้พลังงานอย่างเต็มที่ในการเล่น
จากนั้นจะเป็นในส่วนของการเรียนการสอน การเรียนการสอนแบบ BBL นั้นที่โรงเรียนจะเน้นเป็นกิจกรรมให้เด็กได้เรียนรู้มากกว่าการเปิดตำราแล้วท่องจำ หรืออ่านตามครู เป็นการเรียนที่เด็กต้อง ปฏิบัติตามกิจกรรมนั้นที่ครูสรางขึ้นเช่น กระโดดไปตามคำที่ครูบอก เด็กจะรู้ว่าคำนี้อ่านว่าอย่างไร เขียนอย่างไร แล้วครูจะเป็นผู้ชักนำ ให้นักเรียนคิดและจินตนาการไปตามคำคำนั้น ในบางชั่วโมงอาจจะเล่านิทาน สอกแทรกการสอนการอ่านไปในตัว
หลังจากที่ทดลองการสอนไปช่วงหนึ่ง เห็นได้ชัดว่านักนักเรียนมีการคิดต่อยอดจากสิ่งที่เห็น และเรียนรู้มากกว่าที่เคย ความใกล้ชิดระหว่างครู กับนักเรียนลดลง แต่ยังมีความเคารพตามมารยาทที่สมควรปฏิบัติอยู่ เด็กเริ่มมีความกล้าแสดงออก รู้จักการริเริ่มสร้างสรรค์ ที่สำคัญคือ การมาเรียนเป็นเรื่องสนุกสนาน และมีความสุขที่ได้เรียนรู้ เมื่อเด็กมีความสุขที่จะเรียนรู้ ความรู้ที่ได้รับจะเต็มร้อย
และอะไรอื่นจะสำคัญเท่าความภูมิใจของผู้ที่เป็นครูที่ได้สร้างเยาวชนที่พร้อมในการเรียนรู้ออกสู่นอกรั้วโรงเรียน
(เป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากที่ประสบมาเท่านั้นไม่ได้อิงสาระใดๆทั้งสิ้น)
ไม่มีความเห็น